บทที่ 432 พบฮ่องเต้เย่โดยบังเอิญ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 432 พบฮ่องเต้เย่โดยบังเอิญ
กู้ชูหน่วนยืนอยู่หลังภูเขาปลอม ชะโงกศีรษะไป กลับเห็นคนที่ตวาดมิใช่ผู้ใดอื่น เป็นฮ่องเต้แคว้นเย่นั่นเอง

ฮ่องเต้เย่อายุเพียงสิบกว่าปี ดูแล้วยังเด็กอยู่มาก

ตรงหน้าเขา มีขุนนางใหญ่คุกเข่าอยู่เจ็ดแปดคน ขุนนางใหญ่เหล่านั้นตัวสั่นงันงก หมอบศีรษะ ไม่กล้ามองฮ่องเต้เย่ เนื้อตัวสั่นเทา

หนึ่งในนั้นก็คือบิดาของนาง กู้เฉิงเซี่ยง

ขุนนางใหญ่หนึ่งในนั้นเอ่ย “ฝ่าบาท ใช่ว่าแคว้นเย่เราไม่มีแม่ทัพพ่ะย่ะค่ะ แล้วเทพสงครามก็มีคำสั่งลงมา ห้ามให้แม่ทัพแคว้นเย่เราไปสนามรบ มิเช่นนั้นเทพสงครามจะให้พวกเขาได้เห็นดีพ่ะย่ะค่ะ”

“เหลวไหล! ข้าเป็นฮ่องเต้ หรือว่าเขาเป็นฮ่องเต้ พวกเขารับเบี้ยหวัดจากใคร?!”

เหล่าขุนนางใหญ่เงียบกริบอีก

“พูดสิ! ทำไมไม่พูด เป็นใบ้ไปหมดแล้วหรือ? แคว้นฮั่วตีมาถึงเมืองอู๋ซวงแล้ว ถ้าตีมาอีก บ้านเมืองข้าก็จะหมดสิ้นแล้ว ข้าต้องกลายเป็นทาสอาณาจักรล่มสลาย พวกเจ้าก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไรหรอก!”

“ฝ่าบาท เวลานี้เลือกได้สองทางพ่ะย่ะค่ะ ทางแรกเราสู้ให้ถึงที่สุด ทางที่สองก็คือขอให้เทพสงครามช่วย”

“ข้าขอเทพสงครามช่วยไม่ได้ เทพสงครามมักใหญ่ใฝ่สูง เขาจ้องตำแหน่งของข้า ถ้าเขาขับศัตรูภายนอกออกไป ถัดจากนั้นเขาก็ต้องมาจัดการข้า!”

กู้ชูหน่วนอดยิ้มเยาะเป็นไม่ได้

หากเย่จิ่งหานต้องการตำแหน่งของเขาจริง เขายังได้เป็นฮ่องเต้จนถึงตอนนี้?

ก็ไม่รู้ว่าสมองเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

อยู่นาน กู้เฉิงเซี่ยงจึงเอ่ย “ฝ่าบาท ที่จริงยังมีอีกวิธีหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“วิธีอะไร?”

“แม่ทัพใหญ่เซียวกล้าหาญชำนาญการรบ ให้เขาเป็นนำทัพออกศึกได้พ่ะย่ะค่ะ”

“แม่ทัพใหญ่เซียว? ไม่ได้ๆ ลูกชายเขาแต่งกับจวิ้นจู่ของแคว้นฮั่ว หากพวกเขาสองคนสมคบคิดกัน เช่นนี้บัลลังก์ข้าก็ต้องเสียไปเหมือนเดิม”

“ฝ่าบาท แม่ทัพใหญ่เซียวจงรักภักดี คาดว่าเขาไม่กล้าทรยศแคว้นเย่แน่พ่ะย่ะค่ะ อีกอย่าง หากเขาจะทรยศแคว้นเย่ ก็ยกครัวหนีไปนานแล้ว จะให้ฝ่าบาทส่งคนไปล้อมพวกเขาได้อย่างไร? แม่ทัพใหญ่เซียวห้าวหาญหลายชั่วอายุคน อาศัยผลงานศึกโด่งดัง ยามนี้ไร้หนทางอื่นแล้ว ได้แต่ลองดูสักตั้งพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้น้อยแคว้นเย่ซอยเท้าเดินไปมาไม่หยุด ในใจไม่กล้าคิดมาก

กู้เฉิงเซี่ยงกล่าวสืบต่อ “ฝ่าบาททรงใช้กรุณาธิคุณพร้อมกับการข่มขู่ได้พ่ะย่ะค่ะ ให้แม่ทัพใหญ่เซียวไปเพียงคนเดียว หากเขาสามารถทำศึกได้ชัยกลับมา ก็ปล่อยพวกเขาทั้งตระกูล ปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นให้เขา หากเขาพ่ายกลับมา เช่นนั้นก็ให้ทุกคนในจวนแม่ทัพตกตายตามไปด้วย เช่นนี้ แม่ทัพใหญ่เซียวยังกล้าไม่ทุ่มสุดชีวิตอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ดวงตาฮ่องเต้เย่เป็นประกาย “เยี่ยม แผนนี้ยอดเยี่ยมมาก ทำตามที่กู้เฉิงเซี่ยงบอก ข้าไม่เชื่อ ว่าเขาจะเห็นคนในจวนแม่ทัพมากมายขนาดนั้นตายพร้อมกับเขาได้”

แววตากู้ชูหน่วนเย็นชาทันที

แผนการที่กู้เฉิงเซี่ยงคิดขึ้นนี้ ไม่ว่าแม่ทัพใหญ่เซียวจะภักดีหรือไม่ ศึกครั้งนี้ เขาต้องชนะเท่านั้น นี่ไม่แม้แต่จะเหลือทางถอยให้แม่ทัพใหญ่เซียว

เท่ากับศึกครั้งนี้ต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้

วิธีชั่วร้ายยิ่งนัก

ฮ่องเต้เย่เอ่ย “ไปคุกหลวงบัดเดี๋ยวนี้ ถ่ายทอดโองการข้า ให้เขาทำคุณถ่ายโทษ เขาต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้ มิเช่นนั้นตระกูลเซียวหลายร้อยชีวิต จะต้องตกตายพร้อมกับเขา!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เหล่าขุนนางใหญ่ต่างจากไป คนรับใช้ก็ถูกฮ่องเต้เย่ให้แยกย้ายกลับไปแล้ว

กู้ชูหน่วนออกมายืนช้าๆ

ฮ่องเต้เย่ตกใจ “ใคร! ออกมา!”

“เอะอะอะไร ไม่มีผีสักหน่อย”

“เป็นเจ้า เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ฮ่องเต้เย่ถลึงตาด้วยโทสะ

เย่จิ่งหานรังแกเขายังแล้วไป แม้แต่ยัยอัปลักษณ์ก็ยังรังแกเขา เขายังเป็นฮ่องเต้แคว้นเย่อยู่อีกไหม?

“ม่านราตรีงดงาม หม่อมฉันออกมาเดินเล่นเพคะ”

“บังอาจ! เห็นข้า ไยไม่คุกเข่าคารวะ ในสายตาเจ้ายังมีข้าอีกหรือไม่?!”