แดนนิรมิตเทพ บทที่ 653
วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ามืดครึ้ม และดูเหมือนว่าฝนจะตกหนัก

การประชุมบู๊แห่งเจียงหนานจัดขึ้นที่วิลล่าริมทะเลสาบของตระกูลพาน

เนื่องจากมีข่าวว่าเฉินไต้ซือจะมาร่วมการประชุมด้วย จึงทำให้การประชุมครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก

ไม่เพียงแค่คนของโลกฝึกบู๊ในมณฑลเจียงหนานมาร่วมงานเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงของโลกฝึกบู๊ที่อยู่รอบ ๆ มาร่วมงานอีกด้วย

ทุกคนอยากเห็นว่าเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง อยู่ในรายชื่ออันดับต้น ๆ ของปรมาจารย์ และมีแนวโน้มที่จะเป็นบุคคลอันดับสองในการจัดรายการของปรมาจารย์ เขาจะมีสามเศียรหกกรหรือไม่

คนที่เป็นอันดับหนึ่งในการจัดรายการของปรมาจารย์ คือหยางติ่งเทียนเทพสงครามแห่งยานจิง

ตอนนี้ผู้นำตระกูลพานกำลังปลีกวิเวก พานรุ่ยหมิงในฐานะน้องชายของผู้นำตระกูล ย่อมมีสิทธิ์เป็นตัวแทนของผู้นำตระกูล

พานรุ่ยหมิงยืนอยู่กลางเสามังกรแกะสลักสองเสาขนาดใหญ่ เขาทักทายแขกที่มาร่วมการประชุมบู๊ด้วยรอยยิ้ม

“ผู้นำหม่า คุณก็มาด้วย เชิญเข้าไปข้างในเถอะ!” พานรุ่ยหมิงทักทายชายชราหัวล้านที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ด้วยความอบอุ่น

“น้องพาน เกรงใจมากเกินไปแล้ว!” ผู้นำหม่ากล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย และตบไหล่พานรุ่ยหมิงเบา ๆ อย่างเป็นกันเอง

พานรุ่ยหมิงแสดงท่าทางรู้สึกตื้นตันยิ่งที่ได้รับความโปรดปราน ต่อหน้าผู้นำหม่าแล้ว เขาไม่กล้าแสดงความเย่อหยิ่งใด ๆ

มีผู้อาวุโสและเด็กรุ่นหลังของตระกูลพานยืนอยู่ข้างหลังพานรุ่ยหมิง พวกเขามองชายชราหัวล้านด้วยความเคารพ

บุคคลนี้เป็นผู้นำของตระกูลหม่า ซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊ของเจียงเป่ย ความแข็งแกร่งและสถานะของเขาไล่เลี่ยกับผู้นำตระกูลพานที่กำลังปลีกวิเวก

“ผู้อาวุโสเกา ท่านก็มาด้วย!” พานรุ่ยหมิงทักทายชายชราอายุหกสิบกว่าด้วยความประหลาดใจ

“ผมจะไม่มาร่วมงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร? จริงสิ หลานชายพานออกจากการปลีกวิเวกหรือยัง?” ร่างกายของชายชราแข็งแกร่งมาก คำพูดของเขาเต็มไปด้วยพลัง เขาเรียกผู้นำตระกูลพานว่าหลานชาย ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลำดับอาวุโสของเขาสูงมาก ไอริลโนเวล

เหล่าผู้อาวุโสและเด็กรุ่นหลังของตระกูลพานรีบคำนับและทักทาย “สวัสดีครับ ท่านเกา!”

“อืม สวัสดีทุกคน!” ผู้อาวุโสเกาตอบด้วยรอยยิ้ม

ความแข็งแกร่งผู้อาวุโสเกาไล่เลี่ยกับพานรุ่ยหมิง แต่เขาอาวุโสกว่าและมีลูกศิษย์กับหลานสิทธิ์มากมาย ลูกศิษย์ของเขากลายเป็นปรมาจารย์ไปหลายคนแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเกาจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่เขามีชื่อเสียงในโลกฝึกบู๊เป็นอย่างมาก

คราวนี้คนที่มาร่วมงานค่อนข้างเยอะ พานรุ่ยหมิงทักทายคนอย่างต่อเนื่อง และจากความถี่ที่พานรุ่ยหมิงโค้งคำนับด้วยความอ่อนน้อม สามารถเดาได้ว่ามีคนใหญ่คนโตมาร่วมงานไม่น้อย

พานรุ่ยหมิงแอบตกใจ “คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้อาวุโสของโลกฝึกบู๊ที่อยู่ติดกับมณฑลเจียงหนาน เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยมาร่วมการประชุมบู๊เลย คิดว่าคราวนี้พวกเขาน่าจะถูกเฉินไต้ซือดึงดูด”

พานรุ่ยหมิงคิดว่ามันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะปรมาจารย์ที่อายุแค่สิบแปดปี มันเพียงพอที่จะสามารถดึงดูดคนมากมายของโลกฝึกบู๊ให้มาร่วมงานได้

คนเหล่านี้เป็นแค่คนของโลกฝึกบู๊ที่อยู่ติดกับมณฑลเจียงหนานเท่านั้น หากข่าวของเฉินไต้ซือกระจายออกไปเร็วกว่านี้ เกรงว่าจะสามารถดึงดูดคนของโลกฝึกบู๊ทั่วประเทศมาได้

เวลาเก้าโมงเช้า การประชุมบู๊แห่งเจียงหนานเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

พานรุ่ยหมิงในฐานะผู้รับผิดชอบของตระกูลพาน ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ดำเนินรายการในการประชุมบู๊คราวนี้

เขายืนอยู่บนเวที พานรุ่ยหมิงกล่าวเปิดงานและมองสำรวจทุกมุมในห้องโถง และสุดท้ายเขาก็แน่ใจว่าเฉินโม่ยังมาไม่ถึง

“หรือว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะขี้ขลาดตาขาว?” พานรุ่ยหมิงแอบคิด ถ้าเป็นเช่นนั้น แผนการของตนเองที่จะจัดการเฉินโม่ก็จะมลายหายไป แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถโจมตีเฉินโม่ได้เช่นกัน แต่เขาก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย

ไม่นาน พานรุ่ยหมิงก็กล่าวสุนทรพจน์เสร็จ และการประชุมบู๊กำลังจะเริ่มขึ้น แต่การประชุมบู๊ของวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะนี่คือการประชุมบู๊ที่พุ่งเป้าไปที่เฉินไต้ซือ

แต่เฉินไต้ซือไม่ปรากฏตัวออกมา ซึ่งทำให้การประชุมบู๊คราวนี้ดำเนินไปด้วยความยากลำบาก