ตอนที่ 1614 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (1)
“กู่อิ่งออกจากสำนักธาราเมฆแล้วขอรับ” เย่ฉาพูด
ตอนที่เทียนเจ๋อส่งกู่อิ่งออกไป เขากับเย่กูซ่อนตัวอยู่ในเงามืด และเห็นกับตาว่ากู่อิ่งเดินออกจากประตูของสำนักธาราเมฆไปแล้ว
“ออกไปแล้ว?” จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย [กู่อิ่งไปง่ายๆแบบนี้เลยหรือ?]
เมื่อได้เจอกู่อิ่งอีกครั้ง จวินอู๋เสียอดรู้สึกไม่ได้ว่าเรื่องมันง่ายเกินไป ตั้งแต่ตอนที่กู่อิ่งปรากฏตัวจนกระทั่งจากไป ทุกอย่างปกติมากจนรู้สึกแปลกๆ มันไม่เหมือนนิสัยของเขาเลย ในความคิดของจวินอู๋เสีย ทุกครั้งที่เจอกู่อิ่ง มันมักจะมาพร้อมกับเลือดและความตายเสมอ แต่ครั้งนี้ทุกอย่างสงบสุขมาก มันไม่เพียงไม่ทำให้นางสบายใจ แต่กลับทำให้นางรู้สึกเครียดมากขึ้น
“มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากเขากลับไปรึเปล่า?” จวินอู๋เสียถาม
เย่ฉาส่ายหน้า “เราตามเขาไปแค่ที่ประตูเท่านั้นขอรับ ไม่ได้ตามต่อหลังจากนั้น”
เป้าหมายหลักของเย่ฉาและเย่กูคือดูแลความปลอดภัยของจวินอู๋เสีย คนในสำนักธาราเมฆไม่ได้มีแค่คนจากสิบสองวิหาร ยังมีศิษย์ของเก้าอารามจากรุ่นก่อนๆอยู่จำนวนหนึ่งด้วย พวกเขาไม่กล้าอยู่ห่างจากจวินอู๋เสียมากเกินไป จึงตัดสินใจที่จะไม่ตามกู่อิ่งต่อ
จวินอู๋เสียก้มหน้าคิด การปรากฏตัวของกู่อิ่งทำให้นางรู้สึกว่าเรื่องจะไม่จบง่ายๆ
เย่กูเอาแต่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่จู่ๆก็ดูเหมือนเขาจะตรวจจับอะไรบางอย่างได้ สายตาของเขาหันไปมองนอกหน้าต่างทันที
“เย่กู?” จวินอู๋เสียสังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเย่กู
เย่กูเลิกคิ้วและพูดว่า “มีผู้บุกรุก”
“ใคร?” จวินอู๋เสียถามทันที
“ยังไม่รู้แน่ชัด แต่แน่ใจอยู่อย่างหนึ่ง พวกนั้นไม่ใช่คนของสำนักธาราเมฆ ตอนที่คุณหนูเข้าสำนักธาราเมฆ ข้ากับเย่ฉาได้สัมผัสปราณของทุกคนที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้ที่นี่มีปราณแปลกๆที่ไม่คุ้นเคยอยู่เป็นจำนวนมาก” เย่กูหรี่ตา มีพลังวิญญาณที่ไม่คุ้นเคยอยู่หลายคน แต่ไม่ได้รวมอยู่ที่เดียวกัน การปรากฏตัวอย่างกระทันหันของคนจำนวนมากในสำนักธาราเมฆทำให้เขารู้สึกระแวงขึ้นมา
จวินอู๋เสียเองก็รู้สึกได้ว่ามีสิ่งผิดปกติเช่นกัน “พวกนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?”
เย่กูเงียบลงและส่งสัมผัสรับรู้ออกไป จากนั้นก็พูดว่า “ทุกคนคือผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสามขึ้นไป มีประมาณ 20 กว่าคน สองสามคนในนั้นไปถึงขั้นพลังวิญญาณสีเงินแล้ว”
พลังของเย่กูแข็งแกร่งกว่าเย่ฉามาก นั่นคือเหตุผลที่เย่กูสัมผัสถึงผู้บุกรุกได้ก่อนเย่ฉานั่นเอง
“พลังวิญญาณสีเงิน?” จวินอู๋เสียตกใจเล็กน้อย นางคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่ผู้บุกรุกพวกนี้จะเกี่ยวข้องกับกู่อิ่ง แต่เย่กูบอกว่ามีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินอยู่ในหมู่คนพวกนั้นด้วยงั้นหรือ?
ทั่วทั้งสิบสองวิหาร มีเพียงประมุขของวิหารต่างๆเท่านั้นที่สามารถไปถึงขั้นพลังวิญญาณสีเงิน และประมุขวิหารคงไม่เอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงแบบนี้แน่
กู่อิ่งเป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งของวิหารมารโลหิต ต่อให้เขาอยากลงมือทำอะไร แต่เขาจะสามารถโน้มน้าวให้ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินทำตามคำสั่งเขาได้อย่างไร? และจากที่เย่กูพูด คนกลุ่มนี้มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินมากกว่าหนึ่งคน ถ้าวิหารมารโลหิตมีผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงินอยู่มากกว่าสองคน ทำไมพวกเขาต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับวิหารปีศาจเพลิงมานานหลายปีและยังไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจนแบบนี้?
ยิ่งกว่านั้น พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสาม สำหรับวิหารไหนก็ตามล้วนมีค่าสูงถึงขั้นได้เป็นระดับผู้อาวุโส หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน คงไม่มีวิหารไหนในสิบสองวิหารจะส่งผู้ที่มีพลังระดับนี้ออกมาในครั้งเดียวเช่นนี้ มันน่ากลัวเกินไป!
นี่มันน่าจะเป็นพลังเกือบทั้งหมดของพวกเขาเลย ทำไมจู่ๆวิหารมารโลหิตถึงอยากทำอะไรที่รุนแรงเช่นนี้?
ข้อมูลที่เย่กูบอกจวินอู๋เสียทำให้นางไม่สามารถระบุตัวตนหรือที่มาของคนกลุ่มนี้ได้