ตอนที่ 437: การทะเลาะภายในครอบครัว
ไป๋หยุนเทียนทำได้แค่ยิ้มตามคำพูดของหยูเฟิงหยาน เมื่อเกี่ยวกับลูกของนาง นางก็รู้สึกรักเขามาก
ไป๋ยู่ซวงมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่จ้องเขม็ง เซียงเทียน เจ้ากลับมาเพราะอะไร? สำนักหัวหยุนไม่ใช่ที่ซึ่งตระกูลเจียงหยางของเราจะรับมือได้ เจ้าพยายามสร้างปัญหาให้เรา ?
หยูเฟิงหยานและไป๋หยุนเทียนต่างก็ตะตกลึงกับคำพูดของไป๋ยู่ซวง นางคัดค้านการกลับมาของเจี้ยนเฉินราวกับว่านางไม่ต้องการให้เขากลับมาอีกเลย
คำพูดของป้าสามทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร หยูเฟิงหยานก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า
น้องสาม เจ้าไม่น่าพูดเช่นนี้เลย ถึงแม้ว่าสำนักหัวหยุนจะแข็งแกร่งมาก แต่ตระกูลเจียงหยางของเราก็ไม่อาจมารังแกกันได้ง่ายๆ เรามีเจียงไป่อยู่ด้วย เจ้าต้องรู้ว่าเขาสามารถสังหารเซียนสวรรค์จำนวนมากได้ที่ฐานทางเหนือ ตราบใดที่เจียงไป่อยู่ สำนักหัวหยุนจะไม่มีวันแตะต้องเราได้ง่าย ๆ
เซียงเทียนถูกบังคับให้ต้องออกจากบ้านและในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาต้องทุกข์ทรมาณอย่างมากในโลกภายนอก ตอนนี้เซียงเทียนกลับมาแล้ว เราควรจะมีความสุขไม่ใช่เย็นชาใส่เขา
ไป๋ยู่ซวงแค่นเสียงเย็นชาว่า เซียงเทียนไม่เคยเป็นเด็กที่เชื่อฟังและชอบก่อปัญหาเสมอ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาทำร้ายเค่อเอ๋อของข้าและต่อมาก็ก่อเรื่องกับสำนักหัวหยุน แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นเพียงเวลาสั้น ๆ เมื่อเขากลับมาแล้ว ใครจะรู้ว่าเขานำปัญหาอะไรมากับเขาอีก
หยูเฟิงหยานและไป๋หยุนเทียนทั้งสองต่างก็พูดไม่ออก พวกเขาไม่คิดว่าไป๋ยู่ซวงจะคิดแบบนั้นกับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินโกรธมากกับเรื่องนี้ ดวงตาของเขาเป็นประกายอันตรายจนทำให้ไป๋ยู่ซวงไม่กล้าที่จะมองหน้าเขา
ท่านป้าสาม ข้ารู้ว่าท่านไม่อยากให้ข้าอยู่ที่นี่ แต่ท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาของข้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับปัญหาที่ข้าสร้าง ข้าจะจัดการพวกมันด้วยตนเองตามปกติอยู่แล้ว และไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตระกูล เจี้ยนเฉินพูด
ด้วยตัวเจ้าเองน่ะหรือ ! ? ไป๋ยู่ซวงวางท่าและดูถูกอย่างเห็นได้ชัด งั้นก็ดี งั้นเจ้าก็ไปทำตามแบบที่คนในโลกภายนอกเขาทำเลย ! มาดูกันสิว่าเจ้าจะแก้ปัญหากับสำนักหัวหยุนอย่างไร โดยที่ไม่ให้ตระกูลยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของเจ้า
หนี้แค้นที่สำนักหัวหยุนมีต่อข้าจะต้องถูกชำระ เจี้ยนเฉินพูดอย่างเฉยเมย
คำพูดของเจี้ยนเฉินทำให้เหมือนคนที่หน้าซื่อใจคดและหยิ่งยโสในสายตาของไป๋ยู่ซวง นางถ่มน้ำลายก่อนที่จะพูดเย้ยหยัน เซียงเทียน ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้านะ แต่เจ้าพูดความจริงเถอะ ลองคิดดูว่าสำนักหัวหยุนแข็งแกร่งขนาดไหน? เจ้าจะไปยังสำนักหัวหยุนด้วยตัวเองงั้นเรอะ ? อืมม ขนาดคนที่ฉลาดยังเพ้อฝันได้ ข้าละเชื่อเลย
เจี้ยนเฉินหรี่ตาอย่างมาดร้าย เขาโกรธกับคำพูดของไป๋ยู่ซวงอย่างมาก แต่สุดท้ายนางก็เป็นป้าและผู้อาวุโสของเขา เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะทำร้ายคนในครอบครัว เนื่องจากนี่เป็นครอบครัวที่เขารักอย่างแท้จริง เขาจึงไม่พูดอะไร
สถานะของเขานั้นแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อน ไม่เพียงแต่เขาจะแข็งแกร่งกว่าเซียนสวรรค์ทุกคน แต่เขายังเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ด้วยสถานะเหล่านี้ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มันไม่คุ้มกับการสนใจ คำพูดและความคิดของไป๋ยู่ซวงก็ถูกเผาทำลายไปจากความทรงจำของเจี้ยนเฉิน
น้องสาม เจ้าก็เป็นผู้อาวุโสแล้วนะ อย่าไปทำให้เด็กมันลำบากใจ ดวงตาของหยูเฟิงหยานหรี่แคบลงด้วยความโกรธ
ลำบากใจอะไร คำพูดของข้าเป็นเรื่องจริง ไป๋ยู่ซวงเหล่มองหยูเฟิงหยานโดยไม่ยอมให้นางกล่าวโทษได้
หยูเฟิงหยานเริ่มโกรธมากขึ้น หน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้น-ลงด้วยความโกรธ นางมองไปที่ไป๋ยู่ซวง น้องสาม เจ้า….
ป้ารอง ไม่จำเป็นต้องสนใจ เจี้ยนเฉินขัดจังหวะก่อนที่จะมองไปยังไป๋ยู่ซวงอย่างเย็นชา การจ้องมองนี้ทำให้ไป๋ยู่ซวงรู้สึกอับอายจากการจ้องมองของเขาทันที
ป้าสาม ข้าเคารพท่านในฐานะป้าและความอาวุโส ดังนั้นข้าจะไม่ถือคำพูดของท่าน แต่ในอนาคตข้าหวังว่าท่านจะไม่เสียใจกับคำพูดของท่านในวันนี้ เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมาทันที
ห๊ะ ? ดูสิทุกคน ! เขากล้าข่มขู่ข้า ไป๋ยู่ซวงรีบคว้าโอกาสใส่ไฟเจี้ยนเฉินให้มากขึ้นในทันที พร้อมกับท้าวเอวของนางและพูดว่า เสียใจ ? ข้าจะเสียใจอะไร ? เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าจะลงไม้ลงมือกับป้าสามของเจ้างั้นหรือ ? ทุกคนมองดูดี ๆ ! ดูว่าเด็กคนนี้ให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ของเขาอย่างไร ? คำพูดที่เพ้อเจ้อของเขามันช่างน่าสมเพชเพียงใด ?
หยูเฟิงหยานและไป๋หยุนเทียนมีความโกรธเต็มใบหน้า
ในเวลานั้น ก็ได้ยินเสียงที่หนักแน่นขึ้นมาทันใด ฮ่าฮ่า ดูสิว่ามันมีชีวิตชีวามากแค่ไหน ทุกคนมีความสุขดี เจียงหยางป้าแต่งตัวอย่างง่าย ๆ กำลังเดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงเป็นที่สังเกตเห็นได้ว่าเขามีความสุขแค่ไหน
เจียงหยางป้าเป็นชายวัยกลางคนอายุ 40 ปีแต่มีหน้าตาราวกับคนอายุ 30 ปี แม้ว่าเขาจะมีอายุ เขาก็ยังคงหน้าตาหล่อเหลาเหมือนกับตอนเขาหนุ่ม ๆ
ท่านพี่ !
ท่านพ่อ !
ทุกคนพูดเมื่อเห็นเขา
เจียงหยางป้ามีความสุขมากในวันนี้ ทันทีที่เขาเดินเข้ามา ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปยังบุตรชายคนที่สี่ของเขา เซียงเทียน เขามองอย่างใกล้ชิดและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ยิ่งกว้างขึ้น ในสายตาของเขา ลูกสี่ของเขาไม่เพียงรูปงามเท่านั้น เขายังไม่สำรวยอีกด้วย แท้จริงแล้วเจียงหยางป้าคิดว่าเขาเป็นมังกรในหมู่มนุษย์และจะต้องทะยานขึ้นมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ด้วยการรวมกับปัจจัยเหล่านี้ทำให้เจียงหยางป้ามีความสุขมากและเขาก็หัวเราะออกมาดัง ๆ เสียงหัวเราะนี้แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกดีใจแค่ไหน มีบิดาคนไหนที่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก ?
หลังจากสงบลงแล้ว เจียงหยางป้าก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน เซียงเอ๋อ เจ้าต้องลำบากมาหลายปีแล้ว
เจี้ยนเฉินรู้สึกอบอุ่นในหัวใจทันทีจากคำพูดของพ่อเขา เขาตอบว่า ไม่เลย ลูกได้เรียนรู้หลายสิ่งจากโลกภายนอก
ดี! ดีมาก! เซียงเอ๋อเป็นคนฉลาดจริง ๆ ! เจียงหยางป้าสามารถพูดได้แค่คำเหล่านี้เท่านั้นในการอธิบายความสุขของเขาต่อเจี้ยนเฉิน เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินสงบ, รู้สึกควบคุมอารมณ์และรูปงาม เขาไม่รู้สึกไม่พึงพอใจอีกต่อไป เขารู้ว่าลูกคนเล็กของเขาเติบใหญ่อย่างแท้จริง
เมื่อเห็นเจียงหยางป้าทำดีต่อเจี้ยนเฉินมากแค่ไหน ไป๋ยู่ซวงก็ยิ่งดูไม่มีความสุข เนื่องจากเจียงหยางป้าให้ความสนใจกับเจี้ยนเฉิน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของไป๋ยู่ซวง
ไอ้หยา ! ทันใดนั้นเจียงหยางป้าก็นึกถึงบางสิ่งที่เจ็บปวดและความสุขของเขาก็เลือนหายไปจากใบหน้าของเขา มันมีแต่ท่าทางเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา น่าเสียดาย อาหู่…
จากคำพูดนี้หยูเฟิงหยานและไป๋หยุนเทียนทั้งสองต่างก็ถอนหายใจกับความโชคร้ายของเจียงหยางหู่
เจี้ยนเฉินนึกถึงพี่ใหญ่ของเขาทันที เจียงหยางหู่และรู้สึกเศร้าทันที ท่านพ่อ ลูกต้องการจะไปเยี่ยมพี่ใหญ่
เจียงหยาป้าตกใจก่อนที่จะส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าพ่อของเขาเจ็บปวดเพียงใด ในใจลึก ๆ เขาจะต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยเขาได้ ? เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่สนิทต่อกันมาก แต่ตอนนี้เจียงหยางหู่อยู่ในสภาพที่สาหัสอย่างมาก เจี้ยนเฉินก็อดที่จะเจ็บปวดไม่ได้
ท่านพ่อ ลูกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่ โปรดอย่ากังวล เขาจะต้องหายดีแน่นอน เจี้ยนเฉินพูด
เจียงหยางป้าส่ายหัวอีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจ พูดน่ะมันง่ายกว่าทำ การที่จะทำให้แขนขางอกใหม่ต้องเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ภายในทวีปเทียนหยวน ไม่เพียงแต่จะหาตัวได้ยากและยากที่จะได้พบพาน แม้จะเจอเราก็ไม่อาจเชิญคนนั้นมาได้ เขาอยู่ในโลกที่แตกต่างจากเรา
เจี้ยนเฉินรู้ดีว่าการเชิญเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 นั้นเหมือนกับไปเชิญเซียนผู้คุมกฏ พวกเขามีสถานะเทียบเท่ากับเซียนผู้คุมกฏและเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ไปถึงขั้นนั้นก็หายากมาก พวกเขาไม่เหมือนกับนักสู้ การคงอยู่ของพวกเขาเหล่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงนั้นมีตัวตนที่สูงส่งอย่างมาก
ท่านพ่อ ลูกต้องการเยี่ยมพี่ใหญ่ เจี้ยนเฉินพูดอีกครั้ง
งั้นก็ได้ ! ในที่สุดเจียงหยางป้าก็ตอบตกลง เขาไม่กินอาหารอีกต่อไป เขาเดินไปหาเจียงหยางหู่ทันทีพร้อมกับเจี้ยนเฉินและฮูหยินทั้งสาม
เจี้ยนเฉินเดินตามหลังเจียงหยางป้าเข้าไปในห้อง ตอนนี้เจียงหยางหู่ที่ไม่อาจเคลื่อนไหวใด ๆ เขาอยู่บนเตียงจ้องมองเพดานอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขามีแต่ผ้าพันแผลโดยไม่มีแขนขา
แม่ของเจียงหยางหู่ หลิงหลงนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา ผมของนางยุ่งเหยิงและหน้าซีด ดวงตาทั้งสองข้างเป็นรอยเปื้อนน้ำตาและมีคราบน้ำตาที่สามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของนาง นี่เป็นหลักฐานว่านางไม่ได้ล้างหน้ามาหลายวันแล้ว
ฮูหยิน ข้าขอร้องท่านล่ะ ทานอะไรบ้าง ท่านไม่ได้ทานอาหารมาหลายวันแล้ว ! ข้าง ๆ นาง มีสาวใช้หลายคนกำลังส่งเสียงบอกนางพร้อมกับนำอาหาร, อ่างล้างหน้าและชุดใหม่
เจียงหยางป้าถอนหายใจและโบกมือให้สาวใช้ออกไป เขายืนมองอยู่ข้าง ๆ เตียงด้วยความโศกเศร้าขณะที่เขาเหลือบมองลูกชายคนโตของเขา เจียงหยางหู่ ที่ถูกตัดแขนขา ชีวิตเช่นนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่าตาย