แดนนิรมิตเทพ บทที่ 654
ใต้เวที มีคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเบา ๆ
“เฉินไต้ซือล่ะ บอกว่าเฉินไต้ซือจะมาไม่ใช่เหรอ? ทำไมจนถึงตอนนี้แล้วเขายังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก?”
“ฮึ่ม ยังต้องถามอีกเหรอ? แน่นอนเฉินไต้ซือได้ยินข่าวแล้ว ก็เลยรู้สึกกลัวและไม่กล้ามา!” เว่ยชางหยุนยิ้มด้วยความเย็นชา
ที่นั่งวีไอพีโซนด้านหน้า ผู้นำตระกูลหม่าแห่งเจียงเป่ยค่อย ๆ วางถ้วยชาลง กระซิบกับผู้อาวุโสเกาที่อยู่ด้านข้างว่า “ดูเหมือนว่าเฉินไต้ซือเป็นเพียงชื่อเสียงที่จอมปลอมเท่านั้น!”
ผู้อาวุโสเกาลูบเคราสีเทาและยาว หัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “ผู้นำหม่า เชื่อเรื่องปรมาจารย์บู๊ที่อายุยังไม่ถึงสิบแปดปีเหรอ?”
ผู้นำหม่าหัวเราะ มีความเหยียดหยามปรากฏอยู่บนใบหน้า
การสนทนาเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายทุกคนก็ไม่เลี่ยง ทุกคนสนทนาเสียงดังทันที เกือบทุกคนเยาะเย้ยว่าเฉินไต้ซือเป็นคนขี้ขลาดตาขาว
พานรุ่ยหมิงรู้สึกมีความพอใจมากที่เห็นผลลัพธ์แบบนี้ แต่เขาก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย ที่ไม่ได้เห็นเฉินไต้ซือพ่ายแพ้ด้วยตาตนเอง
ใต้เวที เว่ยชางหยุนยืนขึ้นและกล่าวเสียงดังว่า “พี่พาน ผมคิดว่าเฉินไต้ซือนั้นเป็นเพียงชื่อเสียงที่จอมปลอมเท่านั้น และเฉินไต้ซือคงจะได้ยินว่าวันนี้มีคนในโลกฝึกบู๊ของเจียงหนานมาอยู่ที่นี่มากมาย เขาคงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อและไม่มาแน่นอน พวกเราดำเนินการประชุมบู๊ต่อไปตามปกติเถอะ!”
“ถูกต้อง เฉินไต้ซือบ้าบออะไร เป็นแค่นักตุ้มตุ๋นในยุทธภพคนหนึ่งเท่านั้น และมีแต่คนโง่เขลาของฮ่านหยางเหล่านั้นที่เชื่อ!”
“เมื่อเฉินไต้ซือไม่มา หลังจากการประชุมบู๊สิ้นสุดแล้ว พวกเราไปหาเขาที่ฮ่านหยาง และบังคับให้เขาปรากฏตัวออกมา!”
“โอเค เป็นความคิดที่ไม่เลว ถ้าพวกเราไปถึงฮ่านหยางแล้วเขายังเป็นเต่าหดหัวอยู่อีก พวกเราก็จะเปิดโปงใบหน้าแท้ของเขาออกมา!”
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างคนต่างแสดงความคิดเห็น พวกเขาบอกว่าเฉินไต้ซือเป็นเหมือนหนูข้างถนนที่ทุกคนรังเกียจ มีแต่คนตะโกนไล่ตี
ขณะที่คนของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานกำลังเยาะเย้ยเฉินไต้ซือ คนที่เฝ้าประตูห้องโถงก็ตะโกนว่า “เฉินไต้ซือแห่งฮ่านหยางมาถึงแล้ว!”
เฉินไต้ซือมาแล้ว!
ทุกคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง ห้องโถงเงียบสงัด สายตามากมายหันไปทางประตู
เฉินโม่มาแล้ว และเดินเข้ามาด้วยควายสงบท่ามกลางสายตาของทุกคน โดยมีเซวียมู่หัวเดินตามหลัง เพียงแต่ใบหน้าของเซวียมู่หัวบาดเจ็บเล็กน้อย
ในห้องโถง ทุกคนต่างมองชายหนุ่มที่สวมชุดกีฬาสีดำ ร่างกายผอมบางและใบหน้าอ่อนเยาว์ เดินเข้ามาจากประตูอย่างช้า ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความสงสัย
บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ นอกจากพานรุ่ยหมิงที่เคยเห็นหน้าเฉินโม่ที่หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีแล้ว และหลังจากนั้นเขาก็ได้ตรวจสอบประวัติของเฉินโม่ ถึงได้รู้ว่าเฉินโม่ก็คือเฉินไต้ซือแห่งฮ่านหยาง ส่วนคนที่เหลือไม่เคยเห็นว่าหน้าตาของเฉินไต้ซือเป็นอย่างไร
เมื่อเห็นว่าเฉินไต้ซือเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อายุสิบแปดปี คนในโลกฝึกบู๊ของเจียงหนานต่างรู้สึกตกตะลึง
เว่ยชางหยุนมองเฉินโม่และเซวียมู่หัว มีความตื่นตระหนกอยู่ในดวงตาของเขา แต่เขากลับมาสงบอย่างรวดเร็ว วันนี้มีคนในโลกฝึกบู๊ของเจียงหนานอยู่ที่นี่มากมาย และไม่นานอัจฉริยะของตระกูลพานก็จะออกมาจากการปลีกวิเวกแล้ว ถึงแม้ว่าเฉินไต้ซือมีสามเศียรหกกร เขาก็ไม่สามารถต้านคนมากมายขนาดนี้ได้
ผู้นำหม่าและผู้อาวุโสเกาสบตากันด้วยความตกใจ
เฉินไต้ซือเป็นเด็กหนุ่มจริงๆ!
โดยเฉพาะท่าทางที่สงบของชายหนุ่มแล้ว ทำให้ผู้นำหม่าและผู้อาวุโสเการู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าเขา
“เขามาร่วมการประชุมบู๊แห่งเจียงหนานตามลำพัง และทั้งที่รู้ว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย แต่เขายังมุ่งมั่นเดินไปทางนั้น เฉินไต้ซือคนนี้ไม่เลวจริง ๆ!” ผู้อาวุโสเกากล่าวเบา ๆ
ใบหน้าของพานรุ่ยหมิงมีร่องรอยความตื่นเต้น “ตอนแรกคิดว่าแกตกใจกลัวจนหนีไปแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้ามาจริง ๆ เจ้าเด็ก วันนี้ฉันจะทำให้แกอับอายขายหน้า!”
เฉินโม่เดินไปถึงกลางห้องโถง เมื่อเซวียมู่หัวที่อยู่ข้างหลังเห็นคนมากมาย ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เขาเหลือบมองเฉินโม่ และกล่าวเบา ๆ ว่า “เฉินไต้ซือ ที่นี่มีคนมากมาย พวกเรากลับไปก่อนแล้วค่อยคิดหาทางดีไหม?”