ตอนที่ 1624 งั้นก็ทิ้งมันไว้นี่

Monster Paradise

ตอนที่ 1624 งั้นก็ทิ้งมันไว้นี่

 

ควันและฝุ่นโชยจากทุกมุมของเขตแดนเทพใต้สวรรค์

 

การปะทะนี้ระหว่างใต้สวรรค์กับนักล่าตระการตามาก

 

แต่ทว่า หลินฮวงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมอง

 

สถานการณ์ใต้สวรรค์ไม่สู้ดี

 

ไม่ว่ามันจะเป็นพลังกาย พลัง หรือความเร็ว นักล่ายังเหนือกว่า

 

นอกจากนี้ รูปแบบการต่อสู้มันเป็นไปตามสัญชาตญาณ แม้กระทั่งตอนพบเทคนิคที่มันไม่เคยเห็น มันก็สามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยํา

 

สำหรับใต้สวรรค์ ถึงแม้เขาจะเปิดก่อนและไม่เก็บรั้ง เขาก็ค่อยๆเสียเปรียบ จังหวะต่อสู้ของเขาเริ่มได้รับผลกระทบ

 

สีหน้าของใต้สวรรค์กลายเป็นจริงจังมากขึ้น

 

ตั้งแต่ต้น เขาไม่ทําผิดพลาดอย่างการประมาทเลย แต่ทว่า หลังปะทะกัน เขาตระหนักว่า นักล่าทรงพลังกว่าที่เขาคิดไว้มาก

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกสามารถเห็นทั้งสองสู้กันได้ท่ามกลางฝุ่นและควัน และดูเหมือนจะสูสี

 

แต่ทว่า หลินฮวงเห็นชัดกว่าคนอื่น

 

ความสามารถโดยรวมของนักล่าทรงพลังกว่าใต้สวรรคต์มาก แต่ความสามารถมันมีจํากัด

 

ข้อได้เปรียบของใต้สวรรค์คือเขตแดนเทพเขา มันทําให้พลังเทวะของเขาลดน้อยมาก

 

ตราบเท่าที่เขาสู้อย่างมั่นคงโดยไม่ทําผิดพลาดและไม่ปล่อยให้ศัตรูทําลายจังหวะ เขาจะล้มไม่

 

นักล่าจะคงอยู่ในโลกวัตถุได้ไม่นาน ยิ่งการต่อสู้ยื้อ มันยิ่งเสียเปรียบ

 

เดิมหลินฮวงคิดว่าใต้สวรรค์จะรู้เรื่องนี้

 

แต่ทว่า เขาไม่คิดว่าใต้สวรรค์จะเสียจังหวะตั้งแต่ต้น

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ และนักล่าได้รับการควบคุมจังหวะใต้สวรรค์จะหมดโอกาสพลิกเกม

 

ในฐานะคนดู หลินฮวงรู้สึกวิตกแทน

 

แต่ทว่า ร่างกายของใต้สวรรค์อยู่ในเขตแดนเทพของเขา เขาไม่อาจสัมผัสอะไรในโลกภายนอก

 

ถ้าไม่ใช่เพราะภาพฉายเต่สวรรค์ พวกหลินฮวงคงไม่เห็นอะไรเลย

 

ภายในเขตแดนเทพ การต่อสู้ระหว่างทั้งสองยิ่งน่าเป็นห่วง

 

ใต้สวรรค์ค่อยๆเสียเปรียบ ส่วนสมาชิกเคียวโลหิตก็เริ่มมองออก พวกเขาเริ่มคุยกันอย่างวิตก

 

“ตอนนี้ มันชัดเจนว่าเขาได้เปรียบ ทําไมจู่ๆนักล่าถึงเหนือกว่ามาได้?”

 

“ความสามารถของนักล่านั้นทรงพลังกว่าใต้สวรรค์ตั้งแต่เริ่ม และตอนนี้มันก็เป็นฝ่ายควบคุมจังหวะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าใต้สวรรค์คงล้มเหลว”

 

“มันไม่เกี่ยวกับว่านักล่าทรงพลังแค่ไหน ใต้สวรรค์หุนหันพลันแล่นไปและมอบโอกาสให้ศัตรู ความจริงคือ เขามักกุมความได้เปรียบเพราะเขาอยู่ในเขตแดนเทพ เขาสามารถล้มนักล่าได้โดยการถ่วงเวลาเฉยๆ”

 

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ชมสามารถเห็นสถานการณ์ได้ชัดกว่าเล็กน้อย การประเมินสถานการณ์ของสมาชิกเคียวโลหิตเหมือนกับหลินฮวงในก่อนหน้านี้

 

น่าเสียดาย ใต้สวรรค์ไม่ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน

 

ขณะที่พวกเขายังคุยกัน การปะทะระหว่างทั้งสองในเขตแดนเทพก็ถึงช่วงสุดท้าย

 

ใต้สวรรค์ถูกส่งลอยออกไปโดยการโจมตีของนักล่าตาเดียว บดขยี้ดาวไปหลายดวง

 

การพูดคุยท่ามกลางสมาชิกเคียวโลหิตหยุดลงทันทีที่พวกเขาเห็น พวกเขาจ้องมันด้วยสายตาเป็นกังวล

 

หลินฮวงเป็นคนเดียวที่เลิกคิ้ว

 

ใต้สวรรค์แพ้ในกระบวนท่าแรก

 

แต่ทว่า นี่ก็อาจเป็นโอกาสให้ใต้สวรรค์ได้ปรับสมดุล

 

หลินฮวงสังเกตเห็นว่าขณะที่ใต้สวรรค์ดูเหมือนจะถูกส่งลอยออกไป ในความเป็นจริง เขาได้ตั้งท่าป้องกันในวินาทีสุดท้ายและเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

 

นอกจากนี้ เขาได้ใช้ผลกระทบของการโมตีเพื่อออกจากการต่อสู้ชั่วคราว บางทีเขาคงอยากซื้อเวลาให้ตัวเองตั้งสติใหม่

 

ยอดฝีมือตัวจริงไม่เพียงจะมีความสามารถสูงล้ํา แต่ยังต้องมีไหวพริบ

 

หลินฮวงรู้สึกว่าใต้สวรรค์มีพรสวรรค์เช่นนั้น

 

เหมือนกับที่หลินฮวงคิด ใต้สวรรค์ทบทวนการต่อสู้ในหัวอย่างรวดเร็ว

 

ความจริงคือ เขายอมโดนศัตรูชัดปลิว

 

เขาแค่อยากออกจากการต่อสู้ชั่วคราว เพื่อให้เขาได้ใช้มุมมองของคนดูและหาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน

 

มันกินเวลาแค่ชั่วขณะสําหรับการทบทวน

 

เขาพลันตระหนักถึงปัญหาหลังดูการต่อสู้ทั้งหมดในฐานะผู้สังเกต

 

“ข้ารีบเอาชนะมันเกินไป.”

 

ใต้สวรรค์ยิ้มออกมาหลังพบรากเหง้าปัญหา

 

เขารู้สึกว่าในกระบวนท่าต่อไป เขาจะสามารถคว้าชัยชนะได้แน่

 

นักล่าไม่รู้ว่าใต้สวรรค์กําลังคิดอะไร มันแค่สันนิษฐานว่ามันเหนือกว่า

 

มันไม่ตั้งใจมอบโอกาสให้ใต้สวรรค์ตั้งตัว ทันทีที่มันส่งใต้สวรรค์บินออกไป มันก็กระโดดและไล่ตามใต้สวรรค์ไป

 

วินาทีที่มันตามทันและเตรียมปล่อยการโจมตีใส่ มันก็สังเกตเห็นรอยยิ้มสงบของใต้สวรรค์รวมถึงลูกเตะที่เขาเตรียมรอไว้แล้ว

 

ในชั่วพริบตา รังสีแสงนับล้านก็ยิ่งออกจากเท้าขวาของใต้สวรรค์ เล็งตรงไปที่ตาของมัน

 

มุมของการโจมตีนั้นลอบเร้นมาก มันยังเร็ว แม่นยําและดุดัน!

 

นักล่ารีบใช้มือมันขวางการโจมตี

 

จากนั้นมันก็ถูกลูกเตะของใต้สวรรค์ส่งลอยออกไป

 

แทบจะทันที โซ่สีทองนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาเหมือนงูเหลือมฉกใส่นักล่า

 

ใต้สวรรค์เข้าใจแล้วว่าในสภาพนี้ เขาไม่ได้ครอบครองแค่เทคนิคบ่มเพาะสายต่อสู้

 

เขาควบแน่นโซ่เหล่านี้โดยการใช้พลังลําดับเทพของบัญญัติเทพเขา

 

เขาไม่ต้องให้โซ่เหล่านี้ทําร้ายนักล่า ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือใช้พวกมันสกัดการเคลื่อนไหวมันไว้สักพัก ซึ่งก็พอจะส่งผลต่อสถานการณ์

 

ขณะดูนักล่าพยายามปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ ใต้สวรรค์ก็ไม่เร่งรีบจู่โจม

 

เขากลับสร้างโซ่มากขึ้น จากนั้นก็หาโอกาสโจมตี

 

ภายในเวลาอันสั้น เขาก็ควบคุมเกมได้ใหม่

 

“หลังจากนี้ควรเสถียรแล้ว” หลินฮวงพยักหน้า

 

ใต้สวรรค์ในตอนนี้ต่างออกไปอย่างสมบูรณ์หลังตั้งสติ

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกที่เดิมรู้สึกเป็นกังวลกลายเป็นยินดีขึ้นมา

 

มันราวกับพวกเขาเห็นได้ว่าใต้สวรรค์นั้นใกล้จะได้เป็นจ้าวเทวะแล้ว

 

แต่ทว่า ตอนสถานการณ์ในเขตแดนเทพดีขึ้นและใต้สวรรค์ยึดจังหวะการต่อสู้ คลื่นพลังงานผิดปกติก็มาจากหลุมดําใกล้ๆ

 

หลินฮวงสัมผัสได้ถึงมันและหันไปมอง

 

เขาเห็นวังวนมิติปรากฏภายในหลุมดํา มันแทบจะผสานเข้ากับหลุมดําตอนมันปรากฏและยากจะมองด้วยตาเปล่า

 

พอหลินฮวงมองไป เขาก็เห็นฝ่ามือเนียน ไร้ที่ติยื่นออกจากวังวน ท่วมท้นไปด้วยพลังหาใครเทียบ มันพุ่งใส่ภาพฉายของเตสวรรค์

 

ทันทีที่ฝามือปรากฏ สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกก็โจมตีโดยไม่ลังเล ตั้งใจขวางการโจมตี

 

ต้องขอบคุณผลของผนึกเต๋ที่แตก พลังของสมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกนั้นเหนือกว่าเทพสวรรค์มาก

 

การโจมตีนั้นผสานไปด้วยพลังลําดับเทพกว่าร้อยสาย

 

ต่ําสุดคือสร้อยสาย สูงสุดคือเจ็ดร้อย

 

พอทั้งหกผนึกกําลังกัน พลังอันยิ่งใหญ่ก็ได้ปะทะกับฝ่ามือ

 

แต่ทว่า ฝ่ามือได้ทําลายการโจมตีของสมาชิกเคียวโลหิตทีละหนึ่ง ความเร็วมันลดลงเล็กน้อย มันยังหมายมั่นที่จะไปหาใต้สวรรค์

 

“ในเมื่อเจ้าไม่อยากมีมือข้างนี้อีก งั้นก็ทิ้งมันไว้นี่แหละ!”

 

หลินฮวงพึมพําเสียงเบาราวกับกําลังพูดกับตัวเอง ทันทีทันใด ดาบใบแคบก็ปรากฏในมือเขา แต่โดยที่ไม่มีใครเห็นเขาชักดาบ เขาก็ได้เก็บดาบกลับเข้าฝักแล้ว

 

ในระยะไกล คลื่นดาบสีแดงเลือดได้ตวัดผ่านฝ่ามือยักษ์ไป

 

ฝ่ามือที่หยุดยั้งไม่ได้หยุดชะงักกลางคันราวกับมันโดนหยุดเวลา