ตอนที่ 208 ลมหึงหึ่ง / ตอนที่ 209 นายข่มขู่ฉัน

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 208 ลมหึงหึ่ง

 

 

เจียงมู่เฉินเห็นแววตาของเขา จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวที่คอขึ้นมานิดหน่อย รู้สึกมาตลอดว่าในแววตาของซือเหยี่ยนไม่มีเรื่องอะไรดีแน่ เขาคงจะไม่คิดบัญชีเรื่องที่ตัวเองโดนซังจิ่งกอดหรอกใช่ไหม

 

 

เจียงมู่เฉินปวดหัวจนกุมขมับ พวกเขาคุยกันมาจนถึงตอนนี้แล้ว ยังคิดว่าซือเหยี่ยนจะลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้วซะอีก

 

 

“คือว่า…ระหว่างพวกเราก็พูดกันจบแล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะมีเรื่องอะไรได้อีก”

 

 

ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “ช่วงนี้มู่เฉินอารมณ์ไม่ดี ออกมาแก้เซ็งเป็นเพื่อนเขา?” เขาก้มหน้ามองคนใต้ร่าง “คุณอยากจะอธิบายให้ผมฟังสักหน่อยไหม อะไรคือออกมาแก้เซ็งเป็นเพื่อนคุณ”

 

 

พอคิดถึงว่าทั้งสองวันนี้เจียงมู่เฉินอยู่ด้วยกันกับซังจิ่งตลอด ซือเหยี่ยนก็รู้สึกว่าในใจลมหึงใกล้จะหึ่งเต็มทนแล้ว

 

 

“คือ…คือ…ว่าเขาเข้าใจผิดเอง ฉันไม่ได้พูดขนาดนี้ซะหน่อย”

 

 

“อ๋อ เข้าใจผิดเองสินะ” ซือเหยี่ยนหัวเราะเบาๆ “คุณอย่าผมนะว่าพวกคุณสองอยู่ในภูเขาด้วยกันก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดด้วย”

 

 

เจียงมู่เฉินขยับมือ “คือว่า นายถอยห่างจากฉันนิดนึงก่อน มือฉันโดนนายกดไว้จนชาแล้ว”

 

 

ซือเหยี่ยนเลิกคิ้วมองดูเขา “ยังชาไหม”

 

 

เจียงมู่เฉินกลัวขึ้นมาทันที “ไม่ชา ไม่ชา ไม่ชาเลยสักนิด สบายฟินสุดๆ เลย”

 

 

“งั้นคุณอยากจะอธิบายกับผมหน่อยไหม ว่าพวกคุณสองคนมาอยู่ในภูเขานี้ด้วยกันได้ยังไง”

 

 

“พวกเรามาที่นี่ก็เพราะเรื่องงาน ไม่ใช่เพราะเรื่องส่วนตัว” เจียงมู่เฉินมองเขาก็หัวเราะ “แหะแหะ” ออกมาสองเสียง

 

 

“เรื่องงาน? ระหว่างพวกคุณสองคนจะมีเรื่องงานอะไรได้”

 

 

เจียงมู่เฉินเคืองใจแล้ว “อะไรเรียกว่าระหว่างฉันกับเขาจะมีเรื่องงานอะไรได้ เขาเป็นเจ้าของบริษัท ฉันเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัท จะร่วมทำธุรกิจด้วยกันบ้าง ไม่ได้เหรอ”

 

 

“ได้ งั้นขอถาม พวกคุณเตรียมวางแผนจะทำธุรกิจอะไร”

 

 

“เรื่องนี้บอกนายได้หรือไง นี่คือความลับทางธุรกิจของพวกเรา บอกนายแล้ว ถ้าหากว่านายอยากขโมยธุรกิจของพวกเราขึ้นมาจะทำยังไง” เจียงมู่เฉินกรอกตาไปมาอย่างรู้ทัน

 

 

‘เยี่ยม! เยี่ยมจริงๆ! ตอนนี้ยังรู้จักคุยเรื่องความลับทางธุรกิจด้วยเหรอ’

 

 

‘เก่งขนาดนี้ ทำไมไม่ขึ้นไปสวรรค์กันเลยล่ะ!’

 

 

เขาโน้มตัวก้มลงประกบปากที่ยังคงร้องประท้วงของเจียงมู่เฉิน จูบปิดช่องทางอย่างหนักหน่วง ในที่สุดเขาก็พบว่าเจียงมู่เฉินตอนพูดจาดูดึงดูดใจไม่เท่ากับเจียงมู่เฉินตอนไม่พูดจาแล้วนอนอยู่ใต้ร่างเขาแบบเทียบไม่ติดเลยทีเดียว

 

 

เจียงมู่เฉินตั้งตัวรับไม่ทัน โดนเขาจูบกันไว้ทุกทาง แขนขาออกแรงไม่ไหว ทำได้เพียงยอมให้เขากดจูบตัวเองอยู่แบบนี้

 

 

‘มามุขนี้ทุกครั้งไป พูดไม่ชนะเขาก็ใช้ปากจูบเขา’

 

 

‘มีวิธีที่ดีกว่านี้หน่อยได้หรือเปล่า หาวีธีอื่นๆ บ้าง อย่าเอะอะก็คร่อมทับจับกด ยิ่งทำยิ่งเหนื่อยนะ’

 

 

ซือเหยี่ยนกัดเขาแรงๆ คำหนึ่งถึงได้ถอยห่างออกมาเพียงนิด “แล้วพวกคุณคุยธุรกิจกันถึงขนาดกอดกันด้วยเหรอ”

 

 

เบื้องบนรู้เห็นเป็นใจ เมื่อครู่นั่งในรถก็เห็นพวกเขาทั้งสองคนกอดกันกะทันหันพอดี ซือเหยี่ยนหน้าดำคร่ำเครียดไปขนาดไหน แม้แต่อุณหภูมิในรถก็ลงฮวบลงในพริบตา

 

 

เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมจริงๆ เขายังไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ก็แค่เสียหลักทรงตัวไม่อยู่ก้าวพลาดไป แล้วซังจิ่งก็ดึงตัวเขาไว้ทันพอดี ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นด้วย

 

 

“อะไรคือเรียกว่าพวกเรากอดกัน ที่เขาทำคือเรียกว่ากล้าทำในสิ่งที่ชอบธรรม เห็นฉันจะล้มเสียหลัก ก็ยื่นมือมาดึงฉันไว้”

 

 

ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “กล้าทำในสิ่งที่ชอบธรรม? ตามที่คุณพูดมาขนาดนี้ ถ้าครั้งหน้าคนอื่นโดนวางยา ผมก็จะกล้าทำในสิ่งที่ชอบธรรมช่วยเขาแก้คลายฤทธิ์ของยาเลย?”

 

 

เจียงมู่เฉินได้ยินก็ระเบิดลงทันที “แม่งเอ๊ย ถ้านายกล้าไปป๊าบๆ กับคนอื่นนะ คุณชายอย่างฉันจะทำลายนายทิ้งซะ”

 

 

ซือเหยี่ยนเบือนหน้าไม่สนใจเขา

 

 

เจียงมู่เฉินกัดเขาไปคำหนึ่ง “นายได้ยินไหม”

 

 

ซือเหยี่ยนยังไม่พูดจาต่อไป

 

 

เจียงมู่เฉินร้อนใจแล้ว “นี่ ฉันพูดกับนายอยู่นะ นายได้ยินไหม”

 

 

ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “กล้าทำในสิ่งที่ชอบธรรม คุณพูดของคุณเองไม่ใช่เหรอ นี่ผมก็ทำตามความคิดของคุณไง”

 

 

 

 

ตอนที่ 209 นายข่มขู่ฉัน

 

 

เจียงมู่เฉินโดนเขาอัดด้วยคำพูดจนตัวเองพูดไม่ออก เจ้าหมอนี่พูดจาได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาเลือดขึ้นหน้าแล้ว ก่อนจะเอ่ยตอบ “ได้ ครั้งนี้ถือว่าฉันผิดเอง ฉันไม่ดีเอง ที่ปล่อยให้ซังจิ่งฉวยโอกาสได้”

 

 

ซือเหยี่ยนจ้องมองเขา “ยังมีอีกไหม”

 

 

เจียงมู่เฉินทำหน้างุนงง “ฉันก็ยอมรับในความผิดฉันไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่จบสักที”

 

 

“คุณคิดว่าแค่พูดไปเรื่อยมาประโยคเดียวก็ได้แล้วเหรอ”

 

 

เจียงมู่เฉินชูนิ้วกลางในใจเงียบๆ ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขาก่อน ง้อเขาให้ได้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน

 

 

เขาเข้าไปใกล้แล้วจูบซือเหยี่ยนไปทีหนึ่ง “ฉันรับประกันว่าหลังจากนี้จะไม่เกิดปัญหาแบบนี้อีก ถ้าปัญหาแบบนี้ปรากฏขึ้นมาอีก ก็ตามแต่คุณซือเหยี่ยนจะจัดการเลย ฉันรับรองจะไม่ขัดขืนต่อต้านใดใดทั้งสิ้น…เป็นไงบ้าง ฉันยอมรับในความผิดครั้งนี้ได้ลึกซึ้งมากเลยใช่ไหม”

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางเอาอกเอาใจของเขา ก็ยกมุมปากขึ้นอย่างจนใจ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยจะโกรธอีกฝ่ายลงคอได้อยู่แล้ว

 

 

เขากัดคนตรงหน้าอีกสักที “เห็นแก่ที่คุณยอมรับผิดอย่างลึกซึ้งเมื่อกี้นี้ ครั้งนี้ผมก็จะไม่สอบสวนต่อแล้ว”

 

 

เจียงมู่เฉินตาลุกวาว “ดีเลย ดีเลย ไม่สอบสวนแล้ว”

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางดีอกดีใจของเขา แววตาก็ประกายความเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแวบหนึ่ง “แต่ว่าเพื่อให้คุณเป็นบทเรียน การลงโทษที่ควรพึ่งมีก็ยังต้องมีอยู่”

 

 

เจียงมู่เฉินงงเป็นไก่ตาแตก บ้าอะไรกัน ทำไมจู่ๆ อยากจะลงโทษเขา การซื้อขายครั้งนี้ไม่คุ้มค่าเกินไปหรือเปล่า ขอโทษก็แล้ว รับผิดก็รับแล้ว ตอนนี้ยังจะลงโทษเขาอีกเหรอ

 

 

“นายยังคิดจะลงโทษฉันเหรอ การซื้อขายครั้งนี้ขาดทุน คุณชายไม่ทำด้วยแล้ว” เจียงมู่เฉินรีบผลักเขาออก รีบสาวเท้าคิดจะวิ่งออกไป

 

 

“เสียใจทีหลังก็ได้” ซือเหยี่ยนนั่งนิ่งๆ พิงอยู่ตรงนั้น “งั้นที่ผมพูดไปเมื่อกี้เก็บกลับคืนทั้งหมด”

 

 

เจียงมู่เฉินชะงักฝีเท้าไป หยุดชะงักหัวแทบทิ่ม

 

 

“นายข่มขู่ฉันเหรอ”

 

 

ซือเหยี่ยนยักคิ้ว “อืม กำลังข่มขู่คุณอยู่ไง”

 

 

เจียงมู่เฉินระเบิดลง “ว้าว ดีนี่ซือเหยี่ยน คิดไม่ถึงว่าข่มขู่ฉันกันหน้าด้านๆ ขนาดนี้”

 

 

“ดังนั้นคุณจะรับการข่มขู่นี้ไหม”

 

 

เจียงมู่เฉินเลือดขึ้นหน้าแล้ว เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง ถ้าไม่รับ แล้วซือเหยี่ยนออกไปหาคนอื่นขึ้นมา จะทำยังไง แต่ถ้ารับการข่มขู่นี้ เขาก็ต้องรับการลงโทษของซือเหยี่ยน

 

 

การโดนตลบหลังนี้คิดไม่ถึงว่าเขาจะบังคับแฟนตัวเองขนาดนี้ ยังมีความรักกันอยู่นิดนึงบ้างไหม

 

 

“เฉินเฉิน คุณคิดดีหรือยัง” ซือเหยี่ยนนั่งพิงอยู่ตรงนั้น น้ำเสียงอ่อนโยนดั่งน้ำใส

 

 

เจียงมู่เฉินกัดฟันกรอด “ลงโทษกันอยู่ไม่ใช่หรือไง นายลงโทษเรียบร้อยแล้ว” เขาไม่เชื่อหรอกว่าซือเหยี่ยนจะยังกล้าลงไม้ลงมือกับเขาอย่างโหดเ**้ยม

 

 

แววตาซือเหยี่ยนประกายรอยยิ้ม “ได้ นั่นพูดเองนะ”

 

 

เจียงมู่เฉินพยักหน้า “ฉันพูดแล้ว ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด”

 

 

“ได้ งั้นคุณเข้ามาเถอะ”

 

 

เจียงมู่เฉินยืนอยู่ตรงนั้นไม่เข้าไป มองเขาอย่างระแวดระวัง “ฉันว่านายอย่าเอาแต่คิดมาต้มตุ๋นฉันจะดีที่สุด”

 

 

ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะเบาๆ “ผมจะต้มตุ๋นคุณลงได้ยังไง”

 

 

เจียงมู่เฉินเห็นรอยยิ้มนั้นของเขา ก็รู้สึกว่าน่ากลัวเกินบรรยาย เขารู้สึกมาตลอดว่าแค่มองซือเหยี่ยนแวบเดียว คนคนนี้ก็ไม่มีเจตนาดีอะไรแล้ว

 

 

“ถ้านายกล้าต้มตุ๋นฉัน คุณชายจะทำลายนายแน่นอน” เจียงมู่เฉินยังคงกล่าวตักเตือน

 

 

ซือเหยี่ยนทำหน้าทำตาสบายๆ ไม่กดดัน “วางใจเถอะ เฉินเฉิน ผมจะดีกับคุณให้มากๆ”

 

 

หลังจากพินิจพิจารณาอยู่หลายครั้ง เจียงมู่เฉินถึงเพิ่งได้เดินเข้าไปอย่างช้าๆ เขามองซือเหยี่ยนอย่างระแวดระวัง ขอเพียงแต่อีกฝ่ายเล่นตุกติกลงมือทำอะไรกะทันหัน เขาก็จะเปลี่ยนใจทันที

 

 

‘ถึงยังไงซือเหยี่ยนก็ไม่ได้พูดว่าไม่ให้เขาเปลี่ยนใจ คนโบราณกล่าวไว้การทหารไม่เบื่อหน่ายกลอุบายไม่ใช่เหรอ’

 

 

 ซือเหยี่ยนกวักมือเรียกเขา เจียงมู่เฉินเดินเข้าไปหาด้วยความไม่สมัครใจ “นายคงจะไม่คิดจะใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับฉันหรอกใช่ไหม”

 

 

ซือเหยี่ยนสีหน้าบูดบึ้ง เขาดูมีแนวโน้มจะป่าเถื่อนมากเลย?

 

 

“หรือจะว่านายฉวยโอกาสตอนที่ฉันเผลอแอบวางแผนร้ายอะไรใส่ฉันอีกแล้ว?”

 

 

ซือเหยี่ยนกุมขมับ รู้สึกว่าแฟนของเขาพูดมากเกินไปหน่อยแล้ว เขาอดทนที่เหลือเพียงน้อยนิดโดนเขาบดขยี้จนใกล้จะหมดแล้ว

 

 

ไม่รอให้เขาได้พูดต่อ ซือเหยี่ยนฉวยโอกาสตอนเขาเผลอ คว้าตัวเขามาคร่อมทับไว้ ไม่ให้โอกาสเจียงมู่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบก็ลงมือถอดเสื้อผ้าเขาเสียเดี๋ยวนั้น