ตอนที่ 430: บรรพชนอาวุโส

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 430: บรรพชนอาวุโส

ด้านล่างสาวกทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมอง ทุกคนมองบรรพชนอาวุโสจากระยะไกลด้วยความเคารพและชื่นชมอย่างชัดเจน

ความจริงที่ว่าบรรพชนอาวุโสของพวกเขามีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เป็นสิ่งที่สาวกรู้สึกปลาบปลื้ม ถ้าเขาจะใช้มัน ผู้บุกรุกจะต้องตายอย่างแน่นอน

แม้แต่สมาชิกระดับสูงของนิกายก็ยังทึ่งกับข้อเท็จจริงนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดคนปัจจุบันก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน นับตั้งแต่บรรพชนอาวุโสได้ก่อตั้งนิกายเมื่อสองสามร้อยปีก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเขาครอบครองหนึ่งในทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าผู้บุกรุกที่มีพลังอันน่าเหลือเชื่อมารุกรานในวันนี้ คงไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของเขา

ตาย ! เซียนสวรรค์ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการเตรียมทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ก่อนที่มันจะถูกจัดเตรียมอย่างสมบูรณ์ ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น ทั่วทั้งโลกสั่นสะเทือนและภูเขาก็สะท้อนเสียง สิ่งเดียวที่ทุกคนเห็นคือกระบี่ยักษ์ยาวร้อยเมตรบินออกมาจากอาวุธเซียนของเขา จากที่ไกล ๆ มันก็เหมือนกระบี่ยักษ์ที่ลงมาจากสวรรค์อย่างมีสง่าราศี

หลังจากนั้นบรรพชนอาวุโสจึงโบกอาวุธเซียนของเขา ทำให้กระบี่ยักษ์ตกลงมาที่เจี้ยนเฉินด้วยแสงอันงดงาม แสงถูกบีบอัดจนถึงจุดที่คล้ายกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก มันมีรังสีกระบี่คมชัดที่ถูกปล่อยออกมา แม้แต่พื้นที่ที่กระบี่กำลังเคลื่อนที่ไปก็เริ่มมีรอยแตกเนื่องจากแรงกดดันอย่างเห็นได้ชัด

เจี้ยนเฉินถูกปิดล้อมด้วยทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ทำให้เขาไม่สามารถออกไปให้พ้นทางได้ เขาถูกบังคับให้ติดอยู่โดยไม่มีทางเลือก

เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะมุ่งเน้นใช้พลังงานดั้งเดิมอย่างจริงจัง ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเขาก็เริ่มเรืองแสงด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วงซึ่งทำให้เขาดูเหมือนภูตผีมากกว่ามนุษย์ บนพื้น ต้นไม้หลายต้นหลุดออกมาจากราก มันแตกเป็นท่อน ๆ หลายท่อน ในช่วงเวลาต่อมา ชิ้นส่วนแต่ละท่อนก็พุ่งเข้าหากระบี่ยักษ์ ในขณะที่เจี้ยนเฉินอยู่ข้างหลังและรวบรวมพลังงานดั้งเดิมมากขึ้น

สำหรับสองแม่ลูก พื้นดินโดยรอบพุ่งขึ้นมาเพื่อป้องกันพวกเขา เหมือนเช่นป้อมปราการที่ห่อหุ้มคนภายใน พื้นดินก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมันยังบีบอัดวัสดุเข้าด้วยกันจนหนาแน่นเหมือนเหล็ก และจากที่ไกล ๆ มันดูราวกับว่ามันเป็นก้อนหินใหญ่

ปัง !

หลังจากการระเบิดพลังครั้งใหญ่ของเจี้ยนเฉินปะทะเข้ากับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ คลื่นพลังงานขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาราวกับคลื่นยักษ์ อาคารตามเส้นทางถูกทำลายและต้นไม้ก็ถูกถอนรากถอนโคน หญ้าแตกออกเป็นชิ้น ๆ และแม้แต่ผืนดินก็หลุกลอกขึ้นมาเป็นชั้น ๆ มีเพียงแม่และลูกชายเท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครองภายในป้อมหิน ถึงกระนั้นมันก็เริ่มมีรอยแตก

หลังจากนั้นไม่นาน พลังงานก็เริ่มที่จางลง นิกายหยางจิไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมเลย สถานที่ทั้งหมดเกือบจะแห้งแล้ง อาคารใกล้เคียงส่วนใหญ่ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง สาวกของนิกายจำนวนมากได้รับบาดเจ็บสาหัส. สาวกที่อ่อนแอบางคนถึงกับลอยหายไปจากภูเขา ซึ่งชะตากรรมยังไม่แน่ชัดว่าพวกเขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่

บรรพชนอาวุโสลอยอยู่บนท้องฟ้า หน้าของเขาซีดเนื่องจากจากการออกแรง ผลลัพธ์ของนิกายไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา สิ่งเดียวที่เขากังวลคือศัตรูที่อยู่ข้างหน้าเขา เมื่อเขามองลงมา เขาก็เห็นในสิ่งที่ไม่อยากเชื่อ

เจี้ยนเฉินยังลอยอยู่กลางอากาศด้วยพลังงานดั้งเดิมที่ส่องสว่างในมือขวาของเขา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวหลังจากที่เขาถูกทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์โจมตีคือเขาหน้าซีดและเสื้อผ้าของเขาก็ฉีกขาดเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเลือดที่มาจากจมูกและริมฝีปากของเขา มันไหลลงมาที่คอและหน้าอกของเขา เสื้อผ้าของเขาอยู่ในสภาพที่ขาดรุ่งริ่ง มันจึงเผยให้เห็นผิวขาวที่ซ่อนอยู่ภายใน

ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้แต่เจี้ยนเฉินก็ต้องใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาเพื่อปิดกั้นมัน ถ้ามันเป็นทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ถึงจะเป็นขั้นสูงสุดก็ไม่เป็นภัยต่อเจี้ยนเฉิน แต่ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ถ้าไม่มีกระบี่ธาตุมาช่วยป้องกัน เจี้ยนเฉินคงไม่สามารถสกัดกั้นมันออกได้อย่างง่ายดาย เจี้ยนเฉินต้องใช้พลังงานดั้งเดิมจากจิตวิญญาณของกระบี่เข้ามาช่วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง

“เจ้า..เจ้าป้องกันทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของข้า ! ” บรรพชนอาวุโสของนิกายหยางจิร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร แม้ว่ามันจะเป็นแค่ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต้น แต่มันก็ยังคงเป็นทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เขาใช้เวลานานในการฝึกฝนทักษะพื้นฐานและสามารถทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับคู่ต่อสู้ที่เป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เจี้ยนเฉินจะหลบหนีออกมาได้โดยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายอย่างสดใส “ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าจะมีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย” หลังจากพูดจบ ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็ยิ่งเป็นประกายมากขึ้นเมื่อเขาจ้องบรรพชนอาวุโส

ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของบรรพชนอาวุโสไม่สามารถฆ่าเจี้ยนเฉินได้ ทำให้เขาต้องสูญเสียความตั้งใจในการต่อสู้ เขาบินถอยกลับทันที เขาพยายามวิ่งหนี

“ผู้อาวุโสหยาง ข้ามาช่วยแล้ว ! ข้าสงสัยว่าเขาปกปิดอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เอาไว้ ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดร้องออกมาเมื่อเขาพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินพร้อมกับอาวุธเซียนสีฟ้าของเขา

ดวงตาของบรรพชนอาวุโสตื่นตระหนกในขณะที่เขาพูดว่า ถูกต้อง ! แม้แต่เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 ก็ไม่สามารถต้านทานทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของข้าได้ อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าจะต้องแย่กว่าสิ่งที่เจ้าพยายามแสดงให้เราเห็น ! อืม อย่าพยายามหลอกพวกเราว่าเจ้าไม่เป็นอะไรเลย” บรรพขนอาวุโสหยุดการล่าถอยทันทีและกลับมามีกำลังใจที่จะต่อสู้ เขานำอาวุธเซียนของเขาออกมาทันทีและบินกลับไปหาเจี้ยนเฉินเพื่อต่อสู้

เจี้ยนเฉินส่งเสียงหัวเราะดูถูกดังลั่น ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสสูงสุดก็เข้าไปใกล้ตัวเจี้ยนเฉินแล้วและพยายามที่จะแทงระหว่างดวงตาของเจี้ยนเฉินด้วยพลังเซียนธาตุน้ำ

มือขวาของเจี้ยนเฉินรวบรวมพลังงานดั้งเดิมให้เป็นกระบี่และแทงไปที่อาวุธเซียนซึ่งเล็งมาทางเขา

เมื่อรู้ว่าพลังงานดั้งเดิมนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ผู้อาวุโสสูงสุดจึงไม่อยากปะทะกับมันและเปลี่ยนวิถีกระบี่ของเขาไปยังหัวใจทันที

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสูญเสียพลังเซียนของเขาไป แต่ความเร็วในการตอบสนองของเขาก็ยังคงรวดเร็วและร่างกายของเขาก็ยังคงแข็งแกร่ง เขาสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 8 ใน 10 ส่วนของความเร็วเดิม เขาสามารถบิดข้อมือของเขาได้อย่างง่ายดายเพื่อให้กระบี่พลังงานดั้งเดิมไล่ล่าตามอาวุธเซียนของศัตรูด้วยเส้นสีฟ้าและสีม่วง ในช่วงพริบตา ทั้งสองพลังปะทะกัน ทำให้อาวุธเซียนของผู้อาวุโสสูงสุดแตกออกเป็นชิ้น ๆ

ผู้อาวุโสสูงสุดกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ แม้จะพยายามอย่างมากที่จะหลบอาวุธของเจี้ยนเฉิน เขาก็ยังไม่สามารถหลบมันได้

“ภาพลวงตาพันกระบี่ ! “

บรรพชนอาวุโสก็เข้าไปใกล้ได้เช่นกันและใช้ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีโดยไม่ลังเล ภาพของกระบี่มากมายเริ่มปกคลุมท้องฟ้า กระบี่แต่ละเล่มดูเหมือนจริงมาก มันเปล่งแสงเจิดจ้า

ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้าและสีม่วงอีกครั้ง ภายในพริบตาปราณกระบี่ก็ส่องสว่างจากร่างของเจี้ยนเฉินไปยังทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี มันทำลายภาพลวงตาแต่ละภาพและสลายทักษะการต่อสู้ของบรรพชนอาวุโสจนหมดสิ้น พลังงานดั้งเดิมในมือของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนเป็นแสงส่องสว่างที่ส่องเข้าหาผู้อาวุโสสูงสุด

“พัพ ! “

พลังงานดั้งเดิมแทงผ่านบริเวณระหว่างคิ้วของอาวุโสสูงสุดและแทงทะลุหัวของเขาทันที มันกำจัดวิญญาณของเขาไปจนหมด

“ผู้อาวุโสเกา ! ” บรรพชนอาวุโสร้องตะโกนด้วยความเศร้าและความโกรธ

มือซ้ายของเจี้ยนเฉินพุ่งไปข้างหน้าเพื่อคว้าแหวนมิติของผู้อาวุโสสูงสุด หลังจากนั้นพลังงานดั้งเดิมพุ่งออกมาจากมือขวาของเขาและพุ่งไปยังบรรพชนอาวุโสที่กำลังเศร้าโศก

บรรพชนอาวุโสหน้าซีดในขณะที่เขาถอยกลับด้วยความกลัวทันที “เจ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำของเจ้าในวันนี้ ! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าจะต้องรองรับความโกรธแค้นของข้าไปอีกเก้าชั่วอายุคน”

เจี้ยนเฉินไม่ใส่ใจคำพูดของเขาและไล่ตามเขา “เริ่มตั้งแต่วันนี้ เราจะมาดูกันว่าจะมีนิกายหยางจิหลงเหลืออีกหรือไม่”

“คนเขลา เจ้าคิดว่านิกายหยางจิของข้ากระจอกรึ ? นิกายของข้ามีอิทธิพลเกินกว่าที่เจ้าจะคาดเดาได้ ! ” บรรพชนอาวุโสคำราม

เมื่อได้ยินอย่างนี้ เจี้ยนเฉินก็หยุดไปครู่หนึ่งขณะที่เขานึกถึงคำพูดของเขา “เขามีคนสนับสนุนที่แข็งแกร่งหรือ ? “

“หืมม เจ้าไม่สามารถกวาดล้างนิกายของข้าได้หรอก สำหรับนิกายหยางจิ เจ้าก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ากบในกะลา ที่นี่เป็นเพียงหนึ่งในสาขาของนิกายที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกระจายออกไปทั่วทั้งทวีป เนื่องจากเจ้าทำลายสาขาของนิกายหยางจิที่นี่ วันหนึ่งนิกายหยางจิจะส่งจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามากำจัดเจ้า” บรรพชนอาวุโสพูดเป็นลางไม่ดี

เจี้ยนเฉินเย้ยหยันและพูดว่า “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร วันนี้เจ้าหนีไม่รอดแน่” โดยไม่เสียเวลา พลังงานสีฟ้าและสีม่วงจึงเพิ่มความสว่างทันทีก่อนที่จะพุ่งเข้าหาบรรพชนอาวุโสโดยปราศจากความเมตตา

บรรพชนอาวุโสมีสีหน้าถมึงทึงในขณะที่เขาพูดว่า “เจ้าล่วงเกินตระกูลผู้พิทักษ์ของข้า เจ้าจะต้องเสียใจกับสิ่งนี้ ! ” หลังจากนั้นบรรพชนอาวุโสก็หยิบหยกออกมาจากแหวนมิติของเขาและทำลายมันทันที พลังงานลึกลับจึงพุ่งพล่านออกมาก่อนที่จะห่อหุ้มตัวบรรพชนอาวุโสไว้ เขาหายตัวไปอย่างรวดเร็วโดยไร้ร่องรอย

เจี้ยนเฉินตกใจมาก เขากระพริบตาและเปิดสัมผัสรับรู้ไปทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อค้นหารอบรัศมี 15 กิโลเมตร เขาพยายามที่จะหาที่จะหาตัวบรรพชนอาวุโสที่หายตัวไปแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ บรรพชนอาวุโสได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่สามารถหาตำแหน่งของเขาได้

“วัตถุลึกลับชิ้นนั้นคืออะไร ? มันช่วยให้เขาหลบหนีไปได้ไกลกว่า 15 กิโลเมตรเชียวหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามตัวเองด้วยความสับสน