ตอนที่ 212 แตกหักกับซือเหยี่ยนได้ไหม / ตอนที่ 213 งั้นคุณก็ฆ่าผมเลย

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 212 แตกหักกับซือเหยี่ยนได้ไหม 

 

 

           “ผมจะกล้าที่ไหนกัน คุณเจียงอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นอยู่แล้ว นี่ผมเป็นห่วงสุขภาพของคุณชายเจียงไม่ใช่เหรอ ถ้าหากไม่ได้กินข้าว แล้วหิวจนตาลายขึ้นมาจะทำยังไง” 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขาแล้วหน้าผากกระตุกแล้วกระตุกอีก ทำไมตอนนี้นิยมเดินทางสายเลี่ยนๆ กันเหรอ 

 

 

           คำพูดของซังจิ่งไม่กี่ประโยคนี้อีกนิดจะทำให้เขาเลี่ยนจนตายแล้ว 

 

 

           “โอเค กินข้าวกันเถอะ” เจียงมู่เฉินหยิบตะเกียบเตรียมจะลงมือกินข้าว เขาหิวแล้วจริงๆ ตั้งแต่ตอนเที่ยงกลับมาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย 

 

 

           จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็หยิบตะเกียบจากมือเขาไป มาวางที่มือของเขาเอง 

 

 

           เจียงมู่เฉินงุนงงอยู่ในที ทำไมไม่ปรนนิบัติเขาดีๆ แม้แต่กินข้าวก็ไม่ให้กินแล้ว? 

 

 

           ซือเหยี่ยนคีบอาหารให้เขาด้วยท่าทีอ่อนโยน ทุกอย่างเป็นอาหารที่เขาชอบวางใส่ในชามของเจียงมู่เฉิน หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ ซือเหยี่ยนถึงได้คืนตะเกียบให้เขา “เมื่อกี้คุณบอกว่าเมื่อยมือจนยกไม่ขึ้นไม่ใช่เหรอ อยากกินอะไรก็บอกผมได้ ผมทำให้” 

 

 

           ‘…บัด! ซบ! บัด! ซบ!’ 

 

 

           ‘ตลบหลังกันสินะ’ ทีตอนนี้รู้ว่าเขาเหนื่อยจนปวดมือ ทีตอนนั้นให้เขาทำอะไรแบบนั้นลงไป ทำไมไม่เห็นจะเห็นใจเขาสักนิด 

 

 

           ทุกครั้งที่เขาถามว่าหยุดได้หรือยัง เจ้าหมอนั่นก็เอาแต่พูดว่า ‘ทำต่อ’ สองคำนี้ตอบกลับเขามา 

 

 

           ตอนนี้จะกินข้าวถึงมานึกได้เหรอว่าเขาปวดมือ 

 

 

           ‘จงใจ เจ้าหมอนี่ต้องจงใจแน่นอน’ อยู่ต่อหน้าซังจิ่งมาพูดว่าเขาเมื่อยมือจนยกไม่ขึ้น ขอเพียงแต่เป็นผู้ใหญ่ที่ไอคิวปกติ แวบแรกก็ดูออกแล้วว่าพวกเขาทำอะไรกันมา 

 

 

           ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซังจิ่งผู้เจนโลกคนนี้อีก 

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าวันนี้ไม่มีทางจะผ่านไปได้แล้ว ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาเป็นคนที่ช่วยซือเหยี่ยนทำอะไรแบบนั้นลงไป เขาจะเสียหน้าแค่ไหน 

 

 

           ซือเหยี่ยนมีหรือจะเหลียวแลคำพูดพวกนั้นที่วาบขึ้นมาในหัวของเจียงมู่เฉิน เขาพูดจบก็มองซังจิ่งด้วยรอยยิ้มเบาๆ ประกาศศักดาผ่านแววตาคู่นี้ 

 

 

           รอยยิ้มบนใบหน้าซังจิ่งไม่เปลี่ยน แต่มือที่จับตะเกียบไว้กลับกำแน่นขึ้นเล็กน้อย 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ “ขออภัย เพราะมีเรื่องส่วนตัวเลยทำให้ประธานซังรอนานขนาดนี้ ยังต้องขออภัยด้วยจริงๆ” 

 

 

           ซังจิ่งยิ้มเยาะ ขออภัย? 

 

 

           เขาฟังคำขออภัยจากซือเหยี่ยนไม่ออกถึงสักครั้งหนึ่งด้วยซ้ำ กลับรู้สึกว่า ซือเหยี่ยนประกาศศักดาครองอำนาจสิทธิ์ขาดต่อหน้าเขาอย่างหน้าชื่นตาบานมาก 

 

 

           “รอๆ ไปก็ไม่เป็นไรหรอก แต่คิดไม่ถึงว่าประธานซือจะรีบเร่งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ “ไม่เจอหน้าเฉินเฉินมาตั้งหลายวัน จะนานเท่าไหร่ก็คิดถึง ประธานซังโดดเดี่ยวอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ต้องเข้าใจยากเป็นธรรมดา” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเริ่มจะปวดหัวนิดหน่อยแล้ว สองคนนี้เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องจิกกัดกัน เขามองดูอาหารที่อยู่เต็มบนโต๊ะ แล้วตัดสินใจจะไม่สนใจพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาทำตามสบายดีกว่า เขาไม่ยุ่งด้วยแล้ว 

 

 

           เขาคนเดียวผ่อนคลายสบายใจ 

 

 

           เจียงมู่เฉินกินข้าวไปด้วย พลางมองดูสงครามน้ำลายของพวกเขาทั้งสองคนไปด้วย ในใจก็คิดว่าทั้งสองคนนี้จะต่อปากต่อคำกันถึงเมื่อไหร่ถึงจะหยุดได้สักที 

 

 

           “คุณชายเจียงรักอิสระ ถ้าผมเป็นประธานซือจะไม่ตามติดขนาดนี้” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ เขาก้มหน้ามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง “คนนอกมักจะคิดว่าเฉินเฉินรักสนุก ความเป็นจริงแล้วเขาไม่ค่อยเหมือนกับข่าวลือที่ได้ยินมาเท่าไหร่” 

 

 

           ‘คนนอก’ สองคำนี้ฟังแล้วซังจิ่งไม่ค่อยปลื้มใจนัก ไม่ช้าก็เร็วสักวันเขาจะลบคำว่า ‘คนนอก’ นี้ทิ้งเสีย ถึงตอนนั้นจะทำให้ซือเหยี่ยนจดจำคำพูดในวันนี้ให้ดี 

 

 

           ซังจิ่งคีบซี่โครงไปวางใส่ชามของเจียงมู่เฉิน “ได้ยินว่าคุณชอบกิน ผมตั้งใจให้ครัวเตรียมให้คุณเป็นพิเศษ ลองชิมดูว่าเป็นยังไงบ้าง” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเจียงมู่เฉินด้วยท่าทีเย็นชา “เฉินเฉิน คุณชอบกินซี่โครงตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่ยักรู้เลย” 

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ข้างหน้ามีซังจิ่ง ข้างหลังมีซือเหยี่ยน วันนี้หมดทางจะผ่านไปแล้ว 

 

 

           เขาหัวเราะอย่างเลิ่กลั่ก “ขอบใจประธานซังนะ เพียงแต่ว่าวันนี้ฉันปวดฟันนิดหน่อย เลยจะไม่กินแล้ว” 

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินแบบนี้ถึงได้เริ่มกินข้าวอย่างพอใจ ยังคีบเนื้อปลาให้เขาอีก “ปวดฟันก็กินของแข็งให้น้อยลงหน่อย” 

 

 

           เจียงมู่เฉิน “…”  เขาแตกหักกับซือเหยี่ยนได้ไหม 

 

 

            

 

 

           ตอนที่ 213 งั้นคุณก็ฆ่าผมเลย 

 

 

           กว่าจะกินข้าวเย็นมื้อนี้เสร็จไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ท้องฟ้ายังไม่ถือว่าค่ำมากนัก ข้างนอกยังสว่างโร่ เจียงมู่เฉินกินจนอิ่มแล้วก็เตรียมจะออกไปเดินย่อยรอบๆ แถวนี้ 

 

 

           เขาเดินตามทางไปทะเลสาบแห่งนั้นที่ซังจิ่งชี้บอกเขาเมื่อตอนเช้า เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ซือเหยี่ยนก็เดินตามเข้ามา เจียงมู่เฉินหันกลับมามองเขา “นายตามมาทำไม” 

 

 

           “จุกนิดหน่อย เลยมาเดินเล่น” 

 

 

           “ในภูเขานี้มีถนนตั้งหลายเส้นขนาดนั้น นายไม่ไปเดิน มาเดินใกล้ฉันทำไม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเดินเอ้อระเหยลอยชายตามเขาอยู่ด้านหลัง มองเขาก่อนเอ่ยอย่างเต็มปากเต็มคำ “แฟนผมอยู่ที่นี่ ผมไม่อยู่ที่นี่ คุณจะให้ผมไปไหน” 

 

 

           “ฉันเห็นนายคุยอยู่กับซังจิ่งดูเพลิดเพลินเจริญใจกันอยู่ไม่ใช่เหรอ พอดีจะได้เข้าไปคุยกันต่อสักหน่อยเลย” เจียงมู่เฉินแอบเอ่ยเหน็บแนม 

 

 

           “ผมอยากจะคุยเพลิดเพลินกับคุณมากกว่า” 

 

 

           ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เจียงมู่เฉินเดินอย่างช้าๆ คิดไม่ถึงว่าในภูเขาแห่งนี้จะรู้สึกถึงความเงียบสงบที่ไม่ได้พบมานาน เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ถูกจริงๆ 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่พูดจา ซือเหยี่ยนเดินเข้าไปอยู่ข้างกายเขา 

 

 

           “นายว่าที่ซูเตอร์กลับมาครั้งนี้ เขามาตามจีบนายหรือเปล่า” จู่ๆ เจียงมู่เฉินก็เอ่ยปากขึ้น 

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “ทำไมพูดแบบนี้” 

 

 

           “คนเขาอยู่ตั้งอเมริกา ห่างไกลตั้งกี่หมื่นลี้กว่าจะมาถานโจวได้ ถ้าไม่คิดแบบนี้ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว” 

 

 

           “ดังนั้น คุณกลัวว่าผมจะตั้งรับการรุกจีบของเขาไม่อยู่เหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินหางตากระตุก “ฉันถูกเอาไปเปรียบเทียบง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง ความมั่นใจนี้คุณชายก็ยังมีอยู่นะ” 

 

 

           ในใจเขานอกจากแฟนเก่าคนนั้นของซือเหยี่ยนที่เป็นหนามยอกอกแล้ว คนอื่นเขาไม่เคยวางไว้ในสายตา 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางหยิ่งผยองของเขาก็ยกยิ้มมุมปากขึ้น เขาดึงมือเจียงมู่เฉินมากุมไว้ “วางใจเถอะ ผมเป็นของคุณ ใครก็แย่งชิงไปไม่ได้” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคำพูดของนายความน่าเชื่อถือต่ำจัง” 

 

 

           ก่อนหน้านี้ยังพูดว่าลืมแฟนเก่าไม่ได้อยู่เลย ตอนนี้ยังบอกกับเขาว่าเป็นของตัวเองอีก ถ้าหากว่าแฟนเก่าคนนั้นกลับมาแย่งชิงกับเขา ใครจะรู้ว่าซือเหยี่ยนจะเลือกแบบไหน 

 

 

           ถึงอย่างไรคนคนนั้นก็คบกับเขามานานขนาดนี้ ถ้าหากรู้สึกเบื่อหันไปตบก้นเรียก ก็หนีตามแฟนเก่าไปแล้ว 

 

 

           พูดถึงแฟนเก่า เจียงมู่เฉินก็อดจะหรี่ตาลงไม่ได้ รอจัดการซูเตอร์ก่อน ค่อยไปจัดการแฟนเก่าคนนั้นของซือเหยี่ยน 

 

 

           ถึงอย่างไรตอนนี้ซือเหยี่ยนก็เป็นคนของเขา ยกเว้นเขาเจียงมู่เฉินไม่ต้องการแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นใครก็แย่งไปไม่ได้ 

 

 

           เขาพลิกมือมาคว้าคอเสื้อซือเหยี่ยนไว้ “ฉันจะบอกนายให้นะ ฉันไม่เคยจะเป็นคนดีอะไร ยกเว้นฉันจะเบื่อไม่ต้องการนายแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นนายก็ทำได้แค่ทำตัวดีๆ อยู่ข้างกายฉัน” 

 

 

           การใช้อำนาจข่มขู่ปรากฏในแววตา ยังมีอีกหรือท่าทางอะไรก็ได้เมื่อครู่นี้ เขาเจียงมู่เฉิน เขาเจียงมู่เฉินอยากได้อะไรก็ต้องได้ ในเมื่อเป็นของเขาแล้ว ก็ไม่มีทางจะปล่อยมือไปง่ายๆ 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางเอาเรื่องอย่างเอาเป็นเอาตายของเขา ก็ยิ้มหัวเราะเบาๆ “งั้นคุณก็คงจะต้องดูผมดีๆ แล้ว” 

 

 

           “นายไม่กลัวว่าฉันทำจะเรื่องอะไรไม่ดีออกมาเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนก้มหัว “ไม่เป็นไร ถึงยังไงผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร พวกเราสองคนก็ไม่ใช่คนดีทั้งคู่ เข้ากันได้พอดี ทำลายกันและกันก็พอแล้ว ไม่ต้องทำลายคนอื่น” 

 

 

           “ถ้าหากว่าสักวันฉันอยากจะไปทำลายคนอื่นล่ะ” ถึงอย่างไรคนที่ชอบเขาก็มีไม่ใช่น้อยๆ เลย 

 

 

           “งั้นผมก็จะขังคุณเอาไว้ ให้ผมเห็นคุณได้คนเดียวเท่านั้น” 

 

 

           “แล้วถ้านายอยากจะไปทำลายคนอื่นบ้างล่ะ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเอ่ยอย่างจริงจัง “งั้นคุณก็ฆ่าผมเลย” 

 

 

           นัยน์ตาเอาจริงเอาจังของเขาทำเอาเจียงมู่เฉินตกใจจนขวัญกระเจิงแล้ว เขารู้ว่าที่ซือเหยี่ยนพูดเป็นความจริง ถ้ามีสักวันเขาอยากจะฆ่าซือเหยี่ยน เกรงว่าซือเหยี่ยนจะไม่กะพริบตาเลย แล้วปล่อยให้เขาลงมือ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเข้าไปจูบเขา “ฉันคิดๆ แล้ว ไม่ค่อยจะทำใจได้ลงเท่าไหร่ แต่ถ้ามีวันนั้นจริงๆ ฉันก็จะไม่ปล่อยนายไปง่ายๆ หรอก”