บทที่ 1555 –การทำลายจิตวิญญาณ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1555 –การทำลายจิตวิญญาณ

 

 

เมื่อการรบเริ่มขึ้นชายชราก็เอากระบี่ของเขาออกมาและเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่น่าหลงใหลเอาก็ได้หยิบกระบี่ของเขาขึ้นมาในทำนองเดียวกัน อาวุธทั้งสองมีความคล้ายกันและความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือความยาวของพวกเขา

 

พวกมันคือกระบี่สั้น!

 

“กระบี่แห่งพระบิดาและพระบุตร!”

 

ฉินชิงร้องอุทานด้วยความตกใจ ได้ยินคำพูดของเธอ ชิงสุ่ยก็ได้หันไปมองที่เธอออกมาด้วยความตกตะลึง นั่นเพราะเขาไม่เคยได้ยินมันมากก่อน

 

“กระบี่แห่งพระบิดาและพระบุตร มันคืออะไรรึ?” ชิงสุ่ยเหลือบไปมองที่อาวุธของทั้งสองคน สีของกระบี่ในมือของชายชราที่เป็นสีเทาเล็กน้อย ในขณะที่กระบี่ในมือชายหนุ่มเป็นสีโปร่งใส

 

“ตามตำนานกระบี่ทั้งสองเล่มถูกสร้างขึ้นโดยชายผู้เป็นพ่อโดยการสังเวยชีวิตตัวเองในการหลอมมันขึ้นมา ในวีถีช่างทำกระบีโบราณ มักจะใช้เลือดเพื่อบูชากระบี่ ด้วยเหตุนี้ชายผู้เป็นพ่อจึงเสียสละตัวเองเพื่อสร้างกระบี่เล่มนี้ขึ้นให้ลูกชาย อย่างไรก็ตามกระบี่เล่มนั้นก็ได้แตกออกเป็นสองฝัง ในขณะที่ไฟแห่งการบูชาใกล้มอดลง ลูกชายที่เสียพ่อของเขาไปไม่สามารถยอมรับมันได้ หากเขาปล่อยเรื่องนี้ไปนั้นก็เท่ากับว่าพ่อของเขาได้ตายลงไปฟรีๆ ดังนั้นเขาจึงได้กระโดดลงไปในเตาหลอมกระบี่ตามพ่อของเขา มันจึงทำให้กระบี่ชื่อเล่มนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงทั้งสองคน”ฉินชิงอธิบายเรื่องราวในอดีตออกมา

 

“แล้วมันทรงพลังมากน้อยขนาดไหน?” ชิงสุ่ยถามหลังจากคิดถึง

 

“มันเป็นอาวุธที่ทรงพลัง มากว่าอาวุธที่เคยถูกกล่าวขาน มาในตำนานทั้งหมดที่ข้าเคยได้ยินมา ว่ากันว่าเมื่อกระบี่ทั้งสองถูกใช้ร่วมกัน พลังของพวกมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากและนอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยความลับที่มากมาย ดังนั้นเราควรระวังมันเอาไว้ “ฉินชิงกล่าวเตือนชิงสุ่ย

 

ในตอนนี้พวกเขานั้นยังไม่ได้เข้าต่อสู้กัน เพียงแค่ลอยขึ้น และเข้าหากันอย่างช้าๆ

 

ตาข่ายเพลิงแห่งความโกลาหล!

 

ชิงสุ่ยเหยียดมือออกและปล่อยตาข่ายเพลิงเข้าใสทั้งคู่ ในตอนนี้ท้องฟ้าได้ถูกแหวกแยกออกจากกันด้วยเพลิงที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยกลิ่นอาจที่ทรงอำนาจ

 

ในตอนนี้ชายชราและชายหนุ่มได้เคลื่อนไหวพร้อมกันพวกเขาได้ขยับกระบี่ขึ้นและฟันมันลงมาเบาๆอย่างช่างๆเกิดเสียงที่ไพเราะดังเสียงของระฆัง ก่อนที่ตาข่ายของชิงสุ่ยจะถูกแยกออกเป็นสองฝั่ง

 

 

 

ในขณะตาข่ายเพลิงแห่งความโกลาหลก็ค่อยสลายหายไป  ชายหนุ่มและชายชราได้ปล่อยคลื่นพลังสีเงินออกมา ก่อนที่มันพุ่งตรงเข้าใส่ชิงสุ่ย มันคล้ายกับการจู่โจมของพลังวิญญาณ แต่ในเวลาเดียวกันมีพลังมากกว่าที่จะเป็นพลังวิญญาณ

 

การโจมตีดังกล่าวนั้นไม่สามารถถูกทำลายลงด้วยการโจมตีทางกายภาพ จึงทำให้กระบี่แห่งพระบิดาและพระบุตรเป็นที่นับถือ และหวาดกลัวอย่างมาก

 

หุบเขาเก้าเทวา!

 

ชิงสุ่ยไม่สามารถเลือกได้จึงต้องนำมันออกมา ถึงแม้ว่าหุบเขาเก้าเทวานั้นจะเป็นวัตถุที่เป็นนามธรรม แต่ก็ไม่ใช่วัตถุธรรมดา มันเป็นความสามารถมากพอที่จะต่อต้านการจู่โจมครั้งนี้

 

ในตอนนี้หุบเขาเก้าเทวาได้ป้องกัน การโจมตีครั้งนี้เอาไว้ได้ มันเองก็สร้างความประหลาดใจให้อีกฝ่ายไม่น้อย ถึงแม้ชายหนุ่มคนนี้จะดูอายุไม่มากนัก แต่เขานั้นก็ได้ร่วมฝึกกระบี่กับชายชรามาตลอดทั้งชีวิตของเขา ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาในชีวิตของเขา เขาไม่เคยเห็นใครเลยที่สามารถรับมือกับกระบี่คู่นี้ของพวกเขาไปได้

 

ถึงแม้อีกฝ่ายจะสามารถป้องกันมันได้ พวกเขาก็คงต้องบาดเจ็บอยู่ดี ในตอนนี้มัน ไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้  นั่นเพราะฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาสามารถป้องกันมันได้อย่างง่ายดาย

 

ตราประทับวิหกศักดิ์สิทธิ์!

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยประกบฝ่ายมือของเขาเข้าด้วยกัน ก่อนที่เพลิงแห่งความโกลาหลจะปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าเขา มันไม่แต่มีใหญ่ขนาด แต่มันนั้นยังเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

 

ไป!

 

เพลิงแห่งความโกลาหล  ที่มีขนาดหลายสิบเมตรได้ตรงเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามในทันที

 

ในขณะที่ทั้งคู่ได้ตะโกนออกมา ก่อนที่จะใช้กระบี่ของพวกเขาป้องกันการจู่โจมนี้เอาไว้

 

สำหรับชิงสุ่ยแล้วการจู่โจมดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย สำหรับเขาๆนั้นมีไพ่ตายมากมายที่เก็บซ่อนเอาไว้ ที่เขาไม่ได้นำมันออกมาตั้งแต่แรก นั่นก็เพราะนี้เป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้เขาสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

 

ในบางครั้งการต่อสู้นั้นก็ต้องอาศัยโชคภาค แต่เหนือกว่าอื่นใด ก็คือการใช้สมอง!

 

นอกจากนี้สิ่งที่ชิงสุ่ยยังมีความมั่นใจอย่างมากที่สุดในการป้องกันของเขา เนื่องจากเขานั้นมีเกราะทองคำวชิระ มันทำให้เขามั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครที่สามารถจู่โจมเข้าได้อย่างง่ายๆ นอกจากนี้การจู่โจมของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลย ด้วยง้าวทองคำทะลวงศึกของเขา มันทำให้เขาในตอนนี้สมบูรณ์แบบอย่างมากในทางการป้องกันและการจู่โจม

 

 

ตูม!

เสียงระเบิดได้ดังขึ้น ส่งผลให้ทั้งสองกระเด็นไปด้านหลัง ชิงสุ่ยนั้นไม่พลาดโอกาสดังกล่าว เขารีบพุ่งไปซ้ำในทันที

ทันใดนั้นเองเสียงการปะทะของอาวุธก็ได้ดังขึ้น!

 

 

กระบี่แห่งพระบิดาและพระบุตรเป็นอาวุธที่พิเศษอย่างแท้จริง แม้พวกมันจะรับการโจมตีจำนวนมาก ของชิงสุ่ยแต่พวกมันก็ไม่ได้บุบสลายเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าพวกมันนั้นพยายามที่จะทำลายง้าวทองของชิงสุ่ยเสียด้วยซ้ำ

 

ในตอนนี้การป้องกันของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนาอย่างมาก และปราศจากช่องโหว่ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ชายชราเปิดช่องว่าง แต่มันก็ผู้เติมเต็มลงด้วยฝีมือของชายหนุ่ม  นอกจากนี้ด้วยการจู่โจมผสานของทั้งสองมันให้ชิงสุ่ยเองก็แอบตึงมือไม่น้อย

 

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของทั้งสองค่อยๆผสานกันดีขึ้น มันทำให้ชิงสุ่ยและฉินชิงเปลี่ยนท่าทางมาเริ่มป้องกันแทน

 

ในตอนนี้ฉินชิงไม่ต้องการใช้ไพ่ตายของเธอ เช่นเดียวกับชิงสุ่ย แม้ว่าเขาจะมีพลังที่มากกว่า  แต่มันก็ยากที่เขาจะรับมือกับการจู่โจมผสานของอีกฝ่าย นอกจากนี้เขานั้นก็ยังมีข้อจำกัดที่จะใช้ทักษะสังหารไร้ปรานีของเขา

 

นั่นเพราะในตอนนี้เขานั้นสามารถใช้มันออกมาได้แค่สามครั้งเท่านั้น นอกจากนี้มันยังคงไม่รุนแรงพอที่จะทำลายการจู่โจมผสานของอีกฝ่าย

 

ถึงแม้เขาจะใช้มันออกมาได้น้อยกว่าคนอื่นๆ แต่ชิงสุ่ยก็มั่นใจว่าพลังของเขาไม่ได้ด้อยกว่าใครเลย  แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกว่ามันยังคงไม่จำเป็นสำหรับเขาในตอนนี้

 

ในความเป็นจริง ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องฝึกมันเสียด้วยซ้ำ เพียงแค่เขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าใครๆ ทักษะต่างๆก็แทบจะไม่จำเป็นเลย แต่ถึงอย่างไรก็มีคนน้อยมากที่จะไปถึงจุดนั้นได้ จุดที่ไม่ต้องสนใจอะไรอีกต่อไป เพียงแค่พลังของเขาก็พอที่จะทำลายโลกใบนี้  มันจึงทำให้พวกเขาได้หันไปหาทักษะสังหารไร้ปรานี นั่นเพราะมันจะไม่มีค่าเลยพวกเขานั้นตายก่อนที่จะไปถึงจุดๆนั้น

 

ในตอนนี้พวกเขาได้สลับจู่โจมไปที่ชิงสุ่ยและฉินชิงอย่างต่อเนื่อง

 

ทักษะผสานเงาวิญญาณ!

 

ในตอนนี้เงาของทั้งคู่ได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เช่นเดียวกับร่างการของพวกเขาที่ซ่อนทับกันจนดุเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งเดียวกัน ยิ่งไปกว่าอื่นใด ตอนนี้การจู่โจมของพวกเขานั้นเปลี่ยนเป็นการจู่โจมทางวิญญาณแล้วเกือบทั้งหมด

 

ทำลายจิตวิญญาณ!

 

ในตอนนี้คลื่นไฟสีเท่าที่ดูคล้ายกับผีเสื้อได้พุ่งไปที่ชิงสุ่ย  ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารสัมผัสได้ว่า สิ่งนี้มันเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมาก มันจึงทำให้เขานั้นเคลื่อนหุบเขาเก้าเทวาเขามาป้องกันเอาไว้

ตูม!

 

 

ในตอนนี้คลื่นพลังได้ระเบิดออกมามันส่งผลให้หุบเขาเก้าเทวากระเด็นออกไปข้างหลัง แม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ไม่คาดว่าเขาจะได้พบเจอกับภาพเช่นนี้ ราวกับตอนนี้เขานั้นมองดูเรือลำเล็กๆที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร ปะทะกับคลื่นลุกยัก์

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าเขานั้นประมาทอีกฝ่ายมากเกินไป ในตอนนี้อีกฝ่ายนั้นได้ใช้ทักษะสวรรค์ไร้ปราณีออกมาแล้ว มันจึงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ถึงขนาดนี้ ชิงสุ่ยกัดฟันของเขาและรีบพุ่งไปพร้อมกับ ง้าวทองในมือ

 

ในเวลานี้ฉินชิงได้ยกกระบี่สีขาวนวลขึ้น และแทงไปทางข้างหน้า

 

ทะลายห้วงวิญญาณ!

 

แสงสีขาวจ้าได้ส่องสว่างออกมาจากกระบี่ของเธอ ขณะที่มันสามารถทะลวงผ่านพลังของอีกฝ่ายออกไปได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าเป็นเธอได้แทงลงไปที่ฟองอากาศก็ไม่ปาน

 

ชิงสุ่ยมองไปที่ฉินชิงและยิ้มออกมา พลังศักดิ์สิทธิ์ของผู้หญิงนี้แข็งแรงอย่างมาก มากจนน่ากลัว ในตอนนี้ไม่มีพลังวิญญาณไหนที่สามารถต่อกรกับเธอได้

 

ในทางตรงกันข้ามมีความรู้สึกผิดหวังได้ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม ตอนแรกพวกเขาต้องการใช้การจู่โจมนี้เพื่อปิดฉากการต่อสู้ลง นอกจากนี้ถึงแม้ทักษะนี้จะเป็นทักษะที่พวกเขาใช้ออกมา แต่พวกเขาเองก็กลัวว่าพลังที่พวกเขาใช้ออก จะทำให้การบ่มเพาะของพวกเขาจะเสียหาย หลังจากจบเรื่องเนื่องจากการย้อนกลับของพลัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยยิ้มออกมาด้วยความสุข ดูเหมือนว่าเขาจะประมาทเธอมากเกินไป ความแกร่งที่แท้จริงของเธอนั้นมากมายกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ความจริงที่ว่าเธอสามารถควบคุมมังกรฟ้าได้ นั่นก็แสดงได้ถึงพลังที่หาตัวจับยากของเธอแล้ว และตอนนี้เธอยังได้รับมรดกของพระเจ้าเข้าไปอีก มันทำให้เธอนั้นกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างมากในที่นี้

 

 

ในตอนนี้เพียงแค่การโจมตีของชิงสุ่ยคนเดียวนั้นไม่เพียงพอ แต่หลังจากได้รับแรงสนับสนุนจากฉินชิง มันทำให้เขามั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะศึกครั้งนี้ได้

 

โดยปกติเขาจะเป็นฝ่ายสนับสนุนคนอื่นๆมากกว่า แต่ในครั้งนี้มันกลับเป็นเขาที่ได้รับการช่วยเหลือ เดิมทีชิงสุ่ยนั้นไม่เคยพึ่งใครมากก่อนด้วยทักษะของเขาและสัตว์อสูรที่เขามีก็เพียงพอที่เขาจะต่อกรกับคนอื่นด้วยตัวเอง

 

แต่ถึงอย่างไรในตอนนี้ทักษะเหล่านั้นของเขาแทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ ราวกับว่าพวกเขาได้เตรียมตัวมาพร้อมที่จะรับมือกับชิงสุ่ยโดยเฉพาะ

 

ในตอนนี้มันเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับชิงสุ่ย เขาต้องจัดการกับจุดอ่อนนี้ให้ได้เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ตอนนี้เขาและฉินชิงต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้เสียก่อน เนื่องจากในตอนนี้ทั้งสองคนยังไม่ได้ย้อมแพ้

 

กระบี่ผสานวิญญาณ!

ทำลายจิตวิญญาณ!

 

ในตอนนี้กระบี่ในมือของพวกเขาได้เปล่งแสงสีเงินออกมา มันนั้นดูอันตรายกว่าเก่าและทรงพลังยิ่งขึ้น

 

ทำลายจิตวิญญาณ!!

 

ตูม!

 

ชิงสุ่ยได้กระเด็นไปข้างหลัง พร้อมกับกระอักเลือดออกมา ถึงแม้มันจะไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขาเองก็บาดเจ็บอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ในตอนนี้ชิงสุ่ยฝ่ามือสีทองอร่ามสัมผัสไปที่หน้าอกของเขา

 

ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากทักษะสวรรค์ไร้ปราณีของฝ่ายตรงข้าม มันเป็นเพียงโชคดีที่เขาสวมเกราะทองคำวชิระอยู่มิฉะนั้นเขาอาจบาดเจ็บสาหัสหรือตายไปในการจู่โจมครั้งนี้ก็ได้ ก่อนที่ชิงสุ่ยจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก  เงาของอีกฝ่ายได้ปรากฏขึ้นอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว

 

ทักษะประสานสังหารวิญญาณ!

 

ดวงตาของชิงสุ่ยขยายใหญ่ขึ้น ในช่วงเวลานี่มันสายเกินไปแล้วที่ฉินชิงจะเข้ามาช่วยเขา นอกจากนี้มันยังสายเกินไปแล้วที่เขาจะหลบเข้าไปในดินแดนหยก

 

ด้วยทักษะทำลายจิตวิญญาณ มันยากที่เขาจะรอดพ้นไปได้  ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เพียงแค่ต้านมันเอาไว้เท่านั้น โชคดีที่เขามีดอกบัวพุทธองค์ทองคำทำให้เขาสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้บาง แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เพียงพอ……..

 

ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์!

 

ทักษะวชิระจู่โจม!

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยกระอักเลือดออกมากองโต ขณะที่เขาโคจรพลังเพื่อที่จะรับมือกับทักษะของฝ่ายตรงข้าม ในตอนนี้เมื่อเห็นชิงสุ่ย ได้รับบาดเจ็บ ฉินชิงไม่ได้รอช้าเธอพุ่งออกมาด้วยพลังทั้งหมดโดยไม่สนใจสิ่งอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรมันก็ช้ากว่าทักษะประสานสังหารวิญญาณของอีกฝ่าย

 

 

ตูม!