บทที่ 460 อ๋องตวนตัวจริง

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 460 อ๋องตวนตัวจริง
อวิ๋นหลัวฉวนพูดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่กินข้าวสักคำ

“ท่านพี่เสียนเฟย ท่านพูดอะไรหน่อยซี” อวิ๋นหลัวฉวนเฝ้ารออย่างกังวล

ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองนางนิดหนึ่ง “เดิมทีท่านดูเป็นคนฉลาดเฉียบแหลม เหตุใดตั้งแต่อยู่ร่วมกับท่านอ๋องตวนท่านจึงได้กลายเป็นคนเขลา เราเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กัน ท่านอ๋องตวนและท่านอ๋องเย่เป็นพี่น้องแท้ๆ ลูกของพวกเราใกล้ชิดกัน เป็นญาติกัน หากแต่งงานกัน ในอนาคตอาจมีปัญหาเรื่องการให้กำเนิดบุตร ข้าเป็นหมอ ท่านเชื่อข้าสิ”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไรต่อ ฉีเฟยอวิ๋นจึงถามว่า “ท่านบุ่มบ่ามมาหาข้าเช่นนี้คงไม่ใช่เพราะเรื่องลูก ท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น แม้ว่าการหาสามีที่เหมาะสมให้กับลูกจะเป็นหลักประกันความมั่นคงอย่างหนึ่ง แต่ท่านจะไม่ทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ จะต้องมีเหตุผลบางอย่างท่านจึงได้ทำเช่นนี้”

เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไร ฉีเฟยอวิ๋นจึงยิ่งแน่ใจในความคิดของนางมากขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นใช่หรือไม่”

อวิ๋นหลัวฉวนเหลือบมองฉีเฟยอวิ๋น “วันนี้ข้าไปหาจงชินอ๋อง

ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่ได้ยินมาว่าจงชินอ๋องไม่สบาย ได้ยินคนที่จวนกั๋วกงบอกว่าสองวันมานี้ท่านอ๋องตวนก่อเรื่องและทำร้ายจงชินอ๋อง ข้ากลัวว่าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บก็เลยแอบไปดู”

“แล้วท่านมาที่นี่เพื่อจะให้ข้าไปตรวจดูจงชินอ๋องงั้นหรือ”

อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า “ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ที่จวนของจงชินอ๋องมีหมอประจำจวนคนใหม่ เป็นคนที่มีฝีมือดีมาก เขาตรวจโรคต่างๆ ดูแล้วและจงชินอ๋องก็พึ่งพาเขาได้มาก

จงชินอ๋องถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บภายใน ตอนที่ข้าไปเยี่ยมเขาเขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด ตอนแรกข้ากังวลว่าจงชินอ๋องจะอาการแย่ แต่หมอประจำจวนบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แม้ว่าคราวนี้จงชินอ๋องจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน

ข้าถามว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเรื่องดี หมอประจำจวนผู้นั้นบอกข้าว่าแต่ก่อนท่านจงชินอ๋องเคยถูกคนทำร้ายมาก่อนจนมีเลือดคั่งในอก ตอนแรกอยากจะผ่าเอาเลือดออกแต่ติดอยู่ที่หมอประจำจวนไม่มั่นใจว่าจะทำได้ คราวนี้เมื่อถูกท่านอ๋องตวนทำร้ายก็พอดีไปทำให้จุดที่มีเลือดคั่งแตกออก นับเป็นความโชคดีในความโชคร้าย

เวลานั้นข้าทั้งดีใจทั้งกังวล เพราะถึงอย่างไรก็เป็นท่านอ๋องตวนที่ไปลงไม้ลงมือกับผู้อื่น

แต่ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องรอง หมอประจำจวนนั่นมองข้าแปลกๆ พอข้าถามว่ามีอะไรเขาก็บอกว่าสีหน้าของข้าดูไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าสุขภาพมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า

แน่นอนว่าข้าปฏิเสธ แต่หมอประจำจวนผู้นั้นกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ ข้าเองก็ประหลาดใจเล็กน้อย

พูดกันไปได้สองสามคำก็ถูกเขาหลอก ยอมฟังตามคำของหมอประจำจวน เพื่อให้เขาพิสูจน์ให้ข้าดู ข้าจึงยื่นมือให้เขาตรวจ เขาตรวจให้ข้าและบอกว่าข้ามีภาวะมีบุตรยาก ข้าก็พอเข้าใจแต่ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจัง

ข้าจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าจงชินอ๋องน่าจะเป็นผู้นำกลุ่มหนึ่งของจงชิน ข้าจึงไม่อาจทำใจเชื่อพวกเขา

หมอประจำจวนอยากให้ข้าอยู่เพื่อจะได้ช่วยรักษาให้ข้า ข้าจึงปฏิเสธและกลับไปที่จวนกั๋วกง

ข้าไม่เชื่อจึงลองให้หมอประจำจวนกั๋วกงตรวจให้ข้า หมอประจำจวนดูแล้วก็บอกอย่างเดียวกัน ข้าจึงได้มาที่นี่”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไรอีก ฉีเฟยอวิ๋นยื่นมือออกไปจับข้อมือของอวิ๋นหลัวฉวนและตรวจร่างกายให้นาง

“ท่านพี่เสียนเฟย ข้าอยากจะหาพระชายารองให้ท่านอ๋องตวนสักคนหนึ่ง ข้า…”

“จงชินอ๋องมีปัญหาจริงๆ”

ฉีเฟยอวิ๋นมองอวิ๋นหลัวฉวนและปล่อยมือออก

“อาอวี่ ไปที่จวนอ๋องตวนและรีบเชิญท่านอ๋องตวนมาที่นี่เดี๋ยวนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อาอวี่หันหลังและวิ่งออกไป อวิ๋นหลัวฉวนรู้ว่ามีปัญหาและไม่มีทางยับยั้ง

“พ่อบ้าน ไปเชิญท่านอ๋องมาที บอกเขาว่าอย่าเพิ่งหลับ เราจะกลับเดี๋ยวนี้”

พ่อบ้านโค้งคำนับและรีบไปที่เรือนของฉีเฟยอวิ๋น

แม่ทัพฉีที่ออกมาจากห้องฝึกซ้อมมองเห็นพ่อบ้านเดินเข้าไปในเรือนของบุตรสาว เขาคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงเดินตามไป

หนานกงเย่ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าและก้าวออกมาจากห้อง เขามองแม่ทัพฉีที่เดินมาและอธิบายให้ฟังสองสามคำก่อนจะเดินไปที่ห้องโถง

เพื่อให้สะดวกในการพูดคุยเมื่อมีคนมาหา ฉีเฟยอวิ๋นจึงใช้ห้องโถงทางด้านตะวันตกของเรือนเป็นที่สำหรับรับรองแขก หนานกงเย่รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนของลูกเขาจึงตรงไปที่นั่น

แม่ทัพฉีเดินเข้ามา อวิ๋นจิ่นตามเข้ามาด้วยและคอยดูแลเด็กด้วยกัน

ในไม่ช้าฉีเฟยอวิ๋นก็กลับมาถึงห้องโถงทางด้านตะวันตก เมื่อเห็นแสงไฟจากด้านในนางจึงตรงเข้าไป

เวลานี้หนานกงเย่เงยหน้ามองฉีเฟยอวิ๋น “อวิ๋นอวิ๋น”

“ท่านอ๋อง”

“ท่านอ๋องเย่” ทุกครั้งที่อวิ๋นหลัวฉวนต้องจัดการธุระ นางจะดูเหมือนคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่พูดและทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นงานเป็นการ แตกต่างจากในยามปกติราวกับเป็นคนละคน

หนานกงเย่ลุกขึ้น ด้วยฐานะที่เป็นอยู่เขายังคงต้องให้ความเคารพอวิ๋นหลัวฉวน

“พระชายาตวน!”

“ท่านอ๋องตวนไม่จำเป็นต้องสุภาพนัก วันนี้ข้ามารบกวนพวกท่าน” ขณะที่อวิ๋นหลัวฉวนกำลังพูด ใครคนหนึ่งก็มาถึงประตู แค่ได้ยินเสียงฝีเท้า หนานกงเย่ก็รู้ทันทีว่าเป็นอ๋องตวนและเงยหน้ามองที่ประตู อาอวี่พาอ๋องตวนมา เขาเคาะประตูและรายงาน

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องตวนมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เข้ามาสิ”

ทันทีที่สิ้นเสียงของหนานกงเย่ อาอวี่จึงเปิดประตูพาอ๋องตวนที่สวมชุดผ้าไหมก้าวเข้ามาข้างใน สีหน้าของเขาเวลานี้เคร่งขรึมและจริงจัง หากไม่ใช่หยดเหงื่อบนหน้าผากของเขาก็คงดูไม่ออกว่าเขามีอะไรที่แตกต่างตรงไหน

อวิ๋นหลัวฉวนเป็นกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นอ๋องตวน แต่มองได้เพียงนิดเดียว อ๋องตวนที่ก้าวเข้ามาในห้องก็คว้ามือของอวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้

อ๋องตวนกุมมืออวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้และวางมือไว้ทางด้านหลัง มีเพียงอวิ๋นหลัวฉวนเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ

อวิ๋นหลัวฉวนเงยหน้ามองใบหน้าที่หล่อเหลาของอ๋องตวนและอดดึงแขนเสื้อมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเขาไม่ได้

อ๋องตวนไม่ได้มองอวิ๋นหลัวฉวน แต่มือนั้นกลับกุมมือของนางไว้แน่นขึ้น

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า “เชิญนั่งเพคะท่านอ๋องตวน”

อ๋องตวนจูงอวิ๋นหลัวฉวนเดินเข้าไปนั่งด้านใน

หลังจากพากันนั่งลงแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังอีกครั้ง อ๋องตวนออกแรงกุมมืออวิ๋นหลัวฉวนไว้เหมือนคีมที่บีบแน่น อวิ๋นหลัวฉวนมองเขา “ข้าไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะ เพียงแค่ไปดูจงชินอ๋องว่าเป็นอย่างไรบ้างหลังจากถูกท่านทำร้าย”

“เรื่องนี้เมื่อกลับไปแล้วค่อยคุยกัน” อ๋องตวนหันไปมองหนานกงเย่ “เจ้าเห็นเป็นเช่นไร”

“อวิ๋นอวิ๋นสงสัยว่าเป็นจงชินอ๋อง แต่ข้ายังพิสูจน์ไม่ได้”

“นั่นก็คือ เขาเป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุด” อ๋องตวนเฉลยออกมา แต่ไม่มีใครแปลกใจ

ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองอ๋องตวนที่อยู่ข้างๆ คนที่รู้สึกแย่ที่สุดในเวลานี้ต้องเป็นอ๋องตวนอย่างไม่ต้องสงสัย

ภัยคุกคามจากจงชินอ๋องยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังเป็นท่านอ๋องที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาย่อมต้องอารมณ์ไม่ดีเป็นธรรมดา

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น แต่เวลานี้มีปัญหาอย่างหนึ่งคือเขาเริ่มร้อนใจ” หนานกงเย่อมยิ้มมุมปาก แต่อ๋องตวนยิ้มไม่ออก

“ฆ่าข้าไม่ได้ก็มาทำลาย ดูเหมือนเขาจะยังมุ่งหวังในตัวฉวนเอ๋อร์มิใช่น้อย”

“ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล ข้าไม่มีทางทรยศท่าน!” อวิ๋นหลัวฉวนรีบจับมือของอ๋องตวนไว้

อ๋องตวนมองนางอย่างขุ่นเคือง “ท่านคิด แต่มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ท่าน!”

อวิ๋นหลัวฉวนงงงัน ไม่รอให้นางพูดอะไรอ๋องตวนก็ส่งเสียงฮึในลำคอ “ข้าไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ ในเมื่อกล้ามาสนใจพระชายาของข้า บอกมาเถิดว่าควรจะทำเช่นไร ข้าจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง อยากได้คนหรือว่าเงิน”

อวิ๋นหลัวฉวนเขินอายจนหน้าแดง

ฉีเฟยอวิ๋นคิดว่านี่แหละคืออ๋องตวนตัวจริง เทียบกับอ๋องตวนที่เคยอ่อนโยนช่างเอาใจใส่ แม้แต่จะโกรธสักนิดก็ไม่เคย แบบนี้ต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา!

“เรื่องนี้ยังต้องให้ท่านมาจัดการ มาว่าถึงเรื่องสุขภาพของพระชายาตวนกันก่อน พระชายาตวนไม่ได้มีบุตรยาก แต่ข้าตรวจพบว่าในร่างกายของนางมียาที่มีส่วนประกอบของดอกมะเขือม่วง สิ่งนี้เป็นยาคุมกำเนิด กล่าวก็คือมันจะทำให้นางไม่ท้อง!”

อ๋องตวนมีสีหน้ามึนตึง เขากระชับมือของอวิ๋นหลัวฉวนแน่น “สมควรตายไปซะ ข้าจะไม่ยกโทษให้พวกนั้นเด็ดขาด”

อวิ๋นหลัวฉวนเองก็ตกใจเช่นกัน นางมองใบหน้าที่ทั้งหล่อเหลาและดูเคียดแค้นในเวลาเดียวกัน “ท่านอ๋อง…”

อ๋องตวนดึงอวิ๋นหลัวฉวนเข้าไปไว้ในอ้อมกอดและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ