ตอนที่ 2168 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (9) / ตอนที่ 2169 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (10) / ตอนที่ 2170 เรื่องราวอีกด้านของหวาเซี่ย (11)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2168 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (9)

“น่าตลกที่นายยังไม่ตายแต่หายหน้าไปไหนไม่รู้ แล้วตอนนี้ก็กลับมาพร้อมผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้า!”

คนที่พูดอยู่คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูตัวเล็กและบอบบางในชุดกระโปรงแบบเจ้าหญิง เธอเหมือนกับนกยูงที่เย่อหยิ่งขณะที่พูดด้วยท่าทางเหยียดหยาม

“อีกอย่างถ้าวันนี้นายไม่โผล่มา คุณปู่ก็คงไม่ต้องเกิดอุบัติเหตุบนถนนหรอก…”

หนานกงอวิ๋นอี้เอาแต่เงียบขณะก้มหน้าลง ในครอบครัวนี้มีเพียงปู่ของเขาเท่านั้นที่เอาใจใส่เขา…แต่เขาก็ไม่ได้กลับมาหลายปีจนทำให้สุขภาพของปู่ทรุดโทรม ตามหลักแล้วปู่ของเขาควรจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขที่บ้าน แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาถึงแอบหนีออกมาแล้วประสบอุบัติเหตุเข้า

อีกอย่างการกลับมาของหนานกงอวิ๋นอี้ก็บังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้คนพวกนี้โยนความผิดให้เขา พวกเขากล่าวหาปู่หนีมาเพื่อพบเขา

อาจจะเป็นเพราะเธอกลัวสายตาดุร้ายของหนานกงอวิ๋นอี้ เธอจึงถอยหลังสองสามก้าวแล้วรีบยืนตัวตรง เธอแค่นเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดว่า “อะไร พ่อแม่นายถูกจับแต่งงานกันเพราะธุรกิจ ถึงแม่ของฉันจะมาทีหลังแต่พวกเขาก็รักกันจริง เพราะแบบนี้คนที่ไม่ได้รับความรักก็คือเมียน้อย!”

หงหลวนตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนทำตัวกร่างทั้งที่มารดาของตัวขโมยบุรุษของผู้อื่น นางเผลอนับถือความหน้าไม่อายของสตรีผู้นี้

“ถ้ากล้านักก็ลองพูดอีกทีสิ!” จู่ๆ หนานกงอวิ๋นอี้ก็ยกมือขึ้นคว้าคอเสื้อของหนานกงหลานขึ้น “ตอนแรกฉันก็ไม่อยากจะทำร้ายเธอที่นี่ แต่เธอกลับว่าร้ายแม่ของฉัน! ถ้าฉันไม่ปกป้องแม่ ฉันก็คงไม่เหมาะจะเป็นลูกชายของแม่แล้ว!”

ถ้าไม่ใช่เพราะคนพวกนี้…แม่ของเขาก็คงไม่ตาย และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็คงไม่ต้องเป็นลูกที่มีพ่อเลี้ยงเดี่ยว!

หลายปีมานี้ เขาไม่เคยบอกคนอื่นเรื่องครอบครัวของเขาและไม่เคยบอกกับอวิ๋นลั่วเฟิงแม้แต่นิดเดียว แค่คิดถึงคนพวกนี้ เขาก็รู้สึกรังเกียจแล้ว! ก็เหมือนกับที่เปลือกตาของคนกระตุกแล้วสัมผัสได้ว่าจะมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายเกิดขึ้นนั่นแหละ

ตอนที่ 2169 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (10)

“นายคิดจะทำอะไร” ตอนนั้นเองหนานกงอวิ๋นอี้ก็จับคอของหนานกงหลาน แล้วเจตนาสังหารก็แผ่ออกมาจากดวงตาของเขา ความตั้งใจของเขาชัดเจนมากจนแม้แต่หนานกงหลานก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“เพียะ!” แต่…ดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตเห็นความกลัวในดวงตาของหนานกงหลาน ฝ่ามือของเขาจึงปะทะเข้ากลับแก้มของเธอ ทันใดนั้นใบหน้าบอบบางและน่ารักของเธอก็บวมเบ่ง และเธอก็เริ่มร้องไห้

“หนานกงอวิ๋นอี้!” จู่ๆ เสียงเดือดดาลก็ดังขึ้น แล้วคู่รักคู่หนึ่งก็เดินออกมา เมื่อเห็นมือของหนานกงอวิ๋นอี้กำลังยกตัวของหนานกงหลานขึ้น ภายในดวงตาของเขาก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ

“แกกำลังทำอะไร” ชายคนนี้สวมชุดสูทแล้วเดินเข้ามาหาหนานกงอวิ๋นอี้ก่อนจะตะโกนอย่างเคร่งเครียดว่า “วางน้องสาวแกลงเดี๋ยวนี้!”

น้องสาว? หนานกงอวิ๋นอี้ยิ้มเยาะ

ในอดีตไม่ว่าเขาจะไม่ชอบตระกูลหนานกงมากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้หนานกงหลาน ไม่ว่านางจะพูดอะไร เขาก็แค่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดที่นางพูด ทว่าตั้งแต่ที่เขาไปยังแดนลับแล เขาก็ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศที่นั่น และไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเมื่อก่อน

“ผมไม่สนว่าเธอจะเป็นใคร ตราบใดที่เธอเหยียดหยามแม่ของผม ผมก็จะสั่งสอนเธอ!”

ปัง!

หนานกงอวิ๋นอี้ยกมือขึ้นแล้วโยนหนานกงหลานไปที่พื้นอย่างแรง ศีรษะของนางกระแทกกับผนังจนทำให้นางมึน แล้วน้ำตาก็ไหลอาบหน้าด้วยความเจ็บปวด

“เสี่ยวหลาน!” ผู้หญิงหน้าตาดีที่ยืนอยู่ข้างชายคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจแล้วรีบดึงหนางกงหลานมากอดขณะที่น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา “ลูกเป็นอะไรไหม เร็ว ไปตามหมอมา!”

คำพูดของเธอทำให้พยาบาลรีบวิ่งออกไป ไม่นานหมอก็เข้ามา

“หมอ เร็วเข้า รีบมาดูลูกสาวของฉัน” หญิงสาวคนนั้นเปี่ยมไปด้วยความกังวล เธอมองเด็กสาวในอ้อมกอดตาไม่กะพริบ สีหน้าของหนานกงหลานซีดลงเล็กน้อยและเหงื่อก็ไหลลงมาไม่หยุด เธอกัดปากแน่นขณะที่จ้องหนานกงอวิ๋นอี้อย่างเกลียดชัง

หงหลวนมองหนานกงหลานแล้วรอยยิ้มเยาะก็ปรากฏขึ้นบนรอมฝีปากของนาง “ในเมื่อนางยังจ้องหน้าเจ้าได้ ก็ดูเหมือนว่านางจะไม่เป็นไร”

คำพูดของนางทำให้ผู้หญิงสวยคนนั้นเดือดดาลแล้วยืนขึ้นแล้วมองหงหลวนอย่างเกรี้ยวกราด

“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาชี้นิ้วสั่งพวกเรา ตระกูลหนานกง! ผู้หญิงบ้านนอกจากประเทศอะไรก็ไม่รู้อย่างแกกล้าแต่งเข้ามาในตระกูลหนานกงงั้นเหรอ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่มีทางให้แกเข้ามาในตระกูลแน่!” ผู้หญิงสวยคนนั้นมองหงหลวนอย่างเย็นชาก่อนจะหันไปหาชายคนนั้น อารมณ์โมโหในตอนแรกของเธอก็เปลี่ยนเป็นโศกเศร้าทันที

“ที่รัก ดูอวิ๋นอี้สิคะ เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้และไม่เคยทำร้ายเสี่ยวหลานเลย เขาต้องถูกผู้หญิงคนนี้ทำให้หลงผิดแน่”

ร่องรอยความโกรธปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาขณะที่เขาหันไปมองหนานกงอวิ๋นอี้ด้วยสีหน้าเย็นชา “รีบขอโทษน้องสาวกับแม่ของแกซะ!”

“อย่างแรกเลยนะ แม่ของผมตายแล้ว!”

เสียงของหนานกงอวิ๋นอี้เศร้าหมองและเย็นชา “สอง หนานกงหลานดูหมิ่นแม่ผม และในฐานะลูกชาย ผมจะไม่ยืนดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไร! …

…สาม ตั้งแต่ต้นจนจบ ผมเป็นคนที่สั่งสอนหนานกงหลาน และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลวนเอ๋อร์ คุณจะให้เธอขอโทษจริงเหรอ”

ไม่ต้องพูดถึงว่าหนานกงอวิ๋นอี้กำลังรำคาญ แม้แต่หงหลวนก็กำลังสนุกสนาน ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่แคว้นเจ็ดเมืองที่มีคนทำตัวกร่าง ในหวาเซี่ยก็มีอยู่มากมายเหมือนกัน…

ตอนที่ 2170 เรื่องราวอีกด้านของหวาเซี่ย (11)

“คุณพ่อคะ”

หนานกงหลานฟื้นจากอาการมึนงงแล้วเม้มปาก ขณะที่น้ำตาไหลลงมา “หนานกงอวิ๋นอี้ว่าแม่ของหนูก่อน เขาบอกว่าคุณแม่เป็นเมียน้อย หนูก็เลยตอบโต้เพราะรับคำพูดเขาไม่ได้ เขาบอกว่าหนูว่าแม่ที่เสียไปแล้วของเขา แต่ไม่ได้บอกความจริงที่ว่าเขาเป็นคนเริ่มก่อน”

หงหลวนตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่นางเจอคนที่กล้าพูดบิดเบือนความจริงต่อหน้าขนาดนี้ แล้วรอยยิ้มของนางก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก

“ไร้สาระ!” อย่างที่คิดชายคนนั้นโกรธทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเธอและไฟโกรธในดวงตาของเขาก็เพิ่มขึ้น “ตอนที่แม่ของแกยังมีชีวิตอยู่หล่อนเลี้ยงแกมาแบบนี้เหรอ แกมันขาดการอบรมสั่งสอน! เหม่ยเสวี่ยเป็นแม่เลี้ยงของแก แต่แกกลับกล้ากล่าวหาว่าเธอเป็นเมียน้อยงั้นหรือ! เมียน้อยตัวจริงคือแม่แกต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะปู่แกบังคับให้ฉันแต่งงาน แกคิดว่าฉันจะแต่งงานกับหล่อนงั้นเหรอ”

หมัดของหนานกงอวิ๋นอี้กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่ออดกลั้นความโกรธไม่ให้เข้าไปต่อยชายคนนี้

“ฉันเจอเหม่ยเสวี่ยช้าไปไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่แต่งกับแม่แกหรอก!” ดวงตาเย็นชาของชายคนนั้นกวาดมองหนานกงอวิ๋นอี้ก่อนจะหันไปหาจ้าวเหม่ยเสวี่ยที่กำลังสะอึกสะอื้นไม่หยุด เขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เหม่ยเสวี่ย คุณไม่ต้องไปใส่ใจคำพูดของเขา แค่ผมรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงก็พอ โชคร้ายที่พวกเราเจอกันช้าเกินไป ไม่อย่างนั้นต่อให้ผมต้องต่อต้านตาแก่นั่น ผมก็จะแต่งงานกับคุณ”

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนทำตัวชอบธรรมหลังจากที่ตัวเองมีชู้

เขาหมายความว่าอย่างไรที่ว่าเจอกันช้าไป

ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วทำให้ภรรยาตรอมใจตายเพราะเสียใจที่สามีมีชู้! ผลก็คือเขาบอกว่าความรักไม่มีถูกผิดงั้นหรือ ต่อให้พวกเขารักกันจริง…ความจริงที่ว่าตอนนั้นเขาแต่งงานแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

เหล่าแพทย์และพยาบาลรู้สึกเหยียดหยามเขาไม่ต่างกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมา ไม่ใช่แค่เพราะว่าชายคนนี้เป็นประธานบริษัทหนานกง บิดาของเขาหรือชายชราที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็เป็นรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าเขาจะเกษียณแล้วแต่อิทธิพลที่เขามีก็ยังมหาศาล

“เห็นแก่คุณปู่ ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน” สีหน้าของหนานกงอวิ๋นอี้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบขณะที่พูดอย่างเฉยชาว่า “ถ้ามีครั้งหน้า ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแม้ว่าคุณจะเป็นพ่อแท้ๆ ของผมก็ตาม!”

เขาไม่อยากให้ท่านปู่กังวลมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงปล่อยอีกฝ่ายไป ไม่อย่างนั้นเขาคงลงมือกับอีกฝ่ายไปแล้ว!

“มีลูกชายที่ไหนพูดกับพ่อตัวเองแบบนี้บ้าง” สีหน้าของชายคนนั้นเมินเฉย “ถ้าแกไม่อยากขอโทษก็ไม่เป็นไรแต่…ฉันจะไม่มีทางให้ผู้หญิงคนนี้ก้าวเข้ามาในประตูตระกูลหนานกงแน่!”

หนานกงอวิ๋นอี้หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและเหยียดหยาม

“ชีวิตของผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ!”

“แก…” ชายคนนั้นเอื้อมมือไปจะจับไหล่ของหนานกงอวิ๋นอี้ด้วยความโกรธ แต่ตอนนั้นเองกลับมีแรงบางอย่างระเบิดออกจากตัวหนานกงอวิ๋นอี้ แล้วทำให้มือของเขาสะท้อนกลับมา

“ไสหัวไป!”

ปี๊บ! ปี๊บ! ปี๊บ!

ตอนที่ชายคนนั้นระเบิดอารมณ์ ไฟของห้องฉุกเฉินก็ดับลง และแพทย์ที่สวมหน้ากากอนามัยก็เดินออกมา

“หมอ” ชายคนนั้นไม่สนใจหนานกงอวิ๋นอี้แล้วรีบเดินไปถามว่า “พ่อผมเป็นยังไงบ้าง”

แพทย์มองชายคนนั้นแล้วถอนหายใจ “อาการบาดเจ็บของคนไข้ร้ายแรงเกินไป และเขาก็ยังไม่ได้สติ ถ้าเขายังไม่ฟื้นภายในคืนนี้ พวกคุณก็ทำใจไว้ดีกว่า…”

ถ้าคืนนี้เขายังไม่ฟื้น พวกคุณทุกคนควรทำใจไว้ดีกว่า…

หนานกงอวิ๋นอี้โซเซจนเกือบจะล้มลงไปกับพื้น โชคดีที่หงหลวนพยุงเขาไว้ไม่ให้ทรุดลงไปได้ทัน…