บทที่ 1559 – ออกเดินทาง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1559 – ออกเดินทาง

 

 

ชิงสุ่ยรู้สึกพอใจอย่างมาก เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เขินอายของฉินชิง เขารีบดึงเธอเข้ามาใกล้ๆและกอดเธอไว้

 

“อย่าพึ่งขยับ … ข้าแค่จะขอกอดเจ้าเท่านั้น ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทำอะไรเกินเลย “

 

ในตอนนี้ฉินชิงไม่ได้ขัดขื่นแม้แต่น้อย ในขณะที่เธอซุกลงที่อกของเขา

 

“ข้ามีภรรยาอยู่แล้ว …… ” ในที่สุดชิงสุ่ยก็ได้พูดเรื่องที่โง่เขล่าออกมา แม้จะอยากหยุดมันไว้ แต่ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว

 

ในตอนนี้เธอไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนัก เธอมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างใจเย็นและพูดว่า “เป็นเรื่องดีที่เจ้านั้นซื่อสัตย์”

 

“ข้าแค่อยากจะบอกให้เจ้ารู้ว่า … ข้าเคยย้อมแพ้ในตัวของเจ้าไปแล้วในตอนก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้ข้านั้นมั่นใจแล้วว่าข้าไม่สามารถตัดใจไปจากเจ้าได้ … “

 

เธอยิ้มและกล่าวว่า “มีบางอย่างที่ข้าอยากรู้จริงๆ ในเมื่อเจามีผู้หญิงมากมายรอบตัวเช่นนี้ เจ้าจะแบ่งความรักของเจ้าให้พวกนางได้ยังไงกัน??

 

ชิงสุ่ยมองไปที่เธอและส่ายหัว “ทำไมต้องแบ่งปันความรักขอข้ากันละ? ข้านั้นรักพวกนางด้วยใจจริงๆทั้งหมดของข้า ไม่ว่าร่างกายและจิตใจของข้าๆก็มอบให้พวกนางทุกๆคนด้วยทั้งหมดที่ข้ามี นอกจากนี้ข้าไม่สามารถที่จะยอมแพ้และปล่อยพวกนางไปได้  “

 

“เจ้านี่มันเป็นคนโลภมากจริงๆ!” ฉินชิงถอนหายใจ

 

ในอดีตเธอจะไม่เคยคิดเกี่ยวกับการแบ่งปันชายของเธอกับผู้หญิงคนอื่นๆมาก่อน แต่ในตอนนี้เธอนั้นเริ่มที่จะใจอ่อนลงแล้วหรอ

 

“ข้าเป็นคนโลภ ข้ารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อาจปล่อยคนที่ข้ารักตกเป็นของคนอื่นได้ แม้ว่าคนที่ข้ารักจะไม่ใช่สาวงามก็ตาม ข้าก็มิอาจปล่อยนางได้” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

“แม้ไม่ใช่สาวงามอย่างงั้นรึ?”

 

“ถูกต้อง การที่เราจะรักใครสักคนเราต้องรักไปที่จิตใจของอีกฝ่าย แม้อีกฝ่ายนั้นจะมีหน้าตาธรรมดา หรืออัปลักษณ์อย่างไร หากนางเป็นคนที่ข้ารัก ข้าจะไม่ปล่อยนางไปจากข้า “ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปที่เธอ

 

“แล้วข้า สวยมั้ย? “ฉินชิงถามอย่างนุ่มนวล

 

“เจ้าสวยมาก มากจนข้าไม่อาจละสายตาไปได้”

 

“แล้วเจ้าไม่กลัวรึว่าความงามของข้าจะทำให้เจ้ามีปัญหา?” ฉินชิงถามด้วยท่าทีล้อเลียน

 

 

“แน่นอนว่าข้ากลัว. แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการได้อยู่ร่วมกับเจ้าแล้ว ปัญหาเหล่านั้นแทบจะไม่เป็นปัญหาสำหรับข้า เลย “ชิงสุ่ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

เธอถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา “ให้เวลาข้าหน่อยสิ? ข้ายังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้น “

 

“พร้อมสำหรับอะไรรึ? นี่เจ้าคิดว่าข้าจะกินเจ้าอย่างนั้นรึ? “ชิงสุ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลก

 

“เจ้านี่มัน? เอาเหอะ ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้แต่งงานกับเจ้า ข้าก็จะไม่แต่งงานกับชายอื่นๆ ตอนนี้เจ้ารู้สึกพอใจหรือยัง? “ฉินชิงกล่าวออกมา

 

 

“ข้าจะไม่บังคับคนที่ข้ารักหรอก ตราบเท่าที่เจ้าไม่พร้อมข้าจะไมบังคับเจ้า “ชิงสุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม

 

ในตอนนี้ฉินชิงไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป “กลับกันดีกว่า เจ้าจะได้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ “

 

“ไม่มีอะไรที่เจ้าต้องเตรียมตัว ทำไมเจ้าต้องการหนีข้าอย่างนั้นรึ”

 

ฉินชิงรู้สึกว่าในตอนนี้เธอต้องการที่จะต่อยเขาจริงๆ  เธอพยักหน้าและพูดโดยกัดฟันของเธอว่า “ถูกต้องข้าไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อไป ในเมื่อไม่ช้า เจ้าก็จะได้พบเจอกับภรรยาของเจ้าแล้ว เจ้าจะสนใจข้าไปทำไมกัน?

 

ชิงสุ่ยได้แต่ยิ้มออกมา “แม้ว่าข้าจะเจ้ากับภรรยาของข้า เจ้าก็ยังไม่คนที่ข้ารักอยู่ดี!”

 

……

 

ในวันรุ่งขึ้น ชิงสุ่ยได้อำลาผู้คนในตระกูลฉิน ขณะนี้เมียเพียงฉินชิงเท่านั้นที่ออกไปส่งเขา

 

“ข้ามาส่งเจ้าได้เท่านี้ จากนี้ไปเจ้าจงระมัดระวังตัวให้มาก “ฉินชิงก่อนค่อยลอยห่างจากหลังวิหกเพลิง

 

เช่นเดียวกันชิงสุ่ยได้ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ ในช่วงกลางอากาศ และมองไปที่เธอโดยไม่พูดอะไรออกมา

 

ตอนนี้เธอค่อยๆกอดคอของชิงสุ่ยไว้ “เจ้าพอใจหรือไม่?”

 

ในตอนี้ชิงสุ่ยค่อยๆยื่นแขนขึ้นและกอดไปที่เอวของเธอ ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นของเธอ ร่างกายการที่เต็มไปด้วยไออุ่นและส่วนเว้าส่วนโค้งในตอนนี้

 

ตอนนี้ข้าพอใจแล้ว แต่มันดีกว่านี้ถ้าข้าได้จูบเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยเสียงร่าเริง

 

ในตอนนี้ฉินชิงค่อยๆก้มหน้าลง เป็นอันว่าเธอได้ตกลงให้เขาจูบในตอนนี้

 

เมื่อเห็นท่าทีของเธอในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่รอช้า เขาได้จับลงไปที่ค้างของเธอและค่อยๆยกมันขึ้นก่อนที่จะจูบลงไป

 

การจูบในครั้งนี้กินเวลานานมาก ในขณะที่พวกเขาจูบกัน มือของชิงสุ่ยก็เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกเขานั้นเพียงจับลงไปที่ก้นของเธอเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆนวดและบีบลงไปแรงยิ่งขึ้น

 

ในขณะนี้มืออีกข้างของเขาค่อยๆได้ไปที่แกของเธอ เมื่อรู้สึกตัวฉินชิงได้ผลักเขาออกในตอนนี้  แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

 

ในตอนนี้เธอได้พ่นลมหายที่ร้อยผวาออกมาแล้วกว่าว่า “อย่านะ!”

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้หยุดการเคลื่อนไหวลงและค่อยยกมือขึ้น ในขณะที่เขามองไปที่เธอที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ก่อนที่จะจูบลงไปที่ริมฝีปากที่งดงามของเธออีกหลายครั้ง

 

“เจ้ายังจำสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าได้มั้ย หากเจ้าผิดสัญญาในตอนนี้ เจ้าจะไม่มีวันได้เจอข้าอีกต่อไป “ฉินชิงกล่าวออกมาเพื่อขู่เขา

 

“ข้ารู้ดี เพียงแค่ว่ามันคงเป็นเวลาอีกนานที่ข้าจะเจ้ากับเจ้า ดังนั้นทำไมเจ้าจึงไม่ให้ข้าจูบเจ้าจนกว่าข้าจะพอใจละ? “ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้ดีว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่จะทำเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป

 

ฉินชิงได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเริ่มเป็นผ่านจูบลงไปที่ชิงสุ่ยก่อน

 

……

 

ในตอนนี้มือของชิงสุ่ยได้ไต่ไปทั่งร่างกายของเธอเพียงแค่จุดๆนั้นเท่านั้นที่เธอยังไม่อนุญาตเขให้สัมผัสมัน

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้แล้วตอนนี้จิตใจของเธอตกเป็นของเขาแล้ว มิฉะนั้นเธอคงไม่ยอมให้เขาทำเรื่องน่าอาจบนร่างกายขอเธอ

…….

 

 

จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์!

 

ในที่สุดชิงสุ่ยก็มาถึงจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ วัตถุประสงค์ของการมาที่นี่ของเขานั้นก็เพื่อรอ รอหญิงลึกลับ ที่เขาได้นัดหมายเอาไว้

ในตอนนี้เขาได้ปลอมตัวเป็นชายวัยกลางคน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้กลัว แต่เขากับขี้เกียจที่จะมีเรื่อง ในตอนนี้เขานั่งอยู่โรงเตี๊ยมเล็กขณะที่ดื่มเหล้าในจอกและมองไปรอบเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพภายนอก

 

 

เขาไม่แน่ใจว่าผู้หญิงลึกลับคนนั้นจะรักสัญญาที่เธอมีให้หรือไม่  แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะรอในตอนนี้ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับอิเย่ เจี้ยนเก้อ และเป็นเพียงเบาะแสเดียวที่เขามี ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงดูสักครั้ง

 

ในครั้งแรกเขาต้องการรีบมาที่นี้เป็นอันดับแรก แต่ด้วยความกังวลเรื่องฉินชิงมันจึงทำให้เขาเลือกที่จะช่วยเหลือเธอก่อน แต่ในตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าเธอนั้นปลอกภัยแล้วดังนั้นเขาจึงได้รีบตัดสินในมาที่นี่โดยทันที

 

ในขณะนี้ ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกว่าจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นเปลี่ยนไปมากนัก แต่มันก็ยังคงดูคล้ายกับเดิมทีที่เขาเคยพบเจอมาในตอนแรก

 

ในขณะที่ชิงสุ่ยหยิบจอกเหล้าของเขาขึ้น เขาก็ตระหนักได้ว่าชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆเขากำลังแอบมองเขาอยู่ เมื่อชายคนนั้นรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังมองเขาอยู่เขาก็ได้ยิ้มออกมา และเดินตรงเข้าไปหาชิงสุ่ย

 

“จะเป็นไรมั้ยถ้าข้าขอนั่งกับท่านด้วย?” ชายคนดูอยู่ในวัยกลางคน แต่ก็ยังคงดูอ่อนเยาว์อยู่

 

“เชิญเลย ท่านรู้จักข้ารึ “ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างเป็นกันเอง

 

“ข้าคิดว่าข้านั้นเคยพบท่านมาก่อน แต่ข้าก็ไม่แน่ใจมากนัก “ชายคนจิบเหล้าในจอกและกล่าว

 

ชิงสุ่ตกตะลึงและยิ้มออกมา ในตอนนี้เขานั้นได้ปลอมตัวอยู่ มีแต่ผมของเขาเท่านั้นไม่เปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับหลิ่นอายของเขา

 

ในตอนนี้ชิงสุได้แต่ยิ้มออกมาและกล่าว “แล้วท่านมีอะไรให้ข้าช่วยรึไม่?”

 

“ชื่อชื่อ ถัง ยี่หลง ข้าอยากเป็นเพื่อนกับเจ้า “ชายคนนั้นยิ้มและพูด

 

ชิงสุ่ยแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเขามาจากตระกูลถัง ในขณะที่ตระกูลถังนั้นถูกนับว่าเป็นตระกูลที่ทรงเกียรติที่สุดในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์  ขณะที่เขามองไปที่ชายที่แข็งแกร่งข้างหน้าแต่ถึงอย่างไรก็ไม่แข็งแกร่งเท่าเขา

 

“ทำไมเจ้าถึงอยากรู้จักข้าละ? ยิ่งกว่านั้นข้าก็ยังเป็นแค่คนนอกเท่านั้น บวกกับอีกไม่นานนี้ข้าก็จะออกเดินทางแล้ว หรือเจ้าจะออกเดินไปข้างนอกรึ “ชิงสุ่ย ยิ้มและถาม

 

 

“ป่าวเลย ข้าแค่อยากเป็นสหายกับเจ้าเท่านั้น ฮ่าๆเอาละ งั้นข้าจะพูดตรงๆก็แล้วกัน การเป็นสหายของพวกเราจะทำพวกเราได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย”

 

“ยังไงรึ” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาและจิบไปที่จอกเหล้า

 

 

“สำหรับตระกูลฉินนั้น ข้ามั่นใจว่าพวกเขาคงยินดรที่จะเป็นมิตรกับตระกูลถัง นอกจากนี้มันยังช่วยทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรายังสามารถติดต่อทำการค้าและธุรกิจได้อย่างมีอิสระระหว่างกัน “

 

เมื่อได้ยินดังกล่าว ชิงสุ่ยกล่าวออกมา “เยี่ยม งั้นเจ้าช่วยบอกข้าได้ไหมว่า ข้าจะต้องทำอะไร?”

 

“ข้าหวังว่า ท่านจะไปเยี่ยมเราตระกูลถังของเรา สักสองสามครั้ง และประกาศให้ทุกๆคนรู้ว่าตระกูลถังและฉินได้ตกลงเป็นพันธมิตรกัน  นอกจากนี้ยังมีท่านเป็นพันธมิตรร่วมระหว่างทั้งสองตระกูล”