หลังจากออกข่าวนี้ได้สองวัน ไกรภพก็โทรมาหาเทาเท่ด้วยตัวเอง ดูออกว่าวิธีการนี้ได้ผลดีเยี่ยมไกรภพเป็นฝ่ายติดต่อพวกเขาตามคาด

ทว่าไกรภพในสายกลับมีน้ำเสียงใจเย็น เขาพูดประชดเทาเท่ว่า“นายคิดว่าแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกคนแล้วจะยั่วโมโหกูได้เหรอ?”

เทาเท่ย้อนถามอย่างไม่สะทกสะท้าน“ถ้าไม่ถือสา ทำไมถึงโทรหาผมล่ะ?”

ไม่รอให้ไกรภพตอบ เทาเท่พูดต่อไปว่า“ผมได้ยินว่าคุณส่งคนไปสืบผลการเรียนของพี่สาวที่มหาวิทยาลัย เป็นไงล่ะ?สืบได้ว่าพี่สาวที่คุณคิดว่าเรียนดีมารยาทงามเป็นนักศึกษาไม่ได้เรื่องแล้วรู้สึกยังไง?”

เกิดเสียงกัดฟันของไกรภพในสาย เทาเท่พูดต่อไปว่า“ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย พี่สาวคุณเรียนดีมารยาทงามจริง ๆ และเคยได้รับทุนการศึกษามากมาย แต่เสียดายที่ภายหลังเธอไม่มีใจเรียนแล้ว”

“อยากรู้ว่ากูโทรหามึงทำไมไม่ใช่เหรอ?” ไกรภพพูดแทรกบทเทาเท่ พลางหัวเราะอย่างน่าสะพรึงกลัวขึ้น“กูแค่อยากให้มึงฟังน้องสาวแสนดีของมึงเท่านั้นเอง”

ไกรภพสิ้นเสียง ปลายสายก็ส่งเสียงร้องไห้จะเป็นจะตายขึ้นมา“พี่ ช่วยน้องที ช่วยน้องที”

พินอินร้องไห้ฟูมฟาย“ฉันถูกไกรภพบังคับให้เสพยา ตอนนี้ทรมานมาก พี่ชาย ถ้าพี่ยังไม่มาช่วยฉัน ฉันต้องตายจริง ๆ แน่!”

“พวกเขา…….พวกเขาตีฉันด่าฉันทุกวัน ยังไม่ให้ฉันกินข้าวด้วย……”

“พี่…….” พินอินตะโกนสุดเสียงเสร็จก็คล้ายกับหมดสติไป

ตอนที่เทาเท่รับสายได้เปิดลำโพงไว้ หลินจือจึงฟังอยู่ข้าง ๆ ด้วย เมื่อได้ยินเสียงของพินอิน สีหน้าหลินจือพลันซีดขาว

การติดสารเสพติดไม่ใช่เรื่องเล็กเลย

เรื่องนี้ร้ายแรงมาก และไม่รู้ว่าพินอินติดถึงขั้นไหนแล้ว ถ้าติหนักอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้

หลินจือเงยหน้ามองเทาเท่ด้วยความตึงเครียด ซึ่งเห็นสีหน้าเทาเท่ก็ไม่สู้ดีนัก

ทว่าเทาเท่ยังคงใจเย็นอยู่ พินอินตกอยู่ในสภาพนี้ สาเหตุหลักเป็นเพราะเธอทำตัวเหลวแหลกเอง

ข้างหูส่งเสียงเย็นยะเยือกของไกรภพมา“เป็นไง?ได้ยินแล้วใช่ไหม?ท่านประธานเทาเท่”

เทาเท่กล่าวเสียงเย็นเยียบ“ก่อนที่คุณจะเรียกร้องอะไร ผมขอเกริ่นก่อนว่า ไม่ว่าเธอจะแย่แค่ไหน แต่ผมก็ไม่คิดช่วยเธอ”

ไกรภพเป็นฝ่ายโทรหาเขาด้วยตัวเอง และยังบอกว่าตอนนี้พินอินน่าเวทนาขนาดไหน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการให้เขาช่วยพินอิน ซึ่งหากเขาลงมือช่วยเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็นฝ่ายรับทันที

ดังนั้นสงครามจิตวิทยาครั้งนี้ เขาจะพ่ายแพ้ไม่ได้

ไกรภพก็ไม่ใช่เด็กอมมือ เขาไม่สนใจว่าปากเทาเท่จะบอกว่าไม่ช่วยพินอิน เขาเอาแต่พูดเงื่อนไขของตัวเองท่าเดียว “ตอนนี้กูจะพาพินอินออกไป อีกสี่สิบนาทีพวกกูจะถึงเขาเอสเลย์ถ้ามึงอยากช่วยคน มึงต้องมาที่เขาเอสเลย์ภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่งั้นก็รอเก็บศพของพินอินได้เลย”

“อีกอย่าง กูขอเตือนด้วยความหวังดีเลยนะ สารพิษในร่างกายพินอินเกินปริมาณแล้ว ถ้ายังไม่รีบพาเธอไปหาหมอ เธอต้องตายในไม่ช้าแน่”

“อย่าหวังว่าจะให้ตำรวจแอบติดตามมาด้วย ทุกเส้นทางเข้าที่เขาเอสเลย์มีคนของกูเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ ถ้าพวกเขาเห็นว่ามึงพาตำรวจมาด้วย กูจะฆ่าพินอินทันที”

ไกรภพกล่าวจบไม่รอให้เทาเท่พูดสิ่งใดก็ตัดสายทิ้งทันที

เขาพนัน เขาพนันว่าเทาเท่จะมาช่วยพินอินคนเดียว

ถึงแม้เทาเท่ใจแข็งไม่มาช่วย แต่ก็ยังมีวีนาอีกคน เมื่อกี้เขาให้พินอินโทรหาวีนาแล้วร้องไห้บอกว่าตัวเองกำลังจะถูกฆ่า ให้รีบมาช่วยเธอโดยด่วน

ที่พึ่งเดียวของวีนาก็คือเทาเท่ ต้องกดดันให้เทาเท่มาช่วยแน่

ดังคาด เทาเท่ยังคงกุมมือถือที่ไกรภพตัดสายทิ้งแล้วตรึกตรอง วีนาก็โทรมาหาเขาจริง ๆ

วีนาร้องไห้แทบขาดใจตาย ขอให้เทาเท่หาหนทางช่วยพินอินออกมา

เทาเท่ตัดสายทิ้งด้วยความตึงเครียด ไม่ใช่จะตัดสินกันง่าย ๆ ว่าจะช่วยพินอินหรือไม่?

ในเมื่อไกรภพคิดแต่จะล้างแค้น ดังนั้นคงไม่อยากมีชีวิตต่อแน่ และดูจากแผนการของคู่กรณีที่ล่อเขาไปที่ป่าลึก คาดว่าคงอยากจะเอาชีวิตสองพี่น้องในครั้งเดียว!

ถ้าพินอินมีวุฒิภาวะพอ พวกเขาก็ไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

หลินจือรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี จึงหมุนกายไปริมน้ำอุ่นมาให้เขา

หลินจือรู้สึกสงสารเขายิ่ง เขาพึ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน ไกรภพก็เล่นงานเขาแบบนี้แล้ว

เขาเอสเลย์คือภูเขาลูกเดียวของเมืองเจสเวิร์ด และเป็นภูเขาสูงชัน ต้องบอกว่าความคิดไกรภพโหดร้ายมาก เมื่อล่อเทาเท่ไปยังป่าลึก ถึงจะส่งคนไปช่วยภายหลังก็ยากจะประสบความสำเร็จ

เทาเท่ดื่มน้ำหมดแก้ว เงยหน้าถามหลินจือ“คุณอยากให้ผมไปช่วยเธอไหม?”

หลินจือเม้มปากเงียบชั่วครู่ สุดท้ายก็เอ่ยปากพูดว่า“ถึงแม้เธอไม่รู้ความ แต่ก็ดูเธอถูกไกรภพฆ่าตายไม่ได้ใช่ไหม?”

หลินจือพูดจบก็เดินเข้าไปสวมกอดเขา พูดด้วยอารมณ์สงสารระคนความเสียใจ“มีวิธีดี ๆ บ้างไหม ช่วยเธอออกมาได้และคุณก็สามารถกลับมาอย่างปลอดภัย?”

เทาเท่กอดเธอแนบแน่นพร้อมทั้งพูดเสียงเบาว่า“ผมจะโทรหาโซเมน”

“ไกรภพไม่ให้ผมแจ้งความ ให้ผมไปคนเดียว งั้นผมก็ไปหาพวกเขาด้านหลัง แล้วให้โซเมนขึ้นเขาจากทางด้านหลัง จะได้แอบช่วยผมอีกทาง”

กลัวหลินจือจะเป็นห่วงความปลอดภัยของโซเมน เทาเท่รีบอธิบายว่า“โซเมนเป็นคนรักสนุก จึงถนัดการออกกำลังกายด้านนอก โดยเฉพาะการเดินไกลและการปีนเขา”

“งั้นก็ดีค่ะ” หลินจือคิดว่าเมื่อเทาเท่ตัดสินใจจะทำแบบนี้แล้ว ฉะนั้นเขาต้องมั่นใจในความสามารถของโซเมนเต็มร้อยแน่

เทาเท่โทรหาโซเมน โซเมนไม่ชักช้ารีบตอบตกลงทันที และบอกว่าพอเตรียมอุปกรณ์เสร็จจะออกเดินทางทันที

โซเมนชำนาญเส้นทางเขาเอสเลย์มาก หลายปีมานี้เขาจับกลุ่มไปเดินป่าทั่วทุกมุมของเขาเอสเลย์มาแล้ว และที่สำคัญเขายังเคยใช้เส้นทางเล็กที่ไม่มีคนรู้ขึ้นเขามาแล้วด้วยไกรภพบอกว่ามีลูกน้องเฝ้าสอดแนมทุกเส้นทาง แต่เส้นทางที่เขาว่าก็แค่เส้นทางใหญ่ที่รถและคนสัญจรได้เท่านั้น

ทางโซเมนเตรียมตัวออกเดินทาง เทาเท่ก็เร่งเตรียมตัวเช่นกัน

ตอนจะออกไป หลินจือกำชับเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ“ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”

“ได้” เทาเท่ให้คำมั่นสัญญาด้วยสีหน้าเคร่มขรึม“พอผมกลับมาพวกเราก็จะรีบไปแต่งงานกันใหม่”

หลินจือขานรับด้วยน้ำตา

ถ้าเป็นไปได้ เธอไม่อยากให้เขาเกิดเรื่องขึ้นอีก

เทาเท่ไม่เสียเวลา อำลาเธอเสร็จก็ขับรถออกเดินทาง

หลินจือเครียดจนไม่อาจหายใจเป็นปกติ และความเครียดนี้มีแต่รอให้เทาเท่กลับมาถึง และเธอได้เห็นกับตาตัวเองว่าเขาปลอดภัย อาการนี้จึงจะหายไป