ตอนที่ 920 เก็บขยะ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 920 เก็บขยะ

 

หยางโปกําลังจะไปที่จินหลิง และกําลังสับสนอยู่กับความคิดนี้หลังจากรับภารกิจของชายชรามาหยางโปก็รู้สึกสับสนเขาถึงกับคิดที่จะขัดขืนคําสั่งของชายชราอีกด้วย

 

แต่หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วหยางโปก็ต้องยอมแพ้ความคิดของชายชราจริงๆแล้วมันก็ค่อนข้างยากที่จะยอมรับได้แต่เขาก็ทําเพื่อสายเลือดและทายาทของตระกูลชุย บางที่อาจไม่จําเป็นต้องแต่งงานในวันนั้นแต่อย่างน้อยก็ต้องพยายามทําให้คนชราเห็นถึงความมุมานะอุตสาหะและทําให้ชายชรามีทางลงในเวลานั้น !

 

ถ้าแบบนี้ หยางโปจําเป็นต้องคิดทบทวนให้รอบคอบซะแล้ว อู่อีที่เพิ่งแยกจากเขาไป

 

จะต้องถูกคัดออก ถ้าเขาบอกปูว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่ง และยังเป็นว่าที่ประธานของสมาคมอินากาวะอีกด้วย เกรงว่าคุณปูจะต้องตีขาเขาหักแน่ๆ

 

สําหรับเยาจขึ้นเหยาแล้ว เธอยังเด็กเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ครั้งก่อนที่โทรคุยกัน

 

พวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย อยากจะติดต่อหาก็ติดต่อไม่ได้

 

สําหรับถั่วชิง อันที่จริงก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเธอมีรูปร่างหน้าตาดีและยังสามารถช่วยจัดการธุรกิจได้ตลอด ทั้งสองถือว่าเข้ากันได้ดีแต่ก็มีความสัมพันธ์แบบเจ้านายและลูกน้องเสมอมาดังนั้นหยางโปจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

 

ฮัวชิงหยุน เป็นคนที่ชายชราจัดหามาให้ และที่สําคัญชายชราก็พึงพอใจกับเธอมาก

 

หยางโปคิดอยู่ครู่หนึ่ง มีเพียงตัวเลือกคนนี้เท่านั้นที่ดูจะค่อนข้างเหมาะสมหน่อย

 

หยางโปครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เหลือบมองดูเวลา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรหาลู่เจียเฟย

 

ดึกมากแล้ว ตอนที่ลู่เจียเฟยรับสาย ทางนั้นมีเสียงดังรบกวน จนหยางโปพอที่จะได้ยินเสียงเพลงแผ่วเบาดังเข้าสายมา

 

“ สะดวกคุยไหม ? ” หยางโปถาม

 

ลู่เจียเฟยดูดื่มจนเมาแล้วเล็กน้อย “ สะดวก สะดวก ! “

 

4 ช่วงนี้ธุรกิจเป็นยังไงบ้าง ? ” หยางโปเอ่ยปากทักทาย

 

ลู่เจียเฟยหัวเราะและตอบไปว่า “ ช่วงนี้ธุรกิจดีมาก ครั้งก่อนที่นายช่วยฉันแนะนําช่อง ทางธุรกิจทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนนี้มียอดขายดีเอามากๆช่วงนี้ฉันทําเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเลยออกมาพักผ่อนสักหน่อยนะ !”

 

หยางโปยิ้ม “ หาเงินได้เป็นเรื่องที่ดี พรุ่งนี้ผมจะไปจินหลิง ถ้าคุณพอมีเวลา เรามาปรึกษาหารือกันเรื่องร่วมหุ้นทําธุรกิจหน่อยได้ไหม !”

 

* จริงเหรอ ? พวกเรามาร่วมหุ้นทําธุรกิจประเภทไหนกันดีล่ะ ? ทําธุรกิจอะไรดี ? ” เมื่อลู่เจียเฟยได้ยินว่าหาเงิน ก็หายเมาไปครึ่งหนึ่งแล้ว

 

หยางโปคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาอย่างลังเลว่า “ ในเมื่อเป็นการหาเงิน มันจะดีกว่าที่จะหาวิธีที่ง่ายและสะดวกสักอย่างเอาแบบนี้ก็แล้วกันพรุ่งนี้รอเราเจอกันแล้วค่อยคุยกันอีกที ”

 

คู่เจียเฟยค่อนข้างใจร้อน แต่หยางโปไม่ยอมคุยด้วย เขาจึงพูดอะไรมากไม่ได้ จึงได้แต่ตอบกลับไปว่า ” อึมงั้นเจอกันพรุ่งนี้ !”

 

เมื่อวางสายแล้ว หยางโปก็นั่งอยู่บนโซฟาดูลังเลอยู่ไม่น้อย เมื่อสักครู่เขาแค่พูดไปลอยๆเท่านั้นไหนเลยจะคิดว่าอีกฝ่ายจะถือเอาคําพูดของเขาเป็นจริงเป็นจังไปได้ เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะหาเงินได้จากที่ไหน ?

 

ถ้ารู้ว่าอะไรหาเงินได้ง่ายดาย หยางโปคงทําเองไปนานแล้ว จะอยู่รอจนถึงตอนนี้เหรอ ?

 

คิดไปคิดมา หยางโปก็ถึงกับส่ายหัว หยิบกระจกแสงจันทร์ออกมา นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงและลุกขึ้นนั่งสมาธิ

 

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หยางโปได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อน เขาเงยหน้าขึ้นและเหลือบมอง

 

“ เข้ามาสิ !” ตาอ้วนหลิวเดินเข้ามา ในอ้อมแขนของเขากอดกล่องเล็กๆเอาไว้ “ นําของมาให้นายแล้วฉันออกมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”

 

หยางโปยิ้มและพูดว่า ” ลําบากแล้ว”

 

ตาอ้วนหลิวจึงตอบกลับไปว่า “ อย่ามาพูดจามั่วชั่ว พอได้ของมาไว้ในมือ ฉันก็อยากรู้มาตลอดว่าข้างในมีอะไรอยู่ ตอนนี้เปิดเลยได้ไหม ? ”

 

หยางโปพยักหน้า “ เปิดสิ อันที่จริงมันก็ไม่มีค่าอะไรอยู่แล้ว ”

 

ตาอ้วนหลิวแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดกล่อง เขาจึงเปิดกล่องและชะโงกหน้ามองเข้าไปด้านใน

 

หยางโปรู้ดีว่าสิ่งที่เขาสามารถนํากลับมาด้วยได้ ก็จะนํากลับมา ทั้งหมดจะถูกเขานําติดตัวกลับมาเองที่เหลืออยู่นั้นเอามาด้วยไม่ง่าย ด้านในกล่องหลักๆคือหม้อสี่เหลี่ยมดอกบัวและนกกระเรียนทองสัมฤทธิ์สมัยราชวงศ์ฮั่นส่วนของชิ้นอื่นๆน่าจะยังมีกล่องใส่มาอยู่อีก

 

ตาอ้วนหลิวเปิดกล่องออก และเห็นหม้อทองสัมฤทธิ์ทรงสี่เหลี่ยมเข้าให้จริงๆ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ ฉันนึกว่ามันจะเป็นหัวของสัตว์สิบสองนักษัตรซะอีก ”

 

“ เรื่องที่นายเข้าใจมีอยู่ออกจะมากมาย ” หยางโปกล่าว

 

หยางโปไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้มากนัก เขาเดินออกไปดู กล่องก็ถูกลากเข้ามาไว้หมดแล้วเขาจัดหาคนย้ายกล่องไปไว้ที่ห้องใต้ดินเขาเหลือบไปดูอีกครั้งเมื่อเห็นว่าด้านในไม่มีอะไรเสียหายจึงไม่ได้เปิดออกมาดู

 

“ กินข้าวเช้าหรือยัง ? ” หลินหลินเดินออกมา และหันไปถามตาอ้วนหลิว

 

ตาอ้วนหลิวส่ายหน้า ” ยังเลยครับ ผมรีบมาที่นี้แต่เช้าเพื่อที่จะมากินข้าวเช้าฟรีที่นี่เลย “

 

นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร หยางโปก็ขอคําชี้แนะเกี่ยวกับปัญหาเรื่องธุรกิจกับตาอ้วนหลิวเขาก็อธิบายสถานการณ์คราวๆให้ฟัง

 

ตาอ้วนหลิวหลุดหัวเราะออกมาทันที “ นายนี่มันจริงๆเลย เพื่อเอาใจว่าพี่เขย ก็ไม่ควรทํางขนาดนี้ไม่ใช่หรือไง ?”

 

หยางโปส่ายหัว “ พวกเราไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว”

 

รอยยิ้มบนใบหน้าตาอ้วนหลิวแข็งกระด้างทันที “ ฉันคิดว่านายไม่จําเป็นต้องรีบร้อนไปหาถึงขนาดนี้ ลองถามดูก่อนดีไหม เผื่อว่าฉันหมายถึงว่า ถ้าเธอมีแฟนแล้ว นายควรจะวางตัวยังไง ?

 

หยางโปตะลึงนิ่งอึ้งไปทันที เขาไม่ได้คิดถึงเหตุผลนี้เลยจริงๆ

 

“ ลูกไม่ต้องห่วงไปเถอะ เธอไม่มีแฟนหรอก เรื่องนี้แม่รู้ดี ” หลินหลินกล่าว

 

หยางโปหันควับไปมองหลินหลินทันที “ แม่พูดอะไรน่ะ ? แล้วแม่รู้ได้ยังไง ? “

 

“ แน่นอนแม่รู้สิ แม่ติดต่อกับเธอมาโดยตลอด เรามักจะโทรคุยกันตลอด ” หลินหลินตอบ

 

หยางโปถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย ” แม่คุยกับเธอ คุยอะไรกัน ?”

 

“ แม่เหรอ แม่ก็พูดเรื่องลูกน่ะสิ พูดถึงเรื่องของลูก เธอก็พูดถึงเรื่องในโรงเรียนของเธอ

 

ทําไม พวกเราพูดคุยกันไม่ได้เหรอ ? ” หลินหลินถาม

 

หยางโปมองหน้าหลินหลิน เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าแม่จะทําแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเธออยากช่วยหยางโปปกป้องแฟนสาวเอาไว้

 

“ อึมงั้นก็ดี เดี๋ยวสักครู่ผมจะไปที่จินหลิง ” หยางโปพูด เขาจะทําให้แม่ผิดหวังไม่ได้ !

 

ตาอ้วนหลิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ ฉันมีโครงการหนึ่งอยู่ น่าจะทําเงินได้ แต่มีปริมาณทางเทคนิคหน่อย ตอนนี้มีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากมายที่จะถูกทิ้งไม่ใช่เหรอ ? พวกนายสามารถเปิดโรงงานรับรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วทิ้งก็ได้ สกัดโลหะที่มีมูลค่าสูงที่อยู่ด้านในออกมานี่ถือเป็นธุรกิจที่ได้กําไรมากมหาศาลเลยทีเดียว !”

 

หยางโปครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ โครงการนี้จําเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อ มด้วยใช่ไหม ?”

 

“ จําเป็นต้องพิจารณา แต่กําไรเยอะมาก แม้ว่าจะไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่มันก็ทํากําไรได้มากเหมือนกันก่อนหน้านี้ฉันบังเอิญไปเยี่ยมชมโรงงานหนึ่งมา ” ตาอ้วนหลิวกล่าว

 

“ ดี งั้นโครงการนี้ก็แล้วกัน ! ” หยางโปตอบตกลง

 

หลังกินข้าวเช้าเสร็จ หยางโปก็แอบจัดของ แล้วให้ตาอ้วนหลิวพาเขาไปส่งที่สนามบิน

 

หลังลงจากเครื่อง หยางโปก็ได้ติดต่อหาลู่เจียเฟย เขาจึงเรียกแท็กซี่รีบมาตามนัดหมายที่โรงแรมทันที

 

เมื่อมาถึงโรงแรม หยางโปก็นั่งลงจิบชา สู่เจียเฟยจึงหันมองมาที่เขาและอดไม่ได้ที่จะบ่นว่าให้

 

“ นายไม่ได้ติดต่อชิงหยุนมานานแค่ไหนแล้ว ? ”

 

หยางโปค่อนข้างลําบากใจ “ ก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกัน ดังนั้นหวังว่าคุณจะ ช่วยไกล่เกลี่ยให้เลิกทะเลาะกันได้”

 

คู่เจียเฟยพยักหน้า “ ที่นายบอกว่าจะมาร่วมหุ้นส่วนทําธุรกิจด้วยกัน มันคือธุรกิจอะไร ? ” 

 

“ เก็บขยะ” หยางโปกล่าว

 

ลู่เจียเฟยถึงกับตกใจ“อะไรนะ?เก็บขยะ ?”