บทที่ 1558 – จูบ

 

ในตอนนี้เธอได้เดินลงมา พร้อมกับสวมชุดกระโปรงหิมะสีขาวยาว ขณะที่ปล่อยผมสยายออกมาโดยไม่มัดแต่อย่างใด  เมื่อเห็นชิงสุ่ยเธอก็ได้ยิ้มออกมาออย่างสดใส ในเวลานั้นเองชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าฉินชิงคนเดิมได้กลับมาแล้ว

 

เธอมีความงามที่โดดเด่นอย่างมาก และยังธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่สง่างาม แม้ว่าความงามของเธอนั้นจะใกล้เคียงกับอีเย่ เจียนเก้อ แต่ก็ดูแตกต่าง เธอยังแฝงไปด้วยความน่ารักสดใส จึงทำให้เธอนั้นดูต่างออกไป  แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นความงามที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลงได้เพียงแรกเห็น

 

“ข้าดูดีหรือไม่?” เมื่อเห็นชิงสุ่ยยืนอยู่ เธอจึงได้กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

 

แม้ว่าเธอจะเป็นคนตั้งคำถามนี้ออกมา แต่เธอไม่ได้คาดหวังที่จะได้ฟังคำตอบ เธอเพียงแค่ต้องการกล่าวทักเขาเท่านั้น

 

 

 

ในตอนนี้ไม่ว่าในอนาคต จะเป็นอย่างไรเธอรู้ดีว่าเธอรู้ดีว่าเธอคงไม่มีทางจากเขาไปไหนได้แล้ว

 

“เจ้าดูงดงามอย่างมากๆจนทำให้ข้าปวด…….” ชิงสุ่ยหัวเราะเบา ๆ

 

ฉินชิงหัวเราะออกมา นั่นเพราะเธอรู้ดีว่านี้คือนิสัยของเขา อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้โกรธเขา ในทางตรงกันข้ามเธอมีความสุขเล็กน้อย แต่เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอรู้สึกอยู่ในตอนนี้ นั้นเรียกว่าอะไร …

 

ถ้าในตอนนี้ถ้าชิงสุ่ยสามารถอ่านใจเธอได้ เขาคงสามารถบอกได้ว่าเธอนั้นได้ตกหลุมรักเขาแล้ว

 

“เจ้าปิศาจ ให้มันน้อยๆหน่อย? แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้มีพระคุณของข้า แต่ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่กล้าเตะเจ้านะ “ฉินชิงหัวเราะออกมา

 

ในเวลานี้กลิ่นหอมหวนที่สดใสได้ลอยเข้าไปในจมูกของชิงสุ่ย มันเป็นกลิ่นที่เป็นกลิ่นเฉพาะของฉินชิงที่เขาคุยเคยอย่างมาก นอกจากนี้มันเป็นกลิ่นเฉพาะที่มีเอกลักษณ์อย่างบอกไม่ถูก

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ทุ่มเททุกอย่าง ใส่แรงลงไปที่จมูกของเขา ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความหมายเบื้องหลังการกระทำที่น่าเกลียดของเขา นั้นทำให้เขาดูราวกับคนโรคจิต

 

“เอาล่ะไปกันเถอะ”

 

ชิงสุ่ยยิ้มและพยักหน้า ขณะที่เขาเดินออกไปข้างนอกพร้อมๆกับเธอ

 

บรรยากาศรอบๆในตอนนี้ดูเหมือนงานเลี้ยงในครอบครัวเล็กๆเท่านั้น ในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และผ่อนคลาย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้การตายของฉินหยิงและคนอื่นๆจะไม่ได้หายไปไหน แต่พวกเขานั้นเลือกที่จะจำในสิ่งที่ดีงามเอาไว้ และพยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุข แทนผู้คนที่ตายลงไป

 

ในตอนนี้การตายของฉินหยิงได้รับการแก้ไขแล้ว มันเพียงพอที่จะทำให้เธอนั้นไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีกว่า

จุดประสงค์ของการจัดเลี้ยงครั้งนี้ นั่นก็เพื่อเฉลิมฉลองให้กับชิงสุ่ยและฉินชิงที่สามารถก้าวข้ามปัญหาทั้งหมดออกมาได้ นอกจากนี้ยังฉลองให้กับตระกูลฉินที่ก้าวกลับมาเป็นหนึ่งในระแวงนี้  ยิ่งไปกว่านั้นมันทำให้พวกเขาสามารถกลับมาอยู่ได้อย่างสงบอีกครั้ง

 

สำหรับชิงสุ่ยและฉินชิงดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะกลับคืนมาเป็นอย่างเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครที่จะเร่งรีบหรือบีบบังคับให้ฉินชิงรีบแต่งงานกับชิงสุ่ย นั่นเพราะพวกเขาให้โอกาสเธอนั้นเป็นคนตัดสินใจเอง

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้กลายเป็นสมาชอกตระกูลฉินไปแล้ว ในสายตาของทุกๆคนที่นี้เขานั้นเป็นดังลูกหลานและคนที่สำคัญอย่างมาก ทุกคนมองดูไปที่เขาด้วยความรักและความอบอุ่น ถึงแม้ชิงสุ่ยเองจะยังไม่ชินกับท่าทางของพวกเขาก็ตาม แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่านี้คือความจริงใจของพวกเขา นอกจากนี้ เขานั้นยังเป็นว่าที่ลูกเขยของตระกูลฉินอีกด้วย มันจึงทำให้เขาเข้าใจได้

 

 

“ชิงสุ่ย แล้วเจ้าวางแผนจะทำอะไรต่อไป?” ชายชรากล่าวออกมา

 

ในตอนนี้พวกเขาเกือบท่านอาหารเสร็จแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะนั่งลงและพูดคุยกัน

 

“ข้าจะมุ่งหน้าออกไปตามหาคนๆหนึ่งก่อน แต่หลังจากนั้นข้ายังไม่มีแผนที่จะทำอะไร”ชิงสุ่ยยิ้ม และส่ายหัว

 

“เจ้าต้องการความช่วยเหลือไหม?”

 

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าได้เบาะแส่สำคัญมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกท่าน “ชิงสุ่ยยิ้มและส่ายหัวอีกครั้ง

 

……

 

“แล้วเจ้าจะไปเมื่อไหร่กัน?”

 

ฉินชิงกล่าวถามหลังจากที่เดินออกมานอกงานเลี้ยง

 

“พรุ่งนี้!” ชิงสุ่ยรู้ไม่ค่อนดีเท่าไรที่พูดเช่นนี้ออกไป

 

“อ่าๆ เยี่ยม ขอให้เจ้าโชคดีในการเดินทาง  ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องได้พบกับคนที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน”ฉินชิงยิ้มและกล่าวอย่างสงบ

 

“เจ้าไม่ต้องการรู้รึว่าข้านั้นออกตามหาใคร?” ชิงสุ่ยยิ้มและถาม

 

ฉินชิงส่ายหน้าขณะเดิน “หากเจ้าต้องการที่จะบอกข้า เจ้าคงไม่ถามจ้าเช่นนี้ แต่ถ้าหากข้าถามกลับไปก็เท่าว่าข้านั้นบังคับเจ้า”

 

“อ่าแสดงว่าเจ้านั้นเอาใจใส่ข้าอย่างมาก” ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาและจับไปที่มือของเธอ

 

“ฝันไปเถอะทำไมข้าต้องเอาใจใส่เจ้า?” เธอไม่พอใจเล็กน้อยที่ชิงสุ่ยจับมือของเธอ

 

“ข้าจะไปหาภรรยาของข้า” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาขณะที่บีบที่มือของเธอ

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉินชิงได้สะบัดมือของเธออก แม้ว่าเธออาจดูสงบอยู่ แต่ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวโกรธในดวงตาของเธอ

 

ชิงสุ่ยไม่ได้พยายามที่จะแก้ตัวแต่อย่างใด เขารู้ดีว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ แต่ถึงอย่างไรมันเรื่องจริงและเขาจำเป็นต้องบอกเธอ

 

เหตุผลที่ชิงสุ่ยต้องบอกเธอเพราะเขาไม่ต้องการหลอกเธอและเพื่อไม่ต้องการให้เธอนั้นจากไปจากเขา การกล่าวเรื่องนี้ไปก็เพื่อแสดงความจริงใจออกมา ถึงเขาจะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงแต่สุดเธอก็ต้องรู้เรื่องนี้สักวัน ดังนั้นมันคงดีกว่าถ้ามันได้ยินออกมาจากปากของเขา

 

 

“เยี่ยม ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถพบเจอภรรยาของเจ้า” ฉินชิงยิ้มและมองไปที่ชิงสุ่ย ตอนนี้เธอแสดงท่าทางเย็นชาออกมา

 

“ข้าขอบคุณมาก เอ้าจริงสิ เรื่องที่เราเคยคุยกันไว้วันก่อน เมื่อไรเจ้าจะแต่งงานกับข้า? “ชิงสุ่ยจับไปที่มือของเธออีกครั้ง

 

ฉินชิงส่ายหัวและมองไปที่ชิงสุ่ย “ข้าไม่เคยสัญญา ว่าจะแต่งงานกับใคร และไม่เคยบอกว่าจะแต่งกับเจ้า”

 

“ไหนว่าเจ้าจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีความสามารุและโดดเด่นไง? เจ้าจำไม่ได้แล้วรึ?”ชิงสุ่ยถอนหายใจและกล่าวด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

 

เธอไม่ได้พูดอะไรต่อในตอนนี้ นอกจากมองไปที่เขาและยิ้มเท่านั้น

 

“ข้ารู้สึกไม่เต็มใจที่จะแยกทางกับเจ้า เมื่อคืนข้าฝันว่า ตัวเองนั้นได้แต่งงานกับเจ้า เจ้ารู้มั้ยข้ามีความสุขนาดไหน? นอกจากนี้ข้าก็ไม่ยอมเห็นเจ้าตกเป็นของคนอื่น “ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“เจ้านี่เป็นคนโลภมากจริงๆ ใครบอกว่าข้าจะไม่แต่งกับเจ้า ตราบเท่าที่เจ้านั้นสามารถทำให้ข้ามีความสุขได้ข้าจะแต่งกับเจ้า นอกจากนี้เจ้าต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่จาข้าไปไหน”ฉินชิงยิ้มและมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้กล่าวออกมา แต่มันดูเหมือนะไม่เป็นประโยค

 

“เจ้าว่ายังไงนะ?” ฉินชิงกล่าวถามออกมาเมื่อได้ยิน

 

“ข้าจะไม่จากเจ้าไปไหน นอกจากนี้เชื่อข้าเถอะข้าจะทำให้เจ้ามีความสุข “ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง

 

“ยังมีอะไรที่เจ้ายังไม่ได้บอกข้าอีกมั้ย? ถ้าหากหัวใจข้าสัมผัสได้ถึงจริง จากสิ่งที่เจ้าพูด บางทีข้าอาจพิจารณาที่จะแต่งงานกับเจ้า “ฉินชิงยิ้มและกล่าว เธอดูผ่อนคลายอย่างมาก ราวกับว่าเธอนั้นมีความสุขที่กำลังพูดคุยกับเขา

 

 

 

“เจ้าแน่ใจว่าเจ้าอยากรู้จริงๆรึ?” ชิงสุ่ยหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง

 

ฉินชิงกำลังเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้น ก่อนที่จะหันหน้าไปทางอื่น “ไปตายซะเจ้า ถั่วเน่า!”

 

“ข้ามีทักษะที่ดีมากในการ….. หากเจ้าได้ลองมันแล้วรับลองได้เลยว่าเจ้าจะไม่อยากจากข้าไปไหน…… “ชิงสุ่ยยิ้มและเก่าศีรษะ ก่อนที่จะทำตัวไร้เดียงสา

 

“เจ้าคนบ้า ไปลงนรกซะ!”

 

ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่ปรารถนาหาความรัก มันเป็นเพียงแค่ว่าพวกเธอพยายามอย่างมากที่จะแสร้งทำเป็นว่าพวกเธอไม่คิดอะไร  เช่นเดียวกับฉินชิงที่ต้องการหลบหนีมัน แต่ตอนนี้เธอนั้นไม่สามารถลบหนีมันได้เพราะเธอนถูกชิงสุ่ยบีบบังคับและจับเอาไว้  มันจึงทำให้เธอเลือกที่จะเคาะลงไปที่หัวของเขาเบาๆ

 

หัวใจของชิงสุ่ยนั้น เต้นถี่ขึ้นอย่างมาก ขณะที่มองไปที่ใบหน้าที่สวยงาม เขาไม่เพียงแค่ต้องการเธอ แต่เขายังหลงรักเธออย่างมาก นี้อาจเพราะว่าเธอเป็นหนึ่งในสิบสองโฉมงามในรูปภาพก็ได้

 

ฉินชิงดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่างเช่นกัน เธอได้ตอบสนองบางสิ่งบางอย่างออกมาออกมา โดยยกหน้าขึ้น ทำให้ในตอนนี้หน้าหน้าขอเธออยู่ใกล้กับเขาอย่างมาก ในขณะที่เธอกำลังจะส่ายหน้าหนี ชิงสุ่ยได้ก้มหน้าลงและประกบริมฝีปากของเขาจูบลงบนริบฝีปากของเธอ

 

มันนั้นรู้สึกนุ่มนวล และอ่อนโยนอย่างมาก  ริมฝีปากของฉินชิงนั้นมีกลิ่นที่หอมหวาน ในขณะที่เขาจูบเธอยู่ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าร่างกายของฉินชิงกำลังสั่นสะท้าน แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอนั้นลืมที่จะดิ้นรนเพื่อต่อต้านเขาในตอนนี้

 

เมื่อคนเราตกใจจะเปิดปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ฉินชิงนั้นอาจแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับความแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยไม่ใช่ศัตรูของเธอ แถมเขายังเป็นคนที่เธอชื่นชอบอีกด้วย

 

ในขณะนี้ชิงสุ่ยได้เอามือของเขาจับไปที่เอวของเธอ ในตอนนี้เขาเริ่มดูดริมฝีปากที่งดงามของเธอ จูบของเขาไม่ได้รุนแรงมาหนัก มันเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและอ่อนโยน

 

ในขณะที่มือของเธอนั้นค่อยๆว่าลงที่หน้าอกของชิงสุ่ย และค่อยๆไต่ขึ้นไปที่คอของเขา ในขณะที่หลับอยู่ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าฉินชิง ดูเหมือนจะมีตอบสนองอย่างมากต่อการจูบของเขา มีเพียงปัญหาเดียวก็คือทักษะของเธอยังคงอ่อนด้อยอยู่

 

ในตอนนี้มือของเขาค่อยๆไต่ไปที่ก้นของเธออย่างช้าๆ ไม่เพียงแค่บีบลงไปที่มัน เขายังขย้ำไปที่มันอย่างอ่อนโยน ในตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มและอ่อนโยน

 

 

ในตอนนี้ฉินชิงค่อยๆขยับมุมปากของเธอขึ้น ก่อนที่จะกัดลงไปที่ริมฝีปากของชิงสุ่ย  มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยจากปากของชิงสุ่ย มันทำให้ชิงสุ่ยต้องปล่อยเธอออกมาในตอนนี้

 

“มันเจ็บมากมั้ย?” ฉินชิงยื่นมือของเธอและเช็ดรอยเลือดบนริมฝีปากของเธอ

 

ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปที่ฉินชิง “มันเจ็บ แต่ข้าก็เต็มใจที่จะยอมรับมัน”

 

“เจ้านี้มัน!”ในตอนนี้หน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และเต็มไปด้วยความเขินอาย

 

“ข้ารักเจ้ามากๆ มากมายเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้น มันอยู่นอกเหนือความงามทั้งหมดทั้งมวลที่เจ้ามี ข้ารักที่เจ้าเป็นเจ้า”