ตอนที่ 582 นางเองก็ต้องการ

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 582 นางเองก็ต้องการ

ทัวป๋าถิงฟางมิสนใจท่าทีของมู่จวนฮาน นางค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า พอวางขนมไว้บนโต๊ะแล้วนิ้วเรียวยาวก็หยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นไปที่ปากของมู่จวินฮาน

มู่จวินฮานขมวดคิ้ว เขาทั้งรังเกียจและกลัวท้องเสียแต่สุดท้ายก็อ้าปากกัดไปทีละคำและเคี้ยวโดยไร้รสชาติ

หลังทานขนมเสร็จ ทัวป๋าถิงฟางก็เข้าไปประชิดตัวมู่จวินฮาน ปลายนิ้วหมุนรอบเข็มขัด ดวงตาเคลื่อนไหวอย่างอิสระรอบคอมู่จวินฮาน

มู่จวินฮานยื่นมือไปดึงมือนางออกโดยมิแสดงอารมณ์ใดแล้วลุกขึ้นเพื่อทิ้งระยะห่างระหว่างทั้งสองคน “ขนมก็ทานเสร็จแล้ว ข้ายังต้องทำงานอีก เจ้าออกไปก่อน”

“ท่านอ๋อง ! ” ทันใดนั้นทัวป๋าถิงฟางก็พูดเสียงสูงและเข้ามาแนบชิดตัวมู่จวินฮานอย่างรวดเร็ว มือน้อยโอบกอดเขาไว้แน่น ดวงตาอ่อนไหวดุจสายน้ำและน้ำเสียงอ่อนหวาน “เชี่ยเซินได้รับความมิเป็นธรรม ท่านอ๋องได้โปรดคืนความยุติธรรมให้ด้วยเจ้าค่ะ”

มู่จวินฮานเพ่งสายตาเย็นชาไปยังมือทั้งสองตรงหน้า สีหน้ารังเกียจสุด ๆ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย “เกิดอันใดขึ้นก็ลองเล่าให้ข้าฟัง”

“ในเรือนของท่านอ๋องมิได้เพิ่งสร้างบ่อน้ำร้อนใหม่หรือเจ้าคะ ? ” ใบหน้าอมชมพูของทัวป๋าถิงฟางเหมือนกระดาษยับยู่ยี่ นางมุ่ยปากขึ้นและกล่าวอย่างคับข้องใจ “เดิมทีเชี่ยเซินอยากเข้าไปดูที่นั่นเสียหน่อย แต่พระชายามิยอมให้เข้าไป ทั้งยังบอกว่าท่านอ๋องสร้างให้นางเพียงผู้เดียว เชี่ยเซิน…”

“พระชายาพูดถูกแล้ว” มู่จวินฮานพูดแทรกทัวป๋าถิงฟางอย่างเย็นชา จากนั้นก็แกะมือนางออกแล้วเดินออกมาสองสามก้าว สีหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดและกวาดสายตาเย็นชาไปทั่วตัวทัวป๋าถิงฟาง “เจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องนี้หรือ ? ”

ทัวป๋าถิงฟางรู้ว่ามู่จวินฮานโมโหแล้วจึงอดตกใจมิได้ นางแสร้งบีบน้ำตาทันที “เชี่ยเซินก็แค่…”

พี่น้องสองคนนี้มิอยู่สุขขึ้นทุกวัน !

“พอ” มู่จวินฮานไร้อารมณ์กล่าวต่อ “ถ้าไม่มีเรื่องใดแล้วก็ออกไป ข้ายังมีหลายเรื่องให้จัดการ”

มิได้ ทัวป๋าถิงฟางรู้ชะตาชีวิตทันที วันนี้โดนดูถูกแบบนั้นและหากออกไปจากห้องมู่จวินฮานโดยมิได้อันใดอีก ชีวิตต่อไปในจวนอ๋องของนางจะต้องยากลำบากกว่าเดิมแน่นอน

“เชี่ยเซินก็อยากได้เหมือนกันเจ้าค่ะ” ทัวป๋าถิงฟางก้มหน้าอย่างน้อยอกน้อยใจ จากนั้นนางก็เข้าไปดึงเสื้อมู่จวินฮานอย่างออดอ้อน “เชี่ยเซินรู้ว่าท่านอ๋องรักพระชายามาก แต่การทำเยี่ยงนี้สำหรับเชี่ยเซินช่างมิยุติธรรมเลยเจ้าค่ะ”

“ท่านอ๋องทำเยี่ยงนี้แล้วต่อไปจะให้คนอื่นมองเชี่ยเซินอย่างไรเจ้าคะ ? ” ขณะกล่าว น้ำตาก็ไหลรินดุจสายฝน ความริษยาและความแค้นในใจลุกโชนขึ้นดั่งเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ

เดิมทีมู่จวินฮานก็มิอยากสนใจนางอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกรำคาญเข้าไปใหญ่จึงได้แต่คิดวิธีไล่นางออกไปโดยเร็ว เขาโบกมืออย่างหงุดหงิด “เข้าใจแล้ว”

“ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ” ทัวป๋าถิงฟางกำจัดรูปลักษณ์น่าสังเวชไปทันที นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาแล้วหันไปมองมู่จวินฮานด้วยดวงตาเปล่งประกาย

นางอารมณ์ดีสุด ๆ อันหลิงเกอมีแล้ว นางก็มีเหมือนกัน เมื่อเป็นเยี่ยงนี้ถึงจะสู้อันหลิงเกอมิได้ แต่อย่างน้อยนางก็ได้ดีกว่าทัวป๋าหลิวลี่ ! นางไม่กวนใจมู่จวินฮานอีกและค่อย ๆ สาวเท้าออกจากห้องหนังสือทันที

เมื่อรอให้นางออกไปแล้ว มู่จวินฮานก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน

สำหรับทัวป๋าถิงฟาง ในเวลานี้มู่จวินฮานไม่มีความรู้สึกชอบพอแม้แต่น้อย เขารู้เรื่องในเวลานั้นหมดแล้ว มู่เหล่าหวางเฟยเป็นมารดา เขามิมีทางเอาผิดได้ แต่ทัวป๋าถิงฟางคนนี้เป็นแค่อนุนางหนึ่งในจวนเท่านั้น

“นี่เป็นภาพร่างของเรือนถิงฟางเช่อเฟย”

เมื่อเห็นภาพร่างแล้วช่างก่อสร้างก็เข้าใจทันที

ชายารองถิงฟางผู้นี้ไม่มีทางกดหัวพระชายาได้ แม้ท่านอ๋องจะรับปากนางแล้วก็ตาม ทว่าก็แค่สร้างสระน้ำให้นางเท่านั้นเพราะมันต่างจากพระชายาของพวกเขาราวฟ้ากับเหว

“ออกไปได้”

มู่จวินฮานทอดสายตามองไปด้านนอก ทัวป๋าถิงฟางมิรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำมากขึ้นทุกวัน หากนางอยากอยู่ต้าโจวต่อก็มิควรสร้างความลำบากให้อันหลิงเกอถึงจะถูก

“เหตุใดช่วงหลายวันมานี้ข้ามิเห็นอันหลิงเกอมาคำนับเลย ? ” มู่เหล่าหวางเฟยรู้สึกมิพอใจสุด ๆ

“เรียนมู่เหล่าหวางเฟย เมื่อไม่นานมานี้ท่านอ๋องลงทุนสร้างบ่อน้ำร้อนให้นาง ตอนนี้คง…มิใช่พระชายาที่โดนปลดแล้วเจ้าค่ะ”

ใช่สิ มู่จวินฮานมิเคยเอ่ยปากเลยสักครั้งว่าจะปลดอันหลิงเกอ มู่เหล่าหวางเฟยหรี่ตาลง

“ช่างเถิด เจ้าออกไปได้” นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น แต่ในใจกำลังรู้สึกหงุดหงิดมาก

ช่วงหลายปีมานี้นางฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่บุตรชาย แต่ถ้าให้จวินฮานรู้เรื่องพวกนั้นที่นางก่อไว้ เขาจะปฏิบัติต่อมารดาเยี่ยงนางแบบใด ?

ปัจจุบันอันหลิงเกออยู่ในจวนอ๋องก็เพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้นแล้ว มู่เหล่าหวางเฟยรู้สึกมิสบายใจอย่างมาก

“มู่เหล่าหวางเฟยอย่าคิดมากไปเลยเจ้าค่ะ” ฟางจูคอยอยู่ข้างกายมู่เหล่าหวางเฟยและตอนนี้นางทำตัวน่ารักทั้งเฉลียวฉลาดสุด ๆ

มู่เหล่าหวางเฟยรู้สึกชื่นชมในตัวฟางจูคนนี้มาก เพียงแต่มู่จวินฮานเป็นลูกแท้ ๆ ของนางและยังเป็นอ๋องมู่คนปัจจุบัน เพราะมู่จวินฮาน นางจึงได้หลุดจากสถานะโดนคุมขังในวังและเดินมาสู่ตำแหน่งมู่เหล่าหวางเฟยในปัจจุบัน

“ข้าแค่มิอยากให้จวินฮานเดินทางเดียวกับฟู่หวางของเขา”

ในใจของมู่เหล่าหวางเฟยยังมีความทะเยอทะยานเหลืออยู่ ถ้าเป็นไปได้ตระกูลมู่ของพวกเขาก็ควรได้เป็นราชวงศ์ใหม่ !

ฟางจูมิได้กล่าวอันใด เพราะในสายตาของนางเห็นว่าสิ่งที่มู่เหล่าหวางเฟยกระทำย่อมถูกเสมอ เพียงแต่ดูเหมือนมู่เหล่าหวางเฟยประเมินอันหลิงเกอสูงมาก อันหลิงเกอมีความสามารถอันใดถึงทำให้มู่เหล่าหวางเฟยหวาดกลัวได้เพียงนี้ ?

ฮึ ก็แค่สตรีธรรมดาคนหนึ่ง

“นายหญิงเจ้าคะ ท่านอ๋องรับปากจะสร้างบ่อน้ำร้อนให้ท่านแล้วหรือเจ้าคะ ? ”

เมื่อเห็นทัวป๋าถิงฟางมีความสุขเพียงนี้ สาวใช้ก็รู้ทันทีว่าเจ้านายต้องสมความปรารถนาแล้วแน่นอน

“แน่นอนอยู่แล้ว มิว่ากล่าวเยี่ยงไรข้าก็เป็นองค์หญิงแคว้นชิงเยว่ อีกทั้งยังงดงามกว่าทัวป๋าหลิวลี่ตั้งเยอะ ฮึ”

ตอนนี้ทัวป๋าถิงฟางกำลังรู้สึกได้ใจ เพียงแต่นางยังมิรู้ว่ามู่จวินฮานกำลังคิดอันใดอยู่กันแน่

“ยินดีกับนายหญิงด้วยเจ้าค่ะ” สาวใช้รู้ว่าวันนี้ทัวป๋าถิงฟางเรืองอำนาจ ดังนั้นตนก็จะสุขสบายตามไปด้วย

“พอแล้ว เจ้าลุกขึ้นแล้วไปหลังเรือนเพื่อดูพวกเขาก่อสร้างให้ดี อย่าให้เกิดปัญหาขึ้น ! ”

เห็นได้ชัดว่าทัวป๋าถิงฟางใส่ใจเรื่องนี้มาก เนื่องจากคราวนี้เป็นโอกาสที่นางเอาชนะอันหลิงเกอได้ !

หรือยังสามารถแสดงให้มู่เหล่าหวางเฟยเห็นว่าตนยังเป็นที่โปรดปรานอยู่ มิอย่างนั้นจะถูกรังแกอยู่ที่จวนต่อไป !

ส่วนอันหลิงเกอในเวลานี้ไม่มีท่าทีใดเลย ทว่าปี้จูกลับหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“ว่าอันใดนะ ! ” หลังรู้ว่าท่านอ๋องตกรางวัลให้ทัวป๋าถิงฟางแบบเดียวกับพระชายา นางก็รู้สึกมิพอใจยิ่งนัก

“ช่างเถิด” อันหลิงเกอส่ายศีรษะ การที่มู่จวินฮานทำเยี่ยงนี้ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นคือบ่อน้ำร้อนก็เป็นแค่เครื่องมือช่วยแก้พิษในตัว ไม่มีอันใดนอกจากนี้และอันหลิงเกอก็มิได้สนใจมากนัก

ในเรือนหลัง นางเข้าใจหลักการตกเป็นเป้าของต้นไม้ใหญ่ได้อย่างดี ดังนั้นจึงมิอยากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น

เพียงแต่เป้าหมายของทัวป๋าถิงฟางผู้นี้ดูเหมือนทำเพราะอยากอวดอ้างให้ผู้อื่นเห็น !

แม้เป็นเยี่ยงนั้นก็ปล่อยให้นางทำตามใจชอบเถิด

“แต่พระชายา…”

“พอแล้ว มิเป็นไรหรอก”

อันหลิงเกอมิอยากฟังปี้จูเอ่ยถึงเรื่องพวกนี้อีก แม้ปี้จูทำเพราะหวังดี แต่นิสัยของนางก็ไม่เหมือนกับนางสนมที่ชอบแย่งชิงในเรือนหลังเหล่านั้น