ตอนที่ 928 ลงโทษอย่างเฉียบขาด

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 928 ลงโทษอย่างเฉียบขาด

 

เดิมที่หยางโปยังคิดที่จะปล่อยพวกเขาไป แต่เมื่อได้ยินคํานี้ก็พูดออกมาด้วยความโกรธทันที

 

“ ช่างเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักทนายของผมก็จะมาจัดการปัญหานี้เอง”

 

หยางโปลงบันทึกประจําวัน ทางด้านหลูตงซิงที่ไปรับฮัวชิงหยุนแล้วก็รีบตามมาและ

 

ยังพาทนายมาด้วย

 

เมื่อตํารวจเห็นกลุ่มของพวกเขาเดินเข้ามากัน ก็คิดที่จะไกล่เกลี่ยมั่วๆไป เพื่อสะสางเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว จึงพูดโน้มน้าวใจไปว่า “ คุณหยาง ในเมื่อรถของคุณไม่ได้เสียหายอะไร เรื่องนี้ก็ให้พวกเขาชดใช้เงินให้ก็แล้วกัน ถือว่าให้บทเรียน พวกเราจะแจ้งให้ทางมหาลัยทราบ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลอบรมสั่งสอน”

 

“ พวกเราไม่ชดใช้เงินให้ เขาถือว่าตัวเองเป็นอะไร ถึงได้ขับรถมาถึงมหาลัยของเรา และยังมาจีบรุ่นพี่ของเราอีก โอ้อวดเกินไปแล้ว ” ยังมีนักศึกษาคนหนึ่งที่ยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง สบถค่าเสียงดังออกมา

 

หยางโปไม่คิดที่จะปรับความเข้าใจด้วยนานแล้ว เขาหันไปมองหลูตงซิง “ ให้ทนายมาเคลียร์ก็แล้วกัน เดี๋ยวกลับไปผมจะแจ้งให้ศูนย์รถทราบและอธิบายรายละเอียดความเสียหายของรถคันนี้เพื่อตรวจสภาพเอง”

 

หลางซึ่งพยักหน้า “ แบบนี้ก็ดีนะ สายมากแล้ว พวกเราควรไปกันได้แล้ว ”

 

ฮัวชิงหยุนนั่งอยู่ข้างกายหยางโป จับมือของเขาไว้ และถามออกมาด้วยความกังวล

 

“รถคงไม่น่าเสียหายมาก นายก็ให้พวกเขาชดใช้เงินให้เถอะนะ !”

 

หยางโปส่ายหน้า “ เดี่ยวศูนย์รถก็จะส่งคนมาแล้ว เธอสบายใจได้ เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจหรอก”

 

หลิวหมิงหยุนนั่งอยู่ด้านข้าง รู้ดีว่าเรื่องนี้เกิดมาจากตัวเอง เขาจําเป็นต้องรับผิดชอบการชดใช้นี้ ดังนั้นเขาจึงเผชิญหน้ากับภาระหน้าที่ที่จะเข้ามาและแบกรับอย่างไม่ลังเลใดๆทั้งสิ้น

 

“ รถที่ถูกทุบเสียหาย ถ้าซ่อมคงเสียไม่เท่าไหร่ ผมจะชดใช้ให้สองเท่าเลย จบไหม ?

 

อีกอย่าง รถของคุณคงไม่ต้องให้คนของศูนย์มาหรอก ให้ร้านซ่อมหรือตัวแทน 4s Shop ส่งคนมาตรวจสอบดูก็ได้แล้วมั้ง ?”

 

หยางโปส่ายหน้า โดยที่ไม่พูดไม่จา

 

“ คุณจะชดใช้ให้สองเท่า ? รถคันนี้เป็นรถที่ดัดแปลงกันกระสุน แค่ค่าดัดแปลงภายนอกก็จําเป็นต้องใช้เงินหลายหมื่นหยวน คุณคิดว่าคุณชดใช้ให้สองเท่าไหวไหม ? “หลูตงซิงเอ่ยปากพูด

 

หลิวหมิงหยุนถึงกับช็อคไปเลยทันที เดิมเขาคิดว่ามันมีปัญหาอยู่ เพราะไม่ว่าจะทุบรถยังไ มันก็ไม่ฟัง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า รถคันนี้จะเป็นรถกันกระสุนจริงๆ !

 

เสียงร้องไห้ “ ฮือๆ ! “ดังออกมา ในที่เกิดเหตุมีเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งร้องไห้เสียงดังขึ้น เมื่อสักครู่เขาเป็นคนที่ทุบเยอะที่สุด

 

“ นายจะร้องไห้ทําไม ผู้ชายอกสามศอก ร้องไห้ไปมันจะมีประโยชน์อะไร ?” อีกคนเอ่ยปากสั่งสอน

 

เด็กผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา “ ฉันเรียนกฎหมายอยู่ ถ้ารถเสียหาเกินห้าพันหยวน พวกเราอาจถูกจําคุกได้ !”

 

เมื่อคนอื่นได้ยินคําพูดนี้ มันก็เหมือนกับสายฟ้าฟาด เดิมทีพวกเขาแค่ทําเพื่อสายสัมพันธ์พี่น้อง เลยไปทุบรถ ไหนเลยจะทันคิดว่าจะถูกจับจําคุก ถ้าถูกจับไปจําคุกจริงๆ พวกเขาก็ต้องถูกมหาลัยไล่ออก อนาคตภายภาคหน้าก็จบสิ้นกันพอดี !

 

หยางโปดึงฮัวชิงหยุนลุกขึ้น “ พวกเราไปกันเถอะ”

 

หลูตงซิงเองก็ลุกยืนขึ้นตามและเดินออกไปด้านนอก

 

มีนักศึกษาคนหนึ่งลุกพรวดขึ้นมา กางแขนทั้งสองข้างออก คิดที่จะขวางหยางโปไว้

 

“ คุณไปไม่ได้ ถ้าคุณไม่ยกโทษให้พวกเรา คุณก็ออกไปไม่ได้”

 

หยางโปไม่สนใจเขาด้วยซ้ำไป คิดแค่ว่าคนพวกนี้ไม่รู้กฎหมายกันจริงๆ ตอนที่ทุบรถ ไม่ได้คํานึงผลที่ตามมาเลยด้วยซ้ำ !

 

เขาเดินอ้อมชายคนนั้นไปและดึงฮัวชิงหยุนเดินออกไปด้านนอก

 

แต่ฮัวชิงหยุนกลับดิ้นให้หลุดออกมา แต่ดิ้นไม่หลุด เธอรู้สึกค่อนข้างสับสน และเอ่ยปากขอร้องอย่างเศร้าเสียใจ “ มันก็แค่ไม่เท่าไหร่ สําหรับนายแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก นายให้อภัยพวกเขาเถอะนะ ! พวกเขายังเด็กอยู่เลยไม่รู้อะไร แถมพวกเขายังมีอนาคต !”

 

หยางโปรู้ความคิดของฮัวชิงหยุนดี และก็พอจะเข้าใจ แต่เขากลับไม่ตอบตกลง “ ตอนนี้ให้ฉันยกโทษให้พวกเขา พวกเขาเป็นนักเรียนที่ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรเลยหรือไง ? คนอายุยี่สิบปีแล้ว

 

เธอยังพูดออกมาได้ว่าพวกเขาไม่รู้อะไรอย่างงั้นเหรอ ?”

 

“ เธอลองคิดดูดีๆนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ขับรถกันกระสุนมา แต่เป็นแค่รถธรรมดาทั่วไป ถ้าพวกเขาทุบไปบนกระจก รถคงถูกทุบพังไปหมดแล้วใช่ไหม ? และคงทุบฉันจนได้รับบาดเจ็บอยู่ในรถในที่เกิดเหตุไปแล้ว แล้วทําไมเวลานั้นไม่เห็นพวกเขาใจอ่อนบ้างเลยล่ะ ?”

 

หยางโปทําเสียงอึดฮัดไม่พอใจและคลายมือออก “ เธอคิดดูดีๆนะ ถ้าคิดที่จะขอร้องแทนพวกเขาและคิดวิ่งเต้นเพื่อพวกเขาจริงๆ เธอก็สามารถอยู่ต่อได้ !”

 

ฮัวชิงหยุนตกตะลึงนิ่งอึ้งไปทันที ดวงตาทั้งคู่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “ ฉันฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันแค่รู้สึกว่า ในเมื่อนายไม่ได้เสียหายมาก พวกเขาก็คงอยากที่จะขอให้นายยกโทษให้ ”

 

“ เธอคิดว่าพวกเขากําลังขอให้ฉันยกโทษให้อยู่เหรอ ? ” หยางโปถาม

 

ฮัวชิงหยุนนิ่งอึ้งไป เมื่อนึกถึงท่าทีที่รุ่นน้องชายพวกนั้นแสดงออก คําพูดที่หลุดออกมาจากปากพวกเขา มันก็ไม่น่าฟังจริงๆ และถึงกับมีบางคนที่ไม่ยอมรับความผิดของตัวเองอีกด้วย !

 

แต่เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากเธอ ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้จริงๆ แล้วทําให้รุ่นน้องชายพวกนี้ติดคุก

 

เธอคงเสียใจต่อการกระทํานี้และอยู่อย่างไม่เป็นสุขไปตลอดชีวิต

 

ฮัวชิงหยุนลังเลและสับสน เธอหันหน้าไปมองหยางโป ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการขอร้อง

 

แต่หยางโปกลับไม่สนใจ แค่เดินออกไปข้างนอกโดยไม่หันกลับมามอง ดูเหมือนกําลังรอให้เธอตัดสินใจ

 

หลูตงซิงยืนรออย่างเงียบๆอยู่ด้านข้าง

 

หลังจากนั้นสักพัก ฮัวชิงหยุนก็มองไปทางหยางโป “ ช่างเถอะ ฉันอยู่ต่อดีกว่า !”

 

หยางโปชายตามองฮัวชิงหยุน และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังไม่น้อย “ ถ้าอย่างนั้นเธอก็อยู่ต่อเถอะ ! ”

 

หยางโปไม่ได้อธิบายอะไรมากเช่นกัน หันหลังเดินจากไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

 

เขามาจากตี้จิงจนมาถึงจินหลิงเพื่อมาหาฮัวชิงหยุน นั่นก็เพราะอยากอยู่กับเธอ แต่การตัดสินใจเลือกในครั้งนี้ มันทําให้เขามองเรื่องบางอย่างชัดเจนขึ้น แต่มีเพียงบางเรื่องเท่านั้นที่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังคงไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปได้

 

หลูตงซิงส่ายหน้า แต่ไม่ได้เอ่ยปากเตือนอะไร ถ้าฮัวซึ่งหยุนแยกตัวจากไปกับหยางโป

 

มันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด บางที่แบบนี้ หยางโปอาจจะยกโทษให้คนพวกนั้นได้

 

แต่เรื่องของความรู้สึก บางทีมันก็ต้องอาศัยจิตสํานึกของตัวเอง

 

ไม่นาน หยางโปก็เข้ามานั่งในรถ และเขาก็หันไปพูดกับหลูตงซิง “ พวกเราไปกันเถอะ !”

 

หลูตงซิงเห็นใบหน้าที่เรียบเฉยของหยางโป แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งแสดงว่าเขาโกรธมาก

 

ทางด้านฮัวชิงหยุนที่ตัดสินใจอยู่ต่อ กลับมีเสียงตะโกนดังโหวกเหวกโวยวายขึ้นในที่เกิดเหตุ

 

เมื่อนักศึกษาจํานวนมากรู้ว่าอาจจะต้องถูกจับขังคุก ต่างก็พากันตกใจกลัว และทะเลาะกับตํารวจ และหยิบโทรศัพท์ออกมาพูดเสียงดังแจ้งกับผู้ปกครอง

 

เธอที่ยืนมองทุกคนกําลังยุ่งวุ่นวายกันอยู่ตรงนั้น จู่ๆก็เกิดรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา เธอไม่มีปัญญาเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของหยางโปได้ ยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีวิธีช่วยเหลือพวกเขาได้

 

“ ทั้งหมดเป็นเพระเธอ ทั้งหมดต้องโทษผู้หญิงคนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราก็ไม่ต้องไปทุบรถของเขาหรอก !” จู่ๆก็มีนักศึกษาคนหนึ่งตะโกนเสียงดังออกมา

 

สายตาของทุกคนต่างมองไปที่ฮัวชิงหยุน “ ใช่ เป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ !”

 

ฮัวชิงหยุนพยายามอธิบายอย่างสุดความสามารถ แต่เสียงของเธอเบาเกินไป จึงไม่มีใครได้ยินที่เธออธิบาย ทุกคนจึงถูกจับขังคุก เรื่องนี้ทําให้ทุกคนตกใจกลัวกันมาก

 

เช้าวันรุ่งขึ้น หยางโปยังคงอารมณ์ไม่ค่อยดี เขาทําหน้างอนั่งอยู่ในรถ เดินทางมากับหลูตงซิงจนถึงเขตชานเมืองของหยูหาง ที่นี่มีคลับส่วนตัวแห่งหนึ่ง ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกลางป่า ดูค่อนข้างหลบๆซ่อนๆอย่างเห็นได้ชัด

 

ตอนที่ทั้งสองมาถึงสถานที่เกิดเหตุ ที่นี่ก็มีคนมากันไม่น้อยแล้ว