ตอนที่ 222 ศัตรูหัวใจมาหาถึงที่แล้ว / ตอนที่ 223 ในไวน์มีอะไรบางอย่าง

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 222 ศัตรูหัวใจมาหาถึงที่แล้ว

 

 

           มือถือที่เพิ่งจะโดนวางสายไป จู่ๆ ก็สั่นขึ้นมา เจียงมู่เฉินเปิดอ่านข้อความจากเบอร์แปลกที่ส่งเข้ามา

 

 

           [ซือเหยี่ยนอยู่ด้วยกันกับฉัน ไม่รบกวนนายให้ลำบากแล้ว]

 

 

           เจียงมู่เฉินอ่านข้อความตัวเล็กบรรทัดนั้นบนหน้าจอ แล้วยิ้มหัวเราะออกมา นี่เขาโดนยั่วยุกันซึ่งๆ หน้าอยู่ใช่ไหม

 

 

           “มาเจอกันเถอะ ซูเตอร์”

 

 

           เจียงมู่เฉินเป็นฝ่ายนัดให้ออกมาเจอกัน ศัตรูหัวใจมาหาถึงที่แล้ว ถ้าเขายังถอยกลับหลัง ก็ไม่ใช่สไตล์ของคุณชายน้อยแห่งตระกูลเจียงแล้ว

 

 

           “ไม่มีปัญหา!” ซูเตอร์ตอบกลับมาครั้งแรกอย่างสบายอารมณ์

 

 

           “พรุ่งนี้เช้าสิบโมง เจอกันที่เซิ่งซื่อ”

 

 

           “ได้ ส่วนคืนนี้ซือเหยี่ยนฉันก็จะช่วยนายดูแลดีๆ นะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “น่าเสียดายจริงๆ เกรงว่าซือเหยี่ยนของฉันจะไม่ต้องการให้นายดูแล”

 

 

           เขาวางสายไป ก็รีบโทรหามั่วไป๋ทันที “ช่วยฉันสืบหาตำแหน่งของซือเหยี่ยนที”

 

 

           มั่วไป๋ถือสายไป พลางเลิกคิ้ว “อะไรกัน ซือเหยี่ยนเตรียมจะปีนกำแพงแล้วโดนนายจับได้เหรอ”

 

 

           “วางใจเถอะ มีกำแพงเขาก็ไม่กล้าปีนหรอก” เจียงมู่เฉินหยุดสักพัก “นายเร็วหน่อยสิ ฉันรีบอยู่”

 

 

           ทางมั่วไป๋เองขณะพูดอยู่ เสียงเคาะแป้นก็ดังออกมาด้วย “เฉินเฉิน ฉันเพิ่งพูดกับนายประโยคสองประโยคเองนะ ให้เร็วกว่านี้ฉันก็หาออกมาไม่ได้ มีความอดทนสักนิดนึงหน่อยได้ไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินเอนพิงอยู่ตรงนั้นอย่างเอื่อยเฉื่อย “ได้ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ฉันไม่รีบเลยสักนิด”

 

 

           ใช้เวลาไม่ถึงห้านาที ทางมั่วไป๋ก็ตอบกลับมา “อยู่ที่จุ้ยถิงเซวียน ฉันหาได้แค่ถึงตรงนี้ รายละเอียดอย่างอื่นฉันไม่มีวิธีแล้ว”

 

 

           เจียงมู่เฉินลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา “ที่เหลือฉันจัดการเอง”

 

 

           เขาหยิบกุญแจรถเดินออกไปข้างนอก อยากจะปีนกำแพงต่อหน้าต่อตาเขา ประตูก็ไม่มีทั้งนั้น ต่อให้ซือเหยี่ยนอยากจะปีน อย่างมากก็แค่จะต่อกำแพงให้สูงขึ้นอีก ให้เขาปีนออกไปไม่ได้

 

 

           ซือเหยี่ยนปีนกำแพงขึ้นได้หนึ่งนิ้ว เขาก็จะเอาขึ้นไปอีกหนึ่งนิ้ว

 

 

           ยังดีที่ซือเหยี่ยนเอารถสปอร์ตของเขามาไว้ที่นี่ให้ด้วย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่อย่างนั้นคิดจะไปตามจับคน ก็ไม่รู้จะไปอย่างไรแล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินเหยียบคันเร่งหนักๆ รถสปอร์ตคันสีแดงรีบมุ่งหน้าพุ่งตัวออกไปทันที

 

 

           ‘จุ้ยถิงเซวียนเหรอ’

 

 

           เป็นสถานที่ดีๆ ที่น่าสนใจเสียจริง

 

 

           ……

 

 

           ซูเตอร์ฉวยโอกาสตอนที่ซือเหยี่ยนไปเข้าห้องน้ำ กดตัดสายเรียกเข้าจากเจียงมู่เฉิน แล้วยังแอบบันทึกเบอร์มือถือของเจียงมู่เฉินในมือถือของตัวเองอีกด้วย

 

 

           ผ่านไปสองสามนาที ซือเหยี่ยนก็กลับมา เขานั่งลงหน้าโต๊ะอาหาร เอ่ยเสียงต่ำ “ในเมื่อคุณกินเสร็จแล้ว ผมจะส่งคุณกลับไปนะ”

 

 

           ซูเตอร์จะอยากกลับไปได้อย่างไร กว่าเขาจะนัดคนออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะมาเลิกล้มกลางคันได้อย่างไร

 

 

           ซูเตอร์ส่ายหัว “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากกลับ”

 

 

           ซือเหยี่ยนระงับท่าทีที่อยากจะขมวดคิ้วเอาไว้ “แล้วคุณอยากจะไปไหน”

 

 

           “ก็อยู่ที่นี่ไง พวกเราดื่มกันต่ออีกหน่อย ได้ไหม” เขาจองห้องที่นี่เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงแต่ให้ซือเหยี่ยนดื่ม แล้วทำให้ซือเหยี่ยนปล้ำเขา ถึงตอนนั้นสำหรับซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉินจะเป็นอะไรได้อีก

 

 

           ซือเหยี่ยนขมวดคิ้ว “ผมขับรถมา ดื่มเหล้าไม่ได้”

 

 

           ซูเตอร์กะพริบตาปริบๆ ตีหน้าเศร้า “เหยี่ยน นายอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม ฉันคนเดียวเดินทางมาตั้งไกลขนาดนี้เพื่อมาหานาย นายอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยไม่ได้เหรอ…

 

 

           …คิดถึงตอนนั้นเป็นฉันที่ช่วยชีวิตนายไว้ แล้วตอนนี้นายกลับมาทำแบบนี้กับฉันเหรอ” ขอบตาซูเตอร์แดงก่ำ ทำหน้าทำตาน่าสงสารชัดเจน

 

 

           ซือเหยี่ยนทำได้แค่นั่งลงไปอีกครั้ง

 

 

           ซูเตอร์เห็นสถานการณ์เป็นไปตามแผนแล้ว ก็ยิ้มตาหยีออกมา “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเหยี่ยนทนเห็นฉันเศร้าไม่ได้ เมื่อก่อนนายดีกับฉันขนาดไหน ตอนนี้ก็ต้องดีให้เหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อน”

 

 

           “ดื่มได้แค่นิดเดียวนะ แล้วเดี๋ยวผมจะส่งคุณกลับไป”

 

 

           ซูเตอร์พยักหน้าอย่างว่าง่าย “ได้ ฉันรับรองว่าจะดื่มไม่เยอะ”

 

 

           เขากวักมือเรียกให้คนยกไวน์แดงมาเสิร์ฟ ทั้งยังหยิบแก้วไวน์อีกสองแก้วมาด้วย ซูเตอร์รินไวน์อย่างชำนาญ แล้วส่งต่อให้ซือเหยี่ยน

 

 

           

 

 

           ตอนที่ 223 ในไวน์มีอะไรบางอย่าง

 

 

           ซือเหยี่ยนส่งมือไปรับแก้วไวน์มาไว้ตรงหน้าตัวเอง

 

 

           ซูเตอร์เองก็รินไวน์ให้ตัวเองด้วยแก้วหนึ่ง เขายิ้มยกแก้วไวน์ขึ้น พูดกับซือเหยี่ยน “เหยี่ยน ตั้งแต่นายจากฉันไป ฉันก็คิดถึงนาย…

 

 

           …หลายปีมานี้ฉันเอาแต่คิดถึงวันวาน คิดถึงเป็นพิเศษเลย เมื่อก่อนนายอยู่ข้างกายฉันคอยปกป้องฉันตลอด ไม่ว่าฉันจะพบเจออุปสรรคอะไร นายก็จะเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ” ใบหน้าซูเตอร์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาหรี่ตาลง “ฉันคิดนะว่าถ้าไม่รับตำแหน่งต่อจากพ่อก็คงจะดีกว่านี้ แบบนี้พี่เหยี่ยนของฉันก็จะได้อยู่ปกป้องฉันไปตลอดชีวิต”

 

 

           “ซูเตอร์ การสืบต่อแก๊งมังกรครามเป็นหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบ ที่ผมปกป้องคุณก็ในฐานะที่ตอนนั้นผมเป็นบอดี้การ์ด มันคือหน้าที่รับผิดชอบของผม”

 

 

           “ไม่ใช่หรอก นายดีกับฉันขนาดนั้น จะเป็นแค่หน้าที่รับผิดชอบเป็นบอดี้การ์ดง่ายๆ แค่นั้นได้ยังไง” ซูเตอร์มองเขา “นายชอบฉันใช่ไหม นายน่าจะชอบฉันบ้างแหละ”

 

 

           ซือเหยี่ยนกุมขมับ “ซูเตอร์ ครั้งนี้ที่คุณมาที่จีนกะทันหัน สร้างเรื่องวุ่นวายอยู่ไม่เบาจริงๆ คราวก่อนที่พวกเราเจอกัน ผมก็พูดกับคุณชัดเจนมากแล้ว เมื่อก่อนผมคือบอดี้การ์ดที่พ่อคุณว่าจ้างมาให้ปกป้องคุณ ความปลอดภัยในชีวิตคุณเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม…ดังนั้น ผมจำเป็นต้องปกป้องคุณ ไม่ใช่เพราะผมชอบคุณ เข้าใจไหม”

 

 

           ขอบตาซูเตอร์แดงก่ำ น้ำใสๆ เอ่อขึ้นมาในดวงตาคมสวย “ฉันไม่เชื่อ นายดีกับฉันขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่นายจะไม่ชอบฉัน”

 

 

           เขาจ้องมองคนตรงหน้า “เพราะคนคนนั้นในวันนั้นใช่ไหม คนคนนั้นคือแฟนใหม่ของนายเหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่อยากให้เรื่องนี้ไปพัวพันถึงเจียงมู่เฉิน ซูเตอร์คนนี้ดูเหมือนจะบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ลงมือได้อย่างโหดเ**้ยมไม่ปรานีใคร เรื่องนี้เขารู้ดีแก่ใจ

 

 

           ตอนที่แอบแฝงตัวเป็นสายลับเข้าไปในแก๊งมังกรคราม เขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของซูเตอร์ เห็นจนชินตากับภาพของซูเตอร์ที่ตัดสินความเป็นความตายของคนอื่นได้อย่างหน้าตาระรื่นไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ

 

 

           “ไม่มีเกี่ยวกับเขา เขากับผมเป็นแค่เพื่อนธรรมดากันเท่านั้นเอง”

 

 

           ซูเตอร์มองเขาอย่างไม่เชื่อ “แต่ฉันกลับรู้สึกว่าสำหรับนายแล้วเขาไม่ค่อยเหมือนใครนะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมดทีเดียว “เอาล่ะ ดึกมากแล้ว ไวน์ก็ดื่มเป็นเพื่อนคุณแล้ว ตอนนี้ผมจะส่งคุณกลับไปพักผ่อน”

 

 

           หลังจากซูเตอร์เห็นเขาดื่มไวน์ในแก้วจนไม่เหลือสักหยด แผนร้ายฉายสะท้อนในแววตาขึ้นมาวาบหนึ่ง

 

 

           ‘ดื่มไวน์เข้าไปเรียบร้อย ที่เหลือก็จัดการได้ง่ายๆ แล้ว’

 

 

           เขาพยักหน้าพลางรินไวน์ให้ซือเหยี่ยนอีกแก้ว “เมื่อกี้นายดื่มของนายเอง นายยังไม่ได้ดื่มพร้อมฉันเลย ดื่มเสร็จแก้วนี้ ฉันรับรองว่าจะไม่ดื้อยอมกลับไปกับนาย”

 

 

           ซือเหยี่ยนยกแก้วขึ้นมา “คุณพูดแล้วนะ หวังว่าจะไม่มีความคิดอย่างอื่นอีก”

 

 

           ซูเตอร์หัวเราะเบาๆ “แน่นอน นายก็รู้นี้ดี ว่าฉันพูดแล้วจะไม่คืนคำเด็ดขาด”

 

 

           “ได้ แก้วนี้ผมจะดื่มกับคุณ”

 

 

           ซือเหยี่ยนดื่มไวน์เข้าไปอีกแก้ว เขาวางแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าไว้บนโต๊ะ “คราวนี้ก็ไปกันได้แล้ว”

 

 

           ครั้งนี้ซูเตอร์ไม่ได้ขัดขวางอะไรมากมายต่อ ลุกเดินขึ้นมาเดินไปอยู่ข้างกายซือเหยี่ยนอย่างว่าง่าย “เหยี่ยน ไปกันเถอะ”

 

 

           ทั้งสองคนกำลังจะเตรียมตัวออกไป จู่ๆ ซูเตอร์ก็คล้องแขนซือเหยี่ยนเอาไว้ ซือเหยี่ยนตกใจทันที อยากจะชักแขนออกไปตามปฏิกิริยาตอบโต้ของร่างกาย

 

 

           “เหยี่ยน เมื่อกี้ฉันรีบดื่มเกินไปเลยเวียนหัวนิดหน่อย นายให้ฉันคล้องแขนพยุงตัวหน่อยได้ไหม”

 

 

           ซูเตอร์เดินช้ามาก เพราะเวียนหัว ซือเหยี่ยนจำใจทำได้แค่ให้เขาเกาะแขนตัวเอง แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เขาเดินไปได้สองแก้วก็รู้สึกว่าภายในร่างกายไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่

 

 

           จิตใต้สำนึกเขาบอกให้เขาดึงมือของซูเตอร์ออกในทันใด “คุณใส่อะไรลงไปในไวน์”

 

 

           ซูเตอร์ทำไขสือยิ้มหัวเราะ “ไวน์ฉันก็ดื่มด้วย ฉันจะใส่อะไรลงไปได้ยังไงกัน”