ตอนที่ 922 คนขี้หึง
ลู่เจียเฟยจ้องมองไปทางฮัวชิงหยุน เมื่อเห็นว่าเธอกับเขาคนนั้นยังคงรักษาระยะห่างกันอยู่
ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ” ฉันว่าแล้วไหมล่ะ ชิงหยุนจะต้องวางตัวเป็นอยู่แล้ว ”
หยางโปเดินตรงเข้าไป ลู่เจียเฟยจึงพูดเตือนสติว่า “ นายต้องใจเย็นๆนะ !”
เมื่อเดินเข้ามาได้ไม่ไกลจากฮัวชิงหยุน หยางโปก็หยุดอยู่ตรงหน้า
ตัวชิงหยุนดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นหยางโปยืนอยู่ตรงหน้า
ก็อดที่จะหยุดก้าวเท้าไม่ได้
ผู้ชายที่ยืนอยู่กับฮัวชิงหยุนให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของฮัวชิงหยุนมาตลอด เมื่อเห็นเธอหยุดเดิน ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่เมื่อเห็นหยางโป หน้าตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ
จนต้องก้าวเท้าถอยหลังกลับไปสองก้าวและชนเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ด้านหลัง
ทุกคนไม่รู้ว่าทําไมฮัวชิงหยุนและหลิวหมิงหยุน ถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะมองตามเธอ เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้า ทุกคนต่างก็รู้สึกมึนงง
“ ชิงหยุน เขาเป็นใครเหรอ ? ทําไมหลิวหมิงหยุนถึงได้ตกใจกลัวแบบนี้ ? ”
เมื่อหลิวหมิงหยุนได้ยินคํานี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองที่อ่อนไหวเกินไป บทเรียนครั้งก่อน ทําให้เขาลืมไม่ลง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆหยางโปก็จะมาปรากฏตัว
ฮัวชิงหยุนจ้องมองหยางโปตาไม่กระพริบ ด้วยสีหน้าท่าทีที่ค่อนข้างสับสน” ฉันไม่รู้จักเขา “
หยางโปเดินเข้าไป จากนั้นเขาก็หันไปส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมชั้นของฮัวชิงหยุน “ ขอโทษด้วยนะ
ช่วงนี้ชิงหยุนอารมณ์ไม่ค่อยดี ผมขอคุยกับเธอหน่อย “
“ ฉันไม่รู้จักคุณ” ฮวาชิงหยุนเหลือบมองหยางโปแล้วเอ่ยปากพูด
“ ชิงหยุน เรามาคุยกันสักหน่อยนะ” หยางโปกล่าว
“ คุณเป็นใครเหรอ ในเมื่อชิงหยุนบอกแล้วว่าไม่รู้จักคุณ ทําไมยังหน้าด้านแบบนี้อยู่ !
” เด็ก สาวที่ยืนอยู่ข้างชั่วชิงหยุนพูดออกมาอย่างหมดความอดทน
หยางโปไม่โกรธเพราะเหตุผลนี้ เขายิ้ม “ ชิงหยุน เราไปคุยกันหน่อยได้ไหม ?”
ฮัวชิงหยุนไม่ได้พูดอะไร
เพื่อนร่วมชั้นชายสองคนยืนขึ้น พวกเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าฮัวชิงหยุน เพื่อขวางหยางโปเอาไว้จากนั้นก็มีรอยยิ้มเยาะเย้ยผุดขึ้นบนใบหน้าของชายคนหนึ่ง “ พี่ชาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ
คุณกลับไปก่อนดีกว่านะ !”
หยางโปจ้องมองไปที่ฮัวชิงหยุน “ ชิงหยุน เธอไม่ยอมที่จะให้โอกาสฉันอีกสักครั้งจริงๆเหรอ
ฮัวชิงหยุนยังคงเงียบ เธอหลบอยู่กลางกลุ่ม ดวงตาแดงก่ําไม่พูดไม่จา
ลู่เจียเฟยจ้องที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกมือไม้อ่อนไปหมด เขาอยากจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือ
แต่กลับรู้สึกว่าถึงตั้งเองช่วยไปมันก็คงไม่ได้ผล ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าการกระทําเมื่อสักคนเป็นการทรยศต่อน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง จึงรู้สึกละอายใจเพราะเหตุนี้
แต่ยังไงซะ เขาก็เปลี่ยนใจและคิดว่าที่ตัวเองทําแบบนี้ ก็เพื่อคํานึงถึงความสุขทั้งชีวิตของน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง จะดีกว่าไหมถ้าเขาหาคนที่ดีที่สามารถพึ่งพิงได้ให้น้องสาวสักคน เมื่อคิดได้อย่างนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจ
ลู่เจียเฟยก้าวไปด้านหน้า และเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฮัวซิงหยุน” ฉันเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอ อยากคุยกับเธอสักหน่อยน่ะ”
หลิวหมิงหยุนไม่กล้าต่อว่าหยางโป แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคู่เจียเฟย เขาก็ไม่สนใจอะไรมากมาย ” คุณเป็นใคร ? โผล่มาจากไหนอีก ? “
ลู่เจียเฟยหน้าหงายไปทันที จากนั้นก็คว้าตัวฮัวชิงหยุนเอาไว้ “ ฉันขอคุยกับเธอหน่อย ”
“ คุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ ! ” หลิวหมิงหยุนตะคอกด้วยความโกรธ
ฮัวซิงหยุนเหลือบมองไปที่หลิวหมิงหยุน ” เขาเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง ”
พอพูดจบฮัวชิงหยุนก็เดินออกจากกลุ่มเพื่อนและเดินออกไปพร้อมกับลู่เจียเฟยทันที
หลิวหมิงหยุนหน้าถอดสี เขาฉวยโอกาสในขณะที่ฮัวชิงหยุนอารมณ์ไม่ดี เชิญผู้หญิงทั้งหอพักของ
ฮัวชิงหยุนมาฉลองวันเกิด และถึงกับเลือกเวลาเป็นช่วงพักเที่ยงเป็นการเฉพาะ ก็เพื่อเชิญ
ฮัวชิงหยุนออกมาร่วมงาน แต่ตอนนี้ฮัวชิงหยุนกลับออกไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าหยางโปจะมาในเวลานี้ !
หลิวหมิงหยุนต้องการที่จะระบายอารมณ์ เขาชายตามองไปที่หยางโป แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่กึ่งยิ้มกึ่งเฉยชาของเขา เขาก็ทําหน้าบอกบุญไม่รับ ตกตะลึงอยู่ตรงสถานที่เกิดเหตุทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนร่วมชั้นของหลิวหมิงหยุนเห็นเขามีปฏิกิริยาแบบนี้ เมื่อเห็นฮัวชิงหยุนเดินตามคนอื่นไป ทุกคนตามก็พากันพูดโน้มน้าวเขา ” รีบตามไปเร็วเข้า ! ประธานหลิว คุณรีบ ตามไปสิ ! ”
หลิวหมิงหยุนส่ายหน้า เหม่อลอยด้วยความตกตะลึงแข็งที่อราวกับไม้สลักรูปได้โดยไม่พูดอะ
ฮัวชิงหยุนและลู่เจียเฟยเดินหลบออกมาอีกด้าน ” พูดมาสินายต้องการอะไรกันแน่ ?”
ลู่เจียเฟยชี้ไปทางหยางโปและพูดอย่างนักเลงโตว่า “ เขาอยากคุณกับเธอ”
ฮัวชิงหยุนหันไปมองหน้าหยางโป ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยอาการดูถูก “ นายมาหาฉันทําไม ?
นายไม่สนใจฉันแล้วไม่ใช่หรือไง ?”
หยางโปจ้องมองฮัวชิงหยุน” เธอผอมลงไปมากเลยนะ”
ชั่วชิงหยุนไม่ได้ตอบอะไร
ลู่เจียเฟยที่ยืนข้างๆมองดูทั้งสองคน เมื่อเห็นว่าทั้งสองต่างไม่พูดไม่จา เขาก็รู้สึกค่อนข้างจะทนไม่ไหว แต่กลับไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ฉันจะผอมหรือไม่ผอม เกี่ยวกับอะไรกับนาย ?”
หยางโปจ้องหน้าฮัวชิงหยุนตาเขม็ง “ อันที่จริงเรื่องก่อนหน้านี้มันเป็นปัญหาของฉันเอง
เธอจะเรียนจบเมื่อไหร่ ?”
“ นายจะถามฉันไปทําไม ? ” ฮัวชิงหยุน ตอบด้วยน้ําเสียงเย็นชา
* ช่วงนี้ฉันต้องไปรอบโลก ฉันคิดว่ามีหลายที่ที่พวกเราสามารถไปด้วยกันได้ ” หยาง โปกล่าว
ฮัวชิงหยุนมองหน้าหยางโปนิ่ง “ ไม่พาเยว่เหยาของนายไปด้วยแล้วเหรอ ? ”
“ เยวเหยาเธอกลับไปแล้ว ” หยางโปตอบ “ เธอชอบเธอมากไม่ใช่เหรอ ? ”
“ ใครชอบเธอกัน ? ไม่ใช่นายเหรอที่ชอบเธอ !” ฮัวชิงหยุนเอ่ยออกมา “ ฉันรู้สึกว่านายนั่นแหละที่ชอบเธอจริงๆ หรือว่าเธอไม่คบกับนายแล้ว นายเลยเหงาใช่ไหม ? ถึงได้กลับมาหาฉัน ?”
“ ไม่ใช่ ” หยางโบส่ายหัว “ เราหาที่สักที่ เดี๋ยวฉันจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วงนี้ให้เธอฟังเองดีไหม ? ”
“ ฉันไม่อยากฟัง ฉันไม่สนใจ !” ฮัวชิงหยุนตอบกลับ
ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่เธอก็ยังเดินออกไปและหันไปพูดกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอ “ ฉันมีธุระสักหน่อยนะ ขอตัวออกไปก่อนนะ ทุกคนรีบกลับไปเถอะ ไม่ต้องรอฉันแล้ว”
หลิวหมิงหยุนมองตามหลังของฮัวชิงหยุนที่เดินจากไป ใจก็อยากจะไล่ตามไปแต่กลับไม่กล้า
เขาจึงต้องมองฮัวชิงหยุนเดินจากไปตาปริบๆแบบนี้
* ประธานหลิว คุณเป็นอะไร ? ถ้าเจอกับคู่แข่ง ต้องกล้าต่อสู้กับเขา คุณมั่นใจได้เลย พวกเราทุกคนจะอยู่ข้างคุณเอง !”
“ ประธานหลิวสู้ๆ ฉันคิดว่า ฉันยังมองว่าคุณมีดีอยู่ ชิงหยุนหน้าตาดีขนาดนี้ จะไปชอบผู้ชายธรรมดาๆแบบนั้นได้ยังไง ?”
“ ฉันคิดว่าเขาไม่ได้เป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป พวกเธอไม่ได้สังเกตเห็นเหรอ คนเมื่อสักครู่
ดูเหมือนจะเป็นคนที่สื่อกําลังรายงานข่าวอยู่ ที่ปกป้องสมบัติของชาติไว้บนเครื่องบินเมื่อเร็วๆ
“ พอนายพูดแบบนี้ ก็ดูเหมือนมากจริงๆ !”
“ เป็นเขา ดูเหมือนว่าฉันจะจําได้ว่าคนๆนั้นเป็นคนจินหลิง !”
หยางโปทั้งสามคน มองหาร้านน้ําชาแห่งหนึ่งและเข้าไปนั่งอีกครั้ง
หยางโปดื่มชาและอธิบายเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ที่ละเรื่องให้ฟังอย่างรอบคอบเมื่อ ได้ยินว่าอวี่เหวินได้รับบาดเจ็บ ผมและเคราเปลี่ยนเป็นสีขาว ฮัวชิงหยุนก็ตกใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่เคยพบกันมาก่อน แต่เธอก็รู้ว่าอวี่เหวินเป็นเหมือนเซียน
เมื่อได้ยินว่าหยางไปถึงประเทศญี่ปุ่นและได้เข้าไปในบ้านประธานของสมาคมอินากาวะ
ฮัวชิงหยุนถึงกับมีเหงื่อเย็นๆผุดออกมาแทนเขาเลย และยังได้ยินอีกว่าเขาได้พบกับที่ซ่องสุ่มมของพระโรคจิต เธอก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมา
สุดท้าย เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ล่าสุด และเมื่อเอ่ยถึงว่าได้ต่อสู้กับคนร้ายอย่างกล้าหาญบนเครื่องบิน ฮัวชิงหยุนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจไม่หยุด
เล่ามาจนท้องฟ้าเริ่มมืด หยางโปถึงจะเล่าจบ ลู่เจียเฟยมองดูหยางโปและกล่าวว่า
* ประสบการณ์ของนายเยอะมากจริงๆ”
ทางด้านฮัวชิงหยุนก็ชายตามองไปที่หยางโป “ เยว่เหยาจะยังกลับมาไหม ?”