บทที่ 92 สูตร
เมื่อเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ซูเฉินรู้สึกว่ายังคงรู้สึกแน่นหน้าอกอยู่เล็กน้อย และขาของเขาก็ยังคงหนักอยู่ การไหลเวียนของพลังต้นกำเนิดไม่ดีนัก ซูเฉินเข้าใจแล้วว่าปัญหาจากเมื่อวานยังไม่ได้รับการแก้ไข
ดูเหมือนว่าคงจะต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่เขาจะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์
ซูเฉินไม่ต้องการรอนานขนาดนั้น โชคดีที่เขารู้จักยาชนิดหนึ่งที่สามารถรักษาอาการพลังต้นกำเนิดอ่อนแรง ซูเฉินตัดสินใจว่าเขาอาจจะปรุงยาขึ้นมาเองไปพร้อมกับฝึกฝนทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของอูเอ่อร์หลี่
เมื่อซูเฉินอยากจะทำ เขาก็จะทำ ซูเฉินเรียกหาหมิงชูและให้ไปแจ้งโจวหงให้เตรียมรถม้า
หลังจากที่เจี้ยนซินหายตัวไป หมิงชูก็ได้กลายเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของซูเฉินอย่างเป็นทางการ แม้ว่าเด็กคนนี้จะหัวดื้อไปหน่อย แต่เขาก็ซื่อสัตย์และภักดีต่อซูเฉินอย่างมากมาก ดังนั้นซูเฉินจึงค่อนข้างชอบเขา
ตอนนี้หมิงชูกำลังช่วยให้ซูเฉินล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยอยู่ ในขณะที่ซูเฉินเฝ้าดูอีกฝ่ายทำงานอย่างขยันขันแข็ง ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา เขาพูดว่า “หมิงชู เจ้าอยากเรียนศิลปะการต่อสู้ไหม?”
“แน่นอนว่าข้าน้อยอยาก แต่แค่อยากมันจะไปมีประโยชน์อะไร หากไม่มีแต่ใครมาสอนให้ข้าน้อย” หมิงชูตอบอย่างเศร้าโศก
“ข้าสามารถสอนให้เจ้าได้ หากเจ้าต้องการ” ซูเฉินกล่าว
“จริงหรือ ?” ดวงตาของหมิงชูเปล่งประกายขึ้นในทันที
แต่แล้วใบหน้าเล็ก ๆ ก็ซึมลงอีกครั้ง “นายน้อยอย่าแกล้งหยอกข้าให้ดีใจเล่นเลย ทุกคนรู้ดีว่าทักษะการต่อสู้ของตระกูลซูไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้”
ซูเฉินยิ้มและพูดว่า “ข้าไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะสอนทักษะของตระกูลซูให้เจ้า นอกจากนี้ทักษะของตระกูลซูมีอะไรดีกัน? ข้ามีอันที่ดีกว่านั้นให้เจ้า”
หมิงชูจ้องไปที่ซูเฉินอย่างว่างเปล่า “นายน้อย ท่านพูดจริง ? ”
ซูเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง
หมิงชูดีใจสุด ๆ “ยอดไปเลย!”
หมิงชูกระโดดขึ้นลงอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะคุกเข่าลง “หมิงชูขอบพระคุณนายน้อยอย่างยิ่ง ที่ถ่ายทอดทักษะเหล่านี้ให้แก่ข้า!”
“เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจพิธีการให้มากนักหรอก ลุกขึ้นแล้วไปดูแลเรื่องที่ต้องทำเถอะ” ในระหว่างที่พูดคุยกัน ซูเฉินก็ล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ข้าจะไปเรียกโจวหง!” หมิงชูตะโกนก่อนจะลุกขึ้นและออกไป
เมื่อหมิงชูวิ่งไปถึงประตูทางเข้า เขาก็หันกลับมาและมองไปที่ซูเฉิน “ข้าบอกเรื่องนี้กับโจวหงได้หรือไม่ ? ”
ซูเฉินยิ้ม “แน่นอน บอกมันด้วยว่ามันก็สามารถเรียนรู้ได้เช่นกันหากมันต้องการ”
“ขอรับนายน้อย!” หมิงชูวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น
เมื่อออกจากที่พักก็พบกับโจวหงที่รออยู่พร้อมรถม้าหน้าประตูทางเข้าแล้ว จากสีหน้าตื่นเต้นของอีกฝ่ายก็สามารถบอกได้อย่าง่ายดายว่าหมิงชูได้แจ้งสถานการณ์ให้เขาทราบแล้ว อย่างไรก็ตามโจวหงอายุมากกว่าหมิงชูมาก และเขาก็มีประสบการณ์ชีวิตที่ตกต่ำ ดังนั้นเขาจึงยังดูสงบกว่าหมิงชูมาก โจวหงไม่ลืมงานของตัวเอง และทำหน้าที่รับผิดชอบของเขาอย่างเงียบ ๆ
“พาข้าไปที่คฤหาสน์วายุเหนือน้ำ” ซูเฉินกล่าวขณะที่เขาก้าวขึ้นรถม้า
รถม้ามุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์วายุเหนือน้ำ
คฤหาสน์วายุเหนือน้ำตั้งอยู่บนถนนลมวสันต์ทางด้านตะวันออก เป็นร้านยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลินเป่ย ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้ขึ้นต้องต่อตระกูลใด ดังนั้นจึงเป็นโถงยาที่ใหญ่ที่สุดในหลินเป่ย
เมื่อตอนที่ซูเฉินสูญเสียการมองเห็น ตระกูลซูเคยเชิญหมอหลายคนจากที่นี่ไปช่วยดูดวงตาของเขา ดังนั้นหลายในคนที่นี้จึงคุ้นเคยกับซูเฉินดี
ทันทีที่มาถึงคฤหาสน์วายุเหนือน้ำ ผู้ช่วยผู้หนึ่งก็เข้ามาทักทายเขาทันที “ที่แท้เป็นนายน้อยสี่ ธุระใดที่ทำให้วันนี้ท่านอุสาห์มาถึงที่นี่กัน?”
“โปรดจัดเตรียมส่วนผสมยาที่จำเป็นทั้งหมดตามสูตรนี้ให้ข้าที” ซูเฉินกล่าวพร้อมกันส่งมอบสูตรยาไป
สูตรนี้ซูเฉินเป็นผู้บอกเล่า และได้หมิงชูช่วยจดให้
อูเอ่อร์หลี่สามารถเปลี่ยนแปลงแมลงที่กินเหล็กได้ ความเข้าใจด้านชีววิทยาก็จัดได้ว่าดี อีกทั้งยังค่อนข้างเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ด้วย ซูเฉินเป็นพวกช่างสงสัยอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะลองปรุงยาตามสูตรการวิจัยของอูเอ่อร์หลี่อันนี้ดู
ผู้ช่วยผู้นั้นหยิบสูตรขึ้นมาชำเลืองดู ก่อนจะยื่นให้ผู้ดูแลร้านด้วยท่าทางแปลก ๆ เมื่อผู้ดูแลร้านมองดูคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “สูตรนี้แปลกจริง ๆ ”
ซูเฉินแอบยิ้มเบา ๆ
เภสัชศาสตร์ของอาร์คาน่าโบราณกับร้านขายยาแผนปัจจุบันนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พวกมันแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของกระบวนการคิดส่วนผสมและวิธีการสร้าง ไม่น่าแปลกใจที่อีกฝ่ายไม่เข้าใจในสูตรนี้
ผู้ดูแลร้านอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นายน้อยสี่ได้สูตรนี้มาจากไหนกันหรือ ? ผลของสูตรนี้เป็นอย่างไร ? ”
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับธุระกิจของเจ้าหรือเปล่า ? ” ซูเฉินถามกลับ
ผู้ดูแลร้านรีบพูดว่า “โอ้ ไม่เลย ๆ ข้าแค่อยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย”
หลังจากพิจารณาแล้วว่าสูตรนี้ไม่ได้ระบุวิธีการปรุงยาเอาไว้ด้วย ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่สามารถใช้งานมันได้ ซูเฉินจึงไม่ได้ซ่อนมันจากพวกเขาและตอบว่า “มันถูกใช้เพื่อรักษาอาการตีกลับจากการสูญเสียการควบคุมพลังต้นกำเนิด ที่เกิดจากการไหลเวียนที่ปั่นป่วนของปราณ”
“ยาที่สามารถรักษาพลังต้นกำเนิดตีกลับ?” ผู้ดูแลร้านตาเป็นประกายสว่างขึ้นทันที
พลังต้นกำเนิดตีกลับเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิด เหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการฝึกฝนหรือการต่อสู้ อย่างไรก็ตามมีตัวยาไม่มากนักที่สามารถใช้รักษาอาการตีกลับนี้ได้ ส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่ช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น และที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการรักษาโดยตัวผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดเอง ด้วยการใช้รากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาคอยช่วยให้มันฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
ปัญหาหลักก็คืออาการตีกลับเบา ๆ สามารถรักษาให้หายได้ แต่กรณีที่อาการตีกลับอย่างรุนแรงเกิดขึ้นนั้นอาจจะไม่สามารถรักษาได้
สำหรับผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดหลายคนที่มีอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับในกรณีรุนแรง ก็เปรียบได้กับการมีโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้พวกเขากลัว ถึงกระนั้นก็มียาหรือวิธีการรักษาน้อยมากที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้จริง ๆ
ด้วยเหตุนี้ตาของผู้ดูแลร้านจึงเปล่งประกายขึ้นโดยสัญชาตญาณ เมื่อเขาได้ยินว่ายานี้สามารถรักษาอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับได้
อย่างไรก็ตามซูเฉินส่ายหัว “มันรักษาได้เฉพาะการตีกลับเบา ๆ เท่านั้น”
“แม้จะรักษาได้แค่กรณีการตีกลับเบา ๆ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา” ผู้ดูแลกล่าวอย่างตื่นเต้น “นายน้อย ท่านสามารถขายสูตรนี้ให้เราได้หรือไม่?”
ยาใด ๆ ที่สามารถรักษาอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับ มันก็นับว่ามีค่า!
แม้ว่าปริมาณการขายที่ได้จากยาเหล่านี้จะมีไม่มากนัก แต่ผลกำไรนั้นกลับสูงมาก อย่างไรเสียผู้ที่จะมีอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับก็ย่อมต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิด
และผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดก็ย่อมไม่ได้ขาดแคลนเงิน
ตราบเท่าที่ปัญหาของพวกเขาสามารถแก้ไขได้ พวกเขาก็ยินดีจะจ่ายไม่ว่าจะมากเท่าไหร่ก็ตาม
ดังนั้นจึงไม่เคยมีความกลัวว่าจะมียาหลายชนิดมากเกินไปที่สามารถรักษาอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับได้เกิดขึ้น หากบางคนไม่สามารถรักษาให้เห็นผลได้จากการลองยาไปเพียงหนึ่งหรือสองชนิด พวกเขาอาจจะกวาดซื้อไปประเภทละหนึ่งด้วยซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่ายาชนิดใดที่จะแก้ปัญหาของพวกเขาได้
ท้ายที่สุดอาการพลังต้นกำเนิดตีกลับก็มักเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน และไม่มีใครรู้ว่าการรักษาแบบใดได้ผลดีที่สุด
เห็นได้ชัดว่าสูตรนี้แตกต่างจากสูตรของยาที่ใช้รักษาตามปกติทั่วไปอย่างมาก หมายความว่าแค่ราคาต้นทุนเพียงอย่างเดียวก็สูงมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมูลค่าตลาดที่แท้จริง
ผู้ดูแลร้านไม่กังวลว่าซูเฉินจะพยายามโกงพวกเขาเลย ยังไงซะฐานะของนายน้อยสี่แห่งตระกูลซูก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น นอกจากนี้ถ้าหากเขากล้าที่จะโกงคฤหาสน์วายุเหนือน้ำจริง ๆ ตระกูลซูก็ควรยอมแพ้ในการมาหาพวกเขาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยไปได้เลย
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้ดูแลร้านต้องการซื้อมัน ซูเฉินกลับไม่ได้ต้องการขาย เด็กหนุ่มเพียงแค่ส่ายหัวและพูดว่า “ต้องขออภัย ข้าไม่ได้ขายสูตรนี้ โปรดจัดเตรียมส่วนผสมทั้งหมดให้ข้าด้วย”
ผู้ดูแลร้านรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง
เขาอยากจะลองอ้อนวอนดูอีกสักหน่อย แต่จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงพูดดังมาจากทางด้านหลังว่า “ไหนสูตรล้ำค่าอะไร? ขอข้าดูหน่อย”
ทันใดนั้นก็มีมือเอื้อมมาหยิบสูตรในมือของผู้ดูแลร้านไปทันที