ตอนที่ 204 ประธานซือคนขี้หึง / ตอนที่ 205 เพื่อนธรรมดา

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 204 ประธานซือคนขี้หึง 

 

 

           “สองวันนี้รบกวนประธานซังดูแลแล้ว หาสถานที่ที่ตัดจากโลกภายนอกให้เฉินเฉินได้แก้เซ็ง ประธานซังมีน้ำใจจริงๆ” 

 

 

           ซังจิ่งเลิกคิ้ว ซือเหยี่ยนคนนี้พูดจาทิ่มแทงทุกคำจริงๆ ประโยคที่พูดมาถากถางเขาทั้งนั้น 

 

 

           ‘แต่ว่าเขาชอบเป็นอริกับคนที่รู้สึกขัดหูขัดตากับตัวเองด้วยสิ’ 

 

 

           “ผมกับมู่เฉินรู้จักมานานขนาดนี้ เห็นเขาอารมณ์ไม่ได้ เลยพามาแก้เซ้งก็เป็นเรื่องที่สมควรทำเป็นธรรมดา ตามใครที่ว่าๆ กัน เพื่อนต้องเป็นเกราะกำบังให้กันอยู่แล้ว” 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินเขาสองคนพูดก็ปวดหัว อีกคนขุดหลุมฝังศพได้ยิ่งกว่าอีกคนอีก ที่สำคัญคือพวกเขาจะขุดหลุมกันเองก็ช่างเถอะ อย่าเอาเขาเข้าไปเอี่ยวด้วยสิ 

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าวันดีๆ ของตัวเองอีกไม่นานจะต้องสิ้นสุดแล้ว 

 

 

           “พอแล้วพวกนายสองคน” เขากลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีก ก่อนเอ่ยถาม “มีน้ำไหม ฉันกระหายน้ำจะตายอยู่แล้ว” 

 

 

           ซังจิ่งอยู่ใกล้รถมากว่าพอดี เขายื่นมือไปหยิบขวดน้ำจากข้างในส่งต่อให้เจียงมู่เฉิน ซือเหยี่ยนแพ้ตรงระยะทาง เข้าไปหยิบน้ำให้ไม่ทัน 

 

 

           เขาทำหน้าดุๆ มองเจียงมู่เฉิน เป็นนัยว่า ถ้ากล้ารับน้ำของซังจิ่ง ก็ลองดูสิ 

 

 

           เจียงมู่เฉินปวดหัวจนอดจะเอามือกุมขมับไม่ได้ ซือเหยี่ยนข่มขู่เขาขนาดนี้แล้ว มีหรือเขาจะกล้าหยิบ 

 

 

           “คือว่า…จู่ๆ ฉันก็ไม่กระหายน้ำแม้แต่นิดเดียวแล้ว” 

 

 

           เจียงมู่เฉินอยากร้องไห้ ทั้งที่ซือเหยี่ยนเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน ทำไมตอนนี้ถึงสลับกันได้ ซือเหยี่ยนกลายเป็นผู้ถูกทำร้ายไปแล้ว? 

 

 

           เหนื่อยมาทั้งเช้า น้ำก็ยังไม่ได้ดื่ม เจียงมู่เฉินตากแดดจนหน้าจะมืดแล้ว มายืนแบบนี้ต่อไปกับพวกเขา ชีวิตน้อยๆ จะไม่เหลือแล้ว 

 

 

           “เอาไง คิดจะยืนเป็นหินสลักที่นี่อยู่หรือไง” เจียงมู่เฉินอดจะเลิกคิ้ว เอ่ยประชดใส่ไม่ได้ 

 

 

           “สายแล้ว ควรลงไปกินข้าวได้แล้ว” เขาพูดไปก็เปิดประตูรถ “ไปกันเถอะ ลงไปกัน” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง “คุณจะนั่งรถเขาเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นเขาทำหน้าตาดุขู่ใส่ตัวเอง ไฟโมโหก็ลุกโชนขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น เขาเข้าไปนั่งในรถทันที “ก็ฉันจะนั่งวันนี้” 

 

 

           ‘ทีเขาเองเจ้าชู้ประตูดิน ตัวเองก็ไม่ว่าอะไร พอตอนนี้ตัวเองแค่นั่งรถยังจะมาข่มขู่กันอีกเหรอ’ 

 

 

           ‘เขาเจียงมู่เฉินโดนข่มขู่มากแล้วใช่ไหม’ 

 

 

           ‘ยิ่งข่มขู่เขา เขาก็ยิ่งจะนั่งให้ดู!’ 

 

 

           ซังจิ่งยกมุมปากขึ้นอย่างลำพองใจ “ขออภัยจริงๆ สองวันมานี้มู่เฉินนั่งรถคันนี้กับผมจนชินแล้ว ไม่ขอรบกวนประธานซือแล้วกัน” 

 

 

           ซือเหยี่ยนโดนท่าทีแบบนั้นของเจียงมู่เฉินทำให้โมโหจนแทบจะกระอักเลือด ยังมาได้ยินคำพูดของซังจิ่งอีก อดจะขบกรามหนักๆ ไม่ได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินกลับกระเฟียดกระฟาดใส่เสียอย่างนั้น ดูท่าว่าจะโกรธเขาถึงที่สุดแล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนกัดฟันกรอดๆ เขาเปิดประตูรถแล้วเข้าตามไปนั่งข้างใน ซังจิ่งทำหน้างุนงง นี่ต้องการจะทำอะไรเหรอ 

 

 

           “ประธานซังคงจะไม่ถือสาที่จะช่วยพาผมลงไปด้วยหรอกใช่ไหม” 

 

 

           ซังจิ่งเลิกคิ้ว มาดหัวสูงขี้เก๊กของนายล่ะ แอบขึ้นรถฟรีเรื่องแบบนี้ก็กล้าทำออกมาได้เหรอ 

 

 

           “ไม่ถือสาอยู่แล้ว” 

 

 

           รถของซือเหยี่ยนจอดอยู่ข้างทางอย่างน่าสงสาร คนขับรถเห็นซังจิ่งขับรถออกไป เขาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาโดนซือเหยี่ยนทิ้งไว้กลางทางแล้ว? 

 

 

           ผู้ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยอย่างคนขับรถค่อยๆ ขับรถตามหลังลงเขาไป 

 

 

           บรรยากาศในรถของซังจิ่งแปลกประหลาดไม่เบา เจียงมู่เฉินนั่งที่นั่งข้างคนขับมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ซือเหยี่ยนก็นั่งนิ่งอยู่ที่นั่งข้างหลัง สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่เจียงมู่เฉิน 

 

 

           ซังจิ่งรู้สึกว่าบรรยากาศในรถช่างน่าเบื่อเกินไปจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจหาหัวข้อเปิดประเด็น “ประธานซือ ทำไมจู่ๆ ถึงมาได้”  

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเจียงมู่เฉินเผยอปากเอ่ยขึ้น “ตามหาคน”        

 

 

           ซังจิ่งเชิดริมฝีปาก “ครั้งนี้ที่ประธานซือมาคงจะไม่ได้ตั้งใจออกมาตามหามู่เฉินหรอกใช่ไหม” 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขาแวบหนึ่งด้วยสายตาเย็นยะเยือก “นายไม่มีเรื่องก็อย่าหาเรื่องจะได้ไหม” 

 

 

           ‘ไม่พอใจที่ตอนนี้ไฟโมโหเขาใหญ่ไม่พอใช่ไหม ถึงได้เติมฟืนใส่อยู่ได้’ 

 

 

           ซังจิ่งหน้าซื่อตาใส “ก็แค่สงสัยนี่” อยู่คลุกคลีกับเจียงมู่เฉินมาสองวัน เขาจับจุดนิสัยของคุณชายน้อยผู้นี้ได้แล้ว คนคนนี้ดูเป็นคนไม่มีเหตุผล อารมณ์คาดเดายาก แต่ที่จริงใจอ่อนเสียเหลือเกิน 

 

 

           แกล้งน้อยใจให้เป็น ก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 205 เพื่อนธรรมดา 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองบนใส่เขา “แมวตายเพราะความสงสัย นายไม่รู้เหรอ” 

 

 

           ซังจิ่งยักไหล่ขับรถอย่างจริงจัง เพียงไม่นานในรถก็เงียบสงบลง ในใจเจียงมู่เฉินหงุดหงิด เขาเงยหน้ามองกระจกมองหลังก็ปะทะกับดวงตาคมสีดำขลับของซือเหยี่ยนพอดี 

 

 

           มีซังจิ่งอยู่ด้วย เขาพูดกับซือเหยี่ยนมากเกินไปไม่ได้ ทั้งสองคนทำได้เพียงต่างคนต่างเงียบไม่พูดจากัน 

 

 

           ซือเหยี่ยนเองก็เพราะซังจิ่งเป็นสาเหตุเช่นกัน เขาไม่ได้อะไรมากมาย รถขับลงเขาไปเรื่อยๆ จนมาจอดที่หน้าทางเข้าโรงแรมที่เข้าพักเมื่อวาน 

 

 

           พวกเขาถึงเพิ่งได้เปิดประตูรถลงไป 

 

 

           ซังจิ่งมองซือเหยี่ยน “ประธานซือคืนนี้ก็จะพักที่นี่ด้วยเหรอ” 

 

 

           “แน่นอนอยู่แล้ว” เจียงมู่เฉินอยู่ที่นี่ทั้งคน เขาจะไปไหนได้ 

 

 

           “งั้นผมจะไปเอาห้องให้คุณ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเจียงมู่เฉินเดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะทิ้งทวนประโยคหนึ่งใส่ซังจิ่งแล้วเดินตามเข้าไป 

 

 

           “ไม่รบกวนประธานซังให้ลำบาก ผมพักอยู่กับเฉินเฉินของผมก็ได้” 

 

 

           ซังจิ่งลูบจมูกป้อยๆ ตอนนี้สองคนนี้จะจู๋จี๋กันต้องเปิดเผยกันขนาดนี้เชียว ไม่คิดจะปิดกันสักนิดบ้างเหรอ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเดินถึงหน้าห้องพักตัวเอง เปิดประตูเข้าไปก็เตรียมจะสะบัดประตู ซือเหยี่ยนฉวยโอกาสตอนที่เขาจะสะบัดประตู รีบเอามือกันประตู แล้วแทรกตัวเข้าไป 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนหน้าแดง “นายมันหน้าไม่อายจะตามฉันเข้ามาทำไม” 

 

 

           เหมือนประธานซือจะคิดทำตามคำว่า ‘หน้าไม่อาย’ สามคำนี้ให้ถึงขีดสุด เขาพลิกมือปิดประตู เอ่ยเสียงต่ำ “คุณอยู่ที่นี่ จะให้ผมไปไหน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “ประธานซือ พวกเราก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดา จะพักห้องเดียวกันไม่เหมาะสมเท่าไหร่หรอกมั้ง” 

 

 

           เขายังไม่ลืมที่ซือเหยี่ยนแนะนำตัวเขาไป เพื่อนธรรมดา ยังเรียกเขาว่าคุณชายเจียงอีก เป็นความเกรงใจที่ดูห่างเหินซะจริงๆ  

 

 

           “ผมมีเหตุจำเป็น” ซือเหยี่ยนเอ่ยอธิบายเสียงต่ำ 

 

 

           “เหตุจำเป็น?” เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “อะไรกัน ไม่ใช่เพราะว่านายก็มีความสัมพันธ์กับเขาด้วย เลยไม่อยากจะหาเรื่องให้เขาไม่สบายใจหรือไง” 

 

 

           “ผมกับเขาก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดา” 

 

 

           “เพื่อนธรรมดาเหรอ นายกับฉันขึ้นเตียงกันมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง นายก็บอกว่าพวกเราเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ทั่วไปไม่ใช่หรือไง” เจียงมู่เฉินหน้ามืดตามัว “ประธานซือ คำว่าเพื่อนธรรมดาของนายคำจำกัดความดูแปลกประหลาดเกินไปหน่อยหรือเปล่า…หรือว่านายคิดว่า นายตามกันขนาดนี้แล้ว ฉันเห็นนายแบบนี้ก็ซึ้งใจแล้ว จากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกุมขมับ กี่สิบชั่วโมงแล้วที่เขาตาค้าง ร่างกายเขาใกล้จะไม่ไหวแล้วจริงๆ 

 

 

           “คุณไม่ใช่เพื่อนธรรมดา คุณเป็นแฟนเพียงคนเดียวของผมเท่านั้น” ซือเหยี่ยนคิดแล้วคิดอีก ตัดสินใจสารภาพไปตรงๆ ตามนิสัยของเจียงมู่เฉินแล้ว ไม่ใช่คนที่อยากจะใช้ชีวิตภายใต้การปกป้องของคนอื่น 

 

 

           “ไสหัวไปซะ อย่ามาปากหวานกับฉันที่นี่” รู้ตัวเมื่อสายไปแล้ว มาทำเอาตอนนี้ มีประโยชน์เหรอ 

 

 

           “ที่คุณอยากรู้ ผมจะบอกคุณให้หมด โอเคไหม” 

 

 

           ยามนี้เองที่ท่าทีของเจียงมู่เฉินถึงได้โอนอ่อนผ่อนปรนลงเล็กน้อย ซือเหยี่ยนเห็นสีหน้าเขาดีขึ้นบ้างแล้ว ถึงได้เอ่ยปาก “เขาเป็นเพื่อนที่ผมรู้จักเมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่อเมริกา สมัยนั้นเพราะเรื่องงานทำให้พวกเราเคยได้คลุกคลีกัน ครั้งนี้ที่เขามาหาผม ก็เพราะเรื่องงานเมื่อก่อน” 

 

 

           “เขาชอบนาย ฉันพูดถูกใช่ไหม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนพยักหน้า “ใช่ เขาชอบผม แต่ระหว่างผมกับเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ เกินเลยกว่าเพื่อนกัน” 

 

 

           “งั้นทำไมนายถึงพูดกับเขาว่าฉันกับนายเป็นแค่เพื่อนธรรมดากัน กลัวเขาไม่สบายใจเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกุมขมับ “คุณอย่ามองว่าเขาหน้าตาดูจิ้มลิ้มแล้วจะไม่มีแรงสู้ ที่จริงเขาเป็นถึงผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของแก๊งมาเฟียอเมริกาแก๊งมังกรคราม มีอำนาจใหญ่หนุนหลัง ลงมือได้อย่างไม่ปราณีใคร” 

 

 

           เจียงมู่เฉินแจ้งใจ เข้าใจความหมายของซือเหยี่ยนคร่าวๆ แล้ว “ดังนั้นต่อหน้าเขา ที่นายไม่พูดเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ก็เพื่อปกป้องฉันเหรอ”