ตอนที่ 1625 การยกระดับของใต้สวรรค์

Monster Paradise

ตอนที่ 1625 การยกระดับของใต้สวรรค์

 

บุคคลที่โจมตีมาเห็นได้ชัดว่าเป็นจ้าวเทวะ

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกไม่อาจต้านทานการโจมตีได้แม้จะผนึกกําลังกัน

 

ถ้าฝ่ามือยักษ์นั่นฟาดใส่เขตแดนเทพของใต้สวรรค์ มันอาจทําลายเขตแดนเทพไป

 

เมื่อเขตแดนเทพของใต้สวรรค์เสียหาย นักล่าก็จะหลบหนีไปได้

 

เนื่องจากเขตแดนเทพคือเขตอิทธิพลของใต้สวรรค์ สําหรับนักล่า สถานที่เดียวที่จะสู้ได้อย่างยุติธรรมคือนอกเขตแดนเทพ

 

ทันทีที่นักล่าหลบหนีออกจากเขตแดนเทพได้ใต้สวรรค์จะเสียเปรียบ

 

แม้ผนึกเต๋าของเขาจะก่อตัวแล้ว และเขาสามารถกระตุ้นบัญญัติเทพด้านนอกเขตแดนเทพได้พลังเทพภายในตัวของเขาก็จะไม่ไร้ขีดจํากัดเหมือนในนี้

 

ในเขตแดนเทพของเขา อย่างน้อยเขาก็สามารถทําให้นักล่าเหนื่อยจนตายได้ แต่ทว่า ด้านนอกเขตแดนเทพนักล่าน่าจะทําให้เขาเหนื่อยมากกว่า

 

นอกจากนี้ เมื่อนักล่าหนีออกไป ใต้สวรรค์จะไม่มีทางเลือกนอกจากตามไป เมื่อเขาทําแบบนั้น เขาจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของจ้าวเทวะ

 

นั่นทําให้พวกหลินฮวงอยากหยุดฝ่ามือยักษ์นั้น

 

แม้การโจมตีของสมาชิกเคียวโลหิตจะไร้ผล หลินฮวงก็ลงมือทัน หยุดยั้งการโจมตีของศัตรูไว้

 

ในความเป็นจริง เขาไม่เต็มใจแสดงความสามารถจริงต่อหน้าสมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกเลย เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ได้สนิทกับใคร เขาไม่รู้นิสัยคนเหล่านี้ และไม่รู้ว่ามีสายของพวกไรเดอร์ซ่อนตัวในหมู่หกคนนี้ไหม

 

แต่ทว่า เขาไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ลงมือ มันก็มีโอกาสสูงที่ใต้สวรรค์จะล้มเหลว

 

ภายในวังวนมิติภายในหลุมดํา ยอดฝีมือจ้าวเทวะที่พยายามลอบจู่โจมถอนแขนกลับ หมุนตัว และหลบหนีไปหลังการโจมตีล้มเหลว มันไม่คิดเก็บมือที่ขาดด้วยซ้ํา

 

จากการปะทะครั้งเดียว มันก็รู้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินฮวง ในความเป็นจริง มันกลัวว่าหลินฮวงจะฆ่ามันตรงนั้นด้วยซ้ํา

 

“หนีเร็วจริงๆ” หลินฮวงสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายหนีไปแล้ว

 

เขาไม่ไล่ตาม เพราะหนึ่ง เขากังวลว่าศัตรูอาจวางแผนไว้ พอเขาไล่ตาม จ้าวเทวะอีกคนอาจโจมตีใต้สวรรค์ และสอง เขารู้สึกว่าเขาไม่อาจตามทัน หลุมดํานั้นไม่มั่นคง ต่อให้เขาตามไป มันก็มีโอกาสสูงที่พิกัดมิติจะโดนบิดเบือน

 

หลินฮวงรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนความสามารถจริงของเขาจะเปิดเผยออกหมา

 

เขาสามารถปิดบังมันได้สักพัก แต่ไม่มีวันทําได้ตลอด

 

เทียบกับแต่ก่อน ตอนนี้ เขาไม่กลัวว่าตัวตนจะโดนเปิดเผยอีก เหนือสิ่งอื่นใด เขามีความสามารถทัดเทียมกับจ้าวเทวะแล้ว

 

พอดูมือขาดที่ลอยในอากาศ สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกก็ผงะ พวกเขาต่างหันไปมองหลินฮวง

 

พวกเขารู้ว่าหลินฮวงคืออัจฉริยะที่มีความสามารถโดดเด่น เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้ลอบสังหารสองแฝด เซินอวี่กับเซินเจวี๋ย

 

แต่ทว่า ในสายตาพวกเขา ชายที่ชื่อซิวมู่ก็เป็นแค่ผู้เยาว์ มากสุด เขาก็คงเป็นแค่ปลาที่ตัวโตขึ้นมาหน่อยในบ่อน้ํา

 

เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าเทพสวรรค์จะทรงพลังสักแค่ไหน บัญญัติเทพพวกเขาก็จะมีผลแคในเขตแดนเทพ ด้านนอกเขตแดนเทพนั้น มันไร้ประโยชน์

 

แต่ทว่า ตอนนี้ ทั้งหกตระหนักว่าพวกเขามองผิด

 

หลินฮวงได้สะกดจ้าวเทวะไว้ด้วยตัวคนเดียว!

 

ถ้าไม่ใช่ความจริงที่การโจมตีพวกเขาโดนสกัดไว้ง่ายๆ ทั้งหกอาจกังขาถึงความสามารถของผู้ลอบโจมตี แต่ทว่า พวกเขาได้โจมตีสุดแรงไปแล้วก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่อาจหยุดยั้งมันได้

 

แต่ทว่า หลินฮวงนั้นไม่เพียงจะหยุดการโจมตีได้ แต่เขายังตัดมือของอีกฝ่ายได้

 

ความต่างในความสามารถนั้นชัดเจน

 

“เจ้าเป็นจ้าวเทวะแล้ว?!”เกาหมิงอดถามไม่ได้

 

จริงๆแล้ว อีกห้าก็คิดแบบเดียวกัน

 

เหนือสิ่งอื่นใด ความรู้ในสมองพวกเขาคือมีแค่จ้าวเทวะถึงสู้จ้าวเทวะได้

 

“ยัง” หลินฮวงส่ายหัว เขาไม่ได้บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ขั้นไหน เขาคิดว่ามันไม่จําเป็น

 

“เป็นไปได้ไงกัน?”โลหิตไร้ขอบเขตไม่อยากเชื่อหู” บัญญัติเทพของเทพสวรรค์จะใช้ได้ภายในเขตแดนเทพของตัวเองเท่านั้น พลังลําดับเทพที่พวกเขาใช้ได้ในโลกภายนอกจะไม่ได้รับการเสริมพลัง การโจมตีก่อนหน้าของเจ้ามีพลังลําดับเทพนับหมื่นสาย มันจะเป็นไปได้ไงกัน?!”

 

“ทําไมข้าถึงจําเป็นต้องเสริมพลัง?ข้าไม่สามารถเชี่ยวชาญพลังลําดับเทพกว่าหมื่นสายได้หรือ?” หลินฮวงโต้กลับ

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกคิดว่าหลินฮวงพูดพล่ามไร้สาระ

 

ต้องรู้ว่าเทพสวรรค์ที่มีไหวพริบทั่วไปนั้นจะต้องใช้เวลาเป็นหมื่นปีเพื่อทําความเข้าใจห่วงโซ่ลําดับเทพสักสาย ต่อให้เป็นอัจฉริยะหนึ่งในล้าน พวกเขาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยร้อยปี

 

ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงเป็นแค่อัจฉริยะหน้าใหม่ ตามการสืบสวนของเคียวแห่งความตาย เขาอาจอายุไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ํา โดยธรรมชาติ เขาไม่อาจครอบครองห่วงโซ่ลําดับเทพหมื่นสายได้

 

มันยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นจ้าวเทวะแล้ว!

 

สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกรีบสงบลงตอนพวกเขาจําถึงข้อมูลตัวตนของหลินฮวงได้

ทั้งหกมีความคิดเดียวกันว่าหลินฮวงต้องใช้เทคนิคพิเศษบางอย่างเช่นการหยิบยืมพลังของผู้ยิ่งใหญ่ นั่นทําให้เขาหยุดฝามือของจ้าวเทวะได้

 

นั่นน่าจะเป็นคําอธิบายที่สมเหตุสมผลสุดแล้ว

 

นอกจากนี้ หลินฮวงยังเคยหยุดการโจมตีของกิ่งจ้าวเทวะระหว่างการลอบสังหารสองแฝด และเทคนิคที่เขาใช้ตอนนั้นก็น่าจะไม่ใช่พลังของเขาเอง

 

สมาชิกเคียวโลหิตยิ่งมั่นใจว่าหลินฮวงต้องมีไพ่ตายที่ทิ้งไว้โดยผู้ยิ่งใหญ่

 

หลังพวกเขาคิดถึงตอนนี้ สมาชิกเคียวโลหิตทั้งหกก็หายจากอาการตกใจและกลับสู่ท่าทางปกติ

 

พอเห็นว่าหลินฮวงดื้อรั้น ปฏิเสธไม่ยอมพูดความจริง พวกเขาก็ไม่สืบสาวต่อ

 

ในทางกลับกัน หลินฮวงไม่รู้ว่าทั้งหกคิดอะไรอยู่ ในเมื่อพวกเขาหยุดถาม เขาเองก็ไม่คิดจะอธิบาย

 

เขาปล่อยด้ายพลังจิตและขดมันรอบมือที่ขาด จากนั้นก็ดึงมือกลับมาเก็บไว้

 

สักพักเขาก็หันไปมองใต้สวรรค์ต่อ

 

ทั้งหกไม่พูดอีก พวกเขามองภาพฉายของเขตแดนเทพเงียบๆ

 

ในเขตแดนเทพ การต่อสู้ระหว่างใต้สวรรค์กับนักล่ายิ่งทวีความรุนแรง

 

ใต้สวรรค์ยิ่งได้เปรียบและก็ยึดจังหวะการต่อสู้ไว้หมดแล้ว

 

ทุกการโจมตีของเขาถูกปล่อยออกไปเต็มกําลังโดยไม่มีการออมแรง

 

แม้กระทั่งในการป้องกัน เขาก็แค่ป้องกันจุดสําคัญ

 

เขาเหมือนปีศาจคลุ้มคลั่ง

 

พวกหลินฮวงอดอุทานด้วยความชื่นชมไม่ได้

 

นิศเดนเทพ มันไม่จําเป็นต้องกังวลถึงการผลาญพลังหรือบาดแผลเล็กน้อย

 

ในทางกลับกัน พลังเทวะในตัวของนักล่าลดลงเรื่อยๆ

 

ตอนนักล่าเข้าสู่โลกวัตถุ มันก็โดนยับยั้งไว้โดยตัวโลกเอง

 

ก่อนได้รับผนึกเต๋ พวกมันไม่อาจสําแดงพลังในโลกนี้ได้เลย ยิ่งพวกมันใช้พลังงานในตัว มันก็ยิ่งลด

 

การต่อสู้ระหว่างใต้สวรรค์กับนักล่ากินเวลาเกือบสามวันสามคืนก่อนจบลง

 

สุดท้ายนักล่าก็หมดแรวงและล้มลง ก่อนโดนใต้สวรรค์ฆ่าตาย

 

หลังนักล่าตาย ผนึกเต๋ของใต้สวรรค์ก็ดูดซับจิตวิญญาณของนักล่ามา ทําให้มันเป็นส่วนหนึ่งของผนึกเต๋า

 

จากนั้นใต้สวรรค์ถึงถือว่าทําการผสานสําเร็จ

 

วินาทีต่อมา เขาก็พุ่งออกจากเขตแดนเทพเขาและกลิ่นอายของเขาในตอนนี้ก็ต่างออกไปอย่างสมบูรณ์