ตอนที่ 231 เซ็นสัญญา / ตอนที่ 232 บังเอิญเจอ

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 231 เซ็นสัญญา 

 

 

ตึกใหญ่ของฮุยเถิงสูงสง่าและโอ่อ่า ตั้งอยู่ในเขตรุ่งเรืองทางการค้าใจกลางเมือง 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโดนแม่พามาส่งด้วยความหวังดี มองตึกสูงตั้งตระหง่านแล้วก็ตัวสั่น 

 

 

“อันหร่าน ฉันมาถึงด้านล่างตึกแล้ว” 

 

 

“โอเคๆ เดี๋ยวฉันลงไปรับเลย” 

 

 

อันหร่านเพิ่งประชุมตอนเช้าเสร็จ กินบิสกิตรองท้องไปสองชิ้นก่อนจะลงมารับซย่าเสี่ยวมั่ว 

 

 

“ฉันอยู่ชั้นหก ต่อไปเธอก็น่าจะอยู่ชั้นเดียวกับฉันเหมือนกัน” 

 

 

“เธอโดนซื้อตัวไปแล้วใช่ไหม ทำไมถึงดูมีมาดแบบนี้ล่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า 

 

 

อันหร่านมองคนที่โดนประจบก็ยังไม่รู้ตัวแล้วก็ได้แต่กลอกตา “เดี๋ยวเธอก็รู้เอง มีคนมารอในห้องทำงานฉันด้วย เรารีบเข้าไปกันเถอะ” 

 

 

เมื่ออันหร่านเปิดประตู ซย่าเสี่ยวมั่วก็เห็นคนที่นั่งอยู่ด้านใน ร้อง “อ้าว” ออกมาอย่างประหลาดใจ 

 

 

ฉินจานก็เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์มามองซย่าเสี่ยวมั่วเช่นกัน แต่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก ยื่นมือมาหาเธอ 

 

 

“ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้” 

 

 

“อีอีให้ฉันมาช่วยเซ็นสัญญาให้น่ะ เขาอยากได้ลิขสิทธิ์หนังสือเล่มที่แล้วของเธอ” 

 

 

“ต้องมานั่งรอฉันเลยเนี่ย ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนล่ะ ฉันเซ็นแล้วจะได้ส่งไปให้” ซย่าเสี่ยวมั่วรับหนังสือสัญญาในมือของเธอมา ยังไม่ทันได้ดูก็เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

อันหร่านเห็นว่าเป็นคนรู้จักของซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่ได้ดูเหินห่างเหมือนในตอนแรก นำเอกสารสัญญาที่เตรียมไว้มาวางข้างๆ ซย่าเสี่ยวมั่ว ก่อนจะเอ่ยหยอกล้อ “อันนี้ก็ไม่ต้องดูแล้ว เซ็นชื่อไปเลย” 

 

 

“เธอไม่กลัวว่าฉันจะเอาเธอไปขายหรือไง” ฉินจานเอาหนังสือสัญญาเคาะหัวเธอเบาๆ 

 

 

“กลัวสิ” ซย่าเสี่ยวมั่วหยิบสัญญาที่อันหร่านร่างไว้มาดูอย่างละเอียด ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก จึงเซ็นชื่อยินยอม 

 

 

“วันนี้ว่างไหม ถ้าว่างออกไปกินข้าวกัน” ฉินจานเสนอ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า “ต่อไปฉันต้องอยู่บริษัทยาวแล้ว เอาเวลาว่างวันสุดท้ายให้เธอเลย” 

 

 

อันหร่านพาเธอไปดูห้องทำงานและเรื่องอื่นๆ ที่ต้องระมัดระวังก่อนจะให้ซย่าเสี่ยวมั่วไปพักได้ “เอาล่ะ พรุ่งนี้มาให้ตรงเวลาด้วยล่ะ ตอนนี้ก็ไปได้แล้ว” 

 

 

“ได้เลย” ซย่าเสี่ยวมั่วเดินถอยออกมาจากห้องของตน ก็เห็นเซียวอู๋อี้ที่เดินลงมาจากบันไดพอดี 

 

 

ทั้งคู่สบตากัน แต่ก็ละสายตาออกราวกับคนไม่รู้จักกัน ก่อนจะพูดกับคนข้างๆ 

 

 

“เรื่องของเซียวอู๋อี้อย่าทำเกินไปนักนะ ถ้าเขายอมขอโทษ ก็ไม่ต้องยื่นฟ้อง” 

 

 

เมื่อกลับไปที่ห้องทำงานของอันหร่าน ซย่าเสี่ยวมั่วก็ยื่นข้อเสนอ 

 

 

อันหร่านยังไม่ทันค้านขึ้น ฉินจานก็ตบโต๊ะเสียก่อน “ไม่ได้! อย่าให้เขารังแกฟรีๆ สิ แต่ช่วงก่อนหน้านี้เขาได้ที่พึ่งเป็นคนของกระทรวงวัฒนธรรม เธอจะทำอะไรก็ปรานีหน่อยแล้วกัน เขาไม่ปล่อยเธอไปดีๆ หรอกนะ” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอึ้งกับอำนาจของเธอ 

 

 

ฉินจานให้ความรู้สึกอ่อนหวานและเอาแต่ใจเหมือนเด็กน้อย แต่ตอนนี้กลับจัดการเรื่องราวได้อย่างสงบเยือกเย็นเป็นราชินีไปโดยฉับพลัน 

 

 

“ได้” ซย่าเสี่ยวมั่วตอบรับอย่างเชื่อฟัง 

 

 

ฉินจานพาเธอไปนั่งคุยกันต่อที่ร้านกาแฟด้านนอก 

 

 

ยามนี้เป็นเวลาเข้างานพอดี คนในร้านจึงไม่เยอะนัก 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วปัดเชือกดึงที่แวววาวราวกับคริสทัลตรงขอบหน้าต่างมู่ลี่ไปมาอย่างเลื่อนลอย “ถ้าทำงานก็ไม่มีเวลาว่างแล้ว” 

 

 

ฉินจานสรุปปัจจัยในแต่ละด้านแล้วเตือนสติซย่าเสี่ยวมั่ว “เธออย่าเก็บเรื่องอื่นเอามาใส่ใจนักนะ ระวังการเคลื่อนไหวของเซียวอู๋อี้ให้ดี แล้วก็ระวังศัตรูใกล้ตัวด้วย” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมึนงง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสั่งกำชับตัวเองเช่นนี้ “ฉันระวังอยู่แล้วล่ะน่า” 

 

 

“เธอระวังไว้ก็ดีแล้ว” ฉินจานพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างคลุมเครือ “อย่าโดนคนจับตัวไปซะล่ะ” 

 

 

“ฉันไม่มีราคาอะไรสักหน่อย” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกแปลกๆ ใครจะว่างถึงขนาดมาจับตัวเธอล่ะ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 232 บังเอิญเจอ 

 

 

“จริงๆ นะ” ฉินจานพูดในสิ่งที่สามีฝากมาบอกหมดแล้ว แต่จู่ๆ จะให้ตนบอกซย่าเสี่ยวมั่วว่า 

 

 

‘เหยียนเค่อชอบเธอ’ เลยก็ไม่ได้ คู่แค้นของเขาจ้องเล่นงานอยู่ ทำได้เพียงยกตัวอย่างมาขู่ให้เธอกลัวเท่านั้น 

 

 

“ก็ได้ๆ ฉันจะจำให้ขึ้นใจเลย” ซย่าเสี่ยวมั่วรับประกัน 

 

 

หลังของเหยียนเค่อไม่ได้บวมเหมือนวันแรกแล้ว แต่เป็นรอยช้ำเขียวม่วงเต็มไปหมด ดูจากสีแล้วเหมือนว่าจะหนักกว่าตอนแรกเสียอีก 

 

 

ฉินซื่อหลานกลายเป็นเด็กทายาอย่างอดทนอดกลั้น ก่อนจะพูดค่อนแคะ “แล้วนายก็ไม่ให้พยาบาลสาวสวยมาทายาให้อีก ไม่ใช่เรื่องเลย” 

 

 

แต่ก็ไม่มีคนตอบกลับเขา ทั้งคู่ต่างก็นอนฟุบหลับสนิทอยู่บนเตียง 

 

 

สวีอันหรานกำลังวุ่นกับการจัดการเรื่องหลังพิธีหมั้น แถมยังต้องน้อมรับคำพูดเยาะเย้ยอันไพเราะของสวีรั่วชีและคำพูดตำหนิติเตียนของคุณพ่ออีกต่างหาก 

 

 

เซ่าหมิงฟ่านกำลังบัญชาการ YAN อยู่ เขาจัดการงานทั้งหมดในช่วงหลายวันมานี้ของ 

 

 

เหยียนเค่อให้หมดแล้ว แถมตอนกลางคืนยังต้องสะสางเอกสารของทางอเมริกาอีกด้วย งานยุ่งทั้งวันทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอน 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินช่วยงานอะไม่ได้เลย ใช้ชีวิตด้วยการกินแล้วนอน นอนแล้วกินกับเหยียนเค่ออย่างสุขสบาย 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วและฉินจานยังคุยกันอยู่ ก็เห็นร่างคนที่คุ้นเคยเดินผ่านไปด้านนอกกระจกร้าน 

 

 

ฉินจานเองก็เห็นเช่นกัน สีหน้าท่าทางไม่ชอบใจ 

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งมองฉินจานที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างกับผู้หญิงที่ไม่รู้สถานะ เธอจัดผมตัวเองก่อนจะเดินเข้ามาในร้าน มาจนถึงโต๊ะของพวกเธอแล้วยิ้มให้ฉินจานเบาๆ “สวัสดีค่ะคุณฉิน” 

 

 

“ฉันคือคุณนายซูค่ะ” ฉินจานมือหนึ่งเท้าคาง โปรยยิ้มตอบกลับ 

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งเองก็ไหลไปตามน้ำ “คุณนายซูมาคุยงานที่นี่เหรอคะ” 

 

 

ซูอี้รักภรรยาของเขาคนนี้มาก ตนต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเสียก่อน 

 

 

“เรื่องส่วนตัวค่ะ” ฉินจานยกมือขึ้นเป็นเชิงให้เขามองมาที่ซย่าเสี่ยวมั่ว “นี่เพื่อนสนิทฉัน” 

 

 

ตอนอยู่ด้านนอกสวีอิ๋งอิ๋งยังไม่มั่นใจนัก แต่ตอนนี้ดูแล้วก็เป็นซย่าเสี่ยวมั่วจริงๆ ปิดปากแสร้งหัวเราะ “นี่คือผู้หญิงคนที่ขึ้นไปบนเวทีกับเหยียนเค่อไม่ใช่เหรอคะ” ก่อนจะยื่นมือออกมาแนะนำตัวเอง “ฉันเป็นคู่หมั้นของเหยียนเค่อ สวีอิ๋งอิ๋งค่ะ ยินดีที่ได้พบ” 

 

 

“สวัสดีค่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วจับมือกับเธอเบาๆ ก่อนจะรีบปล่อย รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ 

 

 

ฉินจานคาดว่าเธอคงไม่ได้มีแผนอะไร “ไม่ทราบว่าคุณสวีมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ นัดคนไว้เหรอคะ” 

 

 

“เปล่าค่ะ เห็นคุณนายซูอยู่ที่นี่ก็เลยเข้ามาหา คุณนายซูไม่ต้อนรับฉันเหรอคะ” สวีอิ๋งอิ๋งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ 

 

 

“ฉันไม่ใช่เจ้าของร้านสักหน่อยนี่คะ จะบอกว่าต้อนรับหรือไม่ต้อนรับได้อย่างไรล่ะคะ” ฉินจานคนกาแฟด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนใดๆ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วได้มองสวีอิ๋งอิ๋งใหม่อีกครั้ง ให้ความรู้สึกที่คาดไม่ถึง 

 

 

เมื่อวานมองแล้วก็ถือว่าเป็นคนหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง รูปร่างไม่เลวเลยทีเดียว แต่วันนี้เธอสวมชุดเดรสกระโปรงยาวที่ทำจากผ้าฝ้าย ทำให้ไม่มีแม้กระทั่งเอว หน้าอกหน้าใจที่เป็นจุดเด่นดูแย่ลงไปทันที เทียบกับฉินจานแล้ว เรียกว่าดูไม่ได้เลย 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วละสายตา มองดูชุดเดรสกันลมแขนสั้นยาวเลยเข่าของตนเองแล้ว ก็ถือว่าดูดีใช้ได้อยู่ แอบค่อนแคะในใจ เหยียนเค่อรีบร้อนแต่งงานขนาดที่ว่าไม่ดูรูปลักษณ์ภายนอกเลยหรือไงนะ เสียสติไปแล้วจริงๆ 

 

 

คนที่นอนเจ็บไม่รู้อีโหน่อีเหน่อยู่ในโรงพยาบาลจามติดกันอยู่หลายที 

 

 

“นายคงไม่ได้เป็นหวัดหรอกนะ” 

 

 

“เปล่า จู่ๆ ก็รู้สึกคันจมูกน่ะ ไปเปิดหน้าต่างให้ที กลิ่นน้ำหอมบนตัวของผู้หญิงคนนั้นฉุนเกินไป”  

 

 

เหยียนเค่อพูดเสียงอู้อี้ 

 

 

ในยามเช้าตรู่วันนี้ เสิ่นจิ้งเฉินก็ได้รู้ว่า พยาบาลสาวสวยใช้วิธีอ่อยผู้ชายแบบเรียบร้อยอย่างไร แม้แต่คนที่ขึ้นวอร์ดยังไม่ซ้ำหน้ากันเลย เข้ามาตรวจเฉลี่ยครึ่งชั่วโมงหนึ่งคน 

 

 

“ให้ฉินซื่อหลานเอาพวกเขาไปเก็บให้หมด” เหยียนเค่ออารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก 

 

 

กลิ่นของน้ำหอมเกรดต่ำลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ทำเอาเขาจามติดต่อกันอีกหลายครั้งจนคอแห้งหมดแล้ว