ตอนที่ 923 คืนดีกัน

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 923 คืนดีกัน

 

หยางโปรู้ดีว่าฮัวชิงหยุนกําลังหึงหวงเยวเหยาอยู่ เธอคิดว่าไม่ว่าหยางโปไปไหนก็มักจะพาเยว่เหยาไปด้วยทุกที จึงรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ !

 

แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับปัญหานี้เข้าจริงๆ หยางโปก็สับสนไม่น้อย เขารู้ดีว่าฮัวชิงหยุน แค่ต้องการได้ยินเขาพูดว่า เยวเหยาจะไม่มีทางกลับมาอีก แม้ว่าจะโกหกเธอ ฮัวชิงหยุนก็มีความสุขมาก ! แต่หยางโปกลับรู้สึกค่อนข้างอึดอัดใจโดยมักจะรู้สึกเสมอว่า เขาหลอกอีกฝ่ายมาโดยตลอด

 

จึงทําให้เขารู้สึกลําบากใจ

 

ฮัวชิงหยุนหน้าถอดสีไปเล็กน้อย เธอจ้องมองหยางโปเขม็ง “ หยางโปนายคิดอะไรอยู่กันแน่

 

นายอยากคบกับเยวเหยาใช่ไหม ? “

 

หยางโปมองไปที่ฮัวชิงหยุน จากนั้นเขาก็เหลือบไปที่อู่เจียเฟย ” พี่เฟย ช่วยไปซื้อบุหรี่ให้ผมหน่อย ”

 

ลู่เจียเฟยหันมามองหยางโปด้วยความรู้สึกแปลกใจ หยางโปไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เขาเอื้อมมือไปลูบกระเป๋า ด้านในมีบุหรี่อยู่หนึ่งซอง ในขณะที่เขากําลังจะหยิบมันออกมาแต่จู่ๆเขาก็รู้ทัน

 

“ ได้ ฉันจะออกไปซื้อบุหรี่ ”

 

เมื่อเห็นหยางโปแยกพี่ชายลูกพี่ลูกน้องออกไป ฮัวชิงหยุนก็จ้องมองหยางโปเขม็ง

 

“ ว่ามา สรุปแล้วนายต้องการจะพูดอะไร ?”

 

หยางโปมองหน้าฮัวชิงหยุน และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงหยิบกระบหยกออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ “ อันที่จริง กระบี่หยกเล่มนี้คือเหตุผลที่ หยวนเฉิงเฟยไล่ฆ่าฉัน”

 

ฮัวชิงหยุนรับกระบี่หยกมาวางไว้บนฝ่ามือ กระบี่หยกเล่มนี้มีความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร

 

มันดูใสราวน้ําแข็งและสวยงามมาก

 

* ทําไม ? ” ฮัวชิงหยุนมองหน้าหยางโป

 

หยางโปดึงกระบี่หยกจากฝ่ามือของเธอกลับมา พลังเริ่มไหลเวียน จากนั้นพลังค่อยๆถ่ายทอดเข้าไปในกระบี่หยก เขาค่อยๆยกกระบี่หยกขึ้นและตัดตรงลงไปที่ถ้วยน้ําชากระเบื้องทันที

 

กระบี่หยกตัดลงตรงกลางถ้วยกระเบื้องไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาระหว่างนั้น เหมือนน้ําแข็งและหิมะที่กําลังละลาย ถ้วยชาก็ค่อยๆแบ่งครึ่งออกจากกันเป็นสองชิ้น

 

“ แกรัก !” เสียงดังคมชัด ถ้วยกระเบื้องร่วงหล่นลงบนโต๊ะ

 

ฮัวชิงหยุนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ เธอมองไปที่กระบี่หยกในมือของหยางโปตาไม่กระพริบ

 

ไม่ว่ายังไง ก็คาดไม่ถึงอยู่ดีว่าจะได้มาเห็นฉากแบบนี้ !

 

หลังจากนั้นสักพัก ฮัวชิงหยุนถึงได้เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

” นี่คือ… นี่คือสิ่งที่นายเคยพูดมาก่อนหน้านี้ พลังที่มีอยู่เหนือโลกนี้ใช่ไหม ?”

 

หยางโปได้ยินอย่างชัดเจนว่าเสียงของ ฮัวชิงหยุนค่อนข้างสั่นเทา เขายื่นมือออกไปเกาะกุมมือของฮัวชิงหยุนไว้เบาๆ “ ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไร อวี่เหวิน เธอน่าจะรู้จักอวี่เหวินดีเขาเป็นผู้ฝึก

 

วรยุทธ์อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่ของฉันด้วย เริ่มแรกเขาเป็นคนพาฉันเข้าสํานักและเรียนรู้การฝึกวรยุทธ์ ”

 

ฮัวชิงหยุนจ้องมองหยางโปตาเขม็ง มองขึ้นและลงอย่างพินิจพิเคราะห์” พวกนายบินเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยหรือเปล่า ? ”

 

* จะเป็นไปได้ยังไง ? ” หยางโปยิ้มและเอ่ยออกมา “ เธอมั่นใจได้เลย พลังแบบนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากจนเกินไป มันจะปรากฏขึ้นเมื่อตอนใช้มันเท่านั้น”

 

เมื่อเห็นหยางโปแบ่งปันความลับสุดยอดแบบนี้ให้ ฮัวชิงหยุนก็รู้สึกดีขึ้นมาก เธอหันไปถาม

 

หยางโปว่า ” แล้วนายเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ? เยวเหยาก็ เป็นคนฝึกวิทยายุทธ์ด้วยใช่ไหม ? ”

 

หยางโปพยักหน้า “ เธอลงมาจากภูเขาเอ๋อเหม่ย อาจารย์ของเธอเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจมากเหตุผลที่เธอลงเขามา เป็นเพราะอาจารย์ของเธอต้องการให้เธอมาฝึกฝนอยู่ในโลกมนุษย์ปุถุชนดังนั้นเธอจึงต้องค่อยติดตามฉันในช่วงเวลานั้น คืออยากให้ฉันช่วยสอนเธอ”

 

ฮัวชิงหยุนมองหน้าเขา ” ถ้าเธอเป็นผู้ฝึกพลังเหมือนกัน พวกนายก็จะยิ่งเป็นคู่ที่เหมาะสมกันกว่านี้อีกไม่ใช่หรือไง ?”

 

หยางโปส่ายหัว “ สําหรับฉันแล้ว ฉันเป็นผู้ฝึกพลังอยู่แล้ว ฉันมีความสามารถที่จะปกป้องเธอได้ พวกเราถึงจะเหมาะสมกัน ”

 

ฮัวชิงหยุนมีสีหน้าแอบดีใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แต่ยังไงซะหยางโปก็เห็นได้ชัดว่าเธออารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว

 

“ ฉันอยู่ปีสามแล้ว ฉันสามารถยื่นขอออกไปฝึกงานได้ ไม่ว่านายจะไปที่ไหน ฉันก็จะตามนายไปทุกที่ !” ฮัวชิงหยุนกล่าว

 

หยางโปรู้สึกตกใจปนดีใจ “ จริงเหรอ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ?”

 

* หรือว่านายอยากให้ฉันเปลี่ยนใจ ? ” ฮวาชิงหยุนเบะปากทําหน้าบึงกลับ

 

หยางโปอดหัวเราะไม่ได้ “ ถ้าเธอไม่เปลี่ยนใจงั้นก็ไม่เปลี่ยนใจ”

 

ไม่นาน ลู่เจียเฟยก็กลับมาพร้อมกับบุหรี่ซองหนึ่ง เมื่อเห็นหยางโปทั้งสองคุยกันอย่างมีความ

 

ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เขาจึงหันไปแอบยกนิ้วโป้งให้หยางโป

 

ดึกหน่อย สู่เจียเฟยก็มีสายโทรเข้า และหันไปพูดกับทั้งสองคนว่า “ มีงานเลี้ยงสังสรรค์ นัดเจอกับกลุ่มเพื่อนน่ะ คืนนี้ต้องดื่มเหล้าแน่นอน ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เอารถไปแล้วนะ ทิ้งรถไว้ให้พวกนายก็แล้วกัน”

 

หยางโปรับกุญแจมาและหันไปยิ้มให้ลู่เจียเฟย “ ตอนกลางคืนระวังตัวหน่อย”

 

หยางโปขับรถพาฮัวชิงหยุนไปทานอาหารเย็นใต้แสงเทียน จากนั้นจึงพาเธอไปเดินเล่นรอบๆสวนสาธารณะใกล้ๆ

 

“ ฉันต้องกลับแล้ว ดึกมากแล้ว มหาลัยจะปิดประตูแล้ว ” ดูเหมือนฮัวชิงหยุนจะรู้ตัวว่าค่อนข้างดึกแล้วจึงรีบเอ่ยออกมา

 

* ไม่เป็นไร เธอไปนอนกับฉันที่โรงแรมก็ได้ ” หยางโปพูด

 

ฮัวชิงหยุนจ้องหน้าหยางโป “ นายมีอพาร์ทเม้นท์อยู่ไม่ใช่เหรอ ? มีบ้านและวิลล่าอยู่ ทําไมต้องพักที่โรงแรมด้วย ?”

 

หยางโปหัวเราะ “ โรงแรมสะดวกกว่า !”

 

“ พักโรงแรมมันสิ้นเปลืองเงินทองน่ะสิ!” ฮัวซิงหยุนกล่าว

 

“ตกลง งั้นคืนนี้ฉันจะย้ายกลับไปพัก ” หยางโปตอบ อันที่จริงแล้ว เขายังไม่ได้จองโรงแรมเลยอพาร์ทเม้นท์ของเขาทําความสะอาดเป็นประจํา ดังนั้น ถ้าย้ายกลับไป ก็สามารถอยู่ได้เลย

 

หยางโปขับรถมาส่งฮัวชิงหยุนนอกประตูมหาลัย จากนั้นเขาก็จอดรถไว้ข้างนอกแล้วไปส่ง

 

ฮัวชิงหยุนถึงชั้นล่างของหอพัก ฮัวชิงหยุนชี้ไปทางด้านหลัง “ เฮ้ มีผู้หญิงสวยๆ อยู่ตรงนั้น !

 

หยางโปมองไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าถูกจูบเข้าที่แก้มครั้งหนึ่ง

 

อย่างนุ่มนวล เขาหันกลับไปมองฮัวชิงหยุน

 

ใบหน้าของฮัวชิงหยุนแดงก่ํา เธอทําตาโตจ้องมองหยางโปและพูดอย่างเสียงดุไปว่า “ หากครั้งหน้ายังมีปฏิกิริยาแบบนี้อีก งั้นก็ไม่ใช่จูบแก้มแล้วนะ ฉันจะให้รางวัลนายด้วยการตบหน้าที่หนึ่ง !

 

หยางโปหัวเราะ “ ใครให้เธอโกหกฉันแบบนี้ ผู้คนก็มักจะหันหน้ามองตามสิ่งที่คนอื่นพูดโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะไม่หันหน้าไป นั่นก็ต้องบังคับตัวเองไม่ให้หันไป วิธีนี้ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เอาซะเลย !”

 

ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ฉันไม่สน ถ้าทําไม่ได้ ก็ต้องถูกลงโทษ !”

 

พอพูดจบ ฮัวชิงหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก กระโดดโลดเต้นกลับไปทันที

 

หยางโปเหลือบมองหอพักแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป

 

มหาลัยแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ต้นไม้โอเรียนเต็ลทั้งสองข้างทางนั้นต้นหนาเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่งที่สามารถโอบรอบได้ หยางโปเดินไปตามถนน เหลือบมองดูแสงไฟริบรีของตึกหอพักที่อยู่ไกลออกไป อดรู้สึกทอดถอดใจไม่ได้ เวลานั้นถ้าเขาเข้าเรียนมหาลัยมันจะเป็นยังไงนะ ?

 

ในขณะที่กําลังเดินอยู่นั้น ทันใดนั้น หยางโปก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าในความมืด จู่ๆก็มีคนสองคนวิ่งออกมาและพุ่งตรงเข้ามาหาเขาทันที ! หนึ่งในนั้นยังถือกระสอบอยู่ในมืออีกด้วย !

 

ลักพาตัว!

 

นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหยางโป แต่เขาก็ปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว การลักพาตัวในโรงเรียน ไม่มีทางที่จะพาเขาออกไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังถือกระสอบซึ่งเห็นได้ชัดว่าอยากจะกระทืบเขาแน่นอน !

 

ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขา คนที่มือทั้งสองข้างว่างเปล่าอยู่นั้น วิ่งตรงเข้าหา

 

หยางโป แต่กลับถูกหยางโปเตะออกไป

 

อีกคนถือกระสอบคิดที่จะเอาคลุมหัวหยางโปไว้ แต่หยางโปกลับเอียงตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อย และเตะไปอย่างแรง จนเตะเข้าเอวของฝ่ายตรงข้ามที่หนึ่ง ทําเอาอีกฝ่ายหน้าถึงกับหงายลงกับพื้น !