ตอนที่ 644 หญิงโสดไม่จำเป็นต้องอยู่เป็นเพื่อน

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 644 หญิงโสดไม่จำเป็นต้องอยู่เป็นเพื่อน
เหลยข่ายอึ้ง คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะปฏิเสธตนทางอ้อมอย่างนี้ ถ้าหากเป็นคนอื่นละก็ คงจะตกลงอย่างตกใจต้องแต่แรกแล้ว

แต่ซูฉิงที่มีนิสัยไม่แตกตื่นและไม่สนใจตรงประโยชน์ ยิ่งทำให้เหลยข่ายชื่นชมเธอ

คุณปู่ฮ่อเห็นเฉินเจียวมีสีหน้าโกรธมากกว่าเดิมก็รีบพูดห้าม

“เอาละๆ ทุกคนก็เหนื่อยมามากแล้ว ทุกคนมานั่งรับประทานอาหารกันเถอะ”

คุณปู่ฮ่อประมือแล้วเริ่มงาน

เขาโบกมือไปทางเฉินเจียว พร้อมกับยิ้มให้:”เด็กดี เธอมานี่สิมากินข้าวกับปู่”

เฉินเจียวรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้ม พยักหน้าราวกับบดกระเทียม แล้วก็เดินยกกระโปรงเข้าไปหาคุณปู่ฮ่อ มองหน้าซูฉิงที่นั่งอยู่ข้างคุณปู่ฮ่อ ด้วยสีหน้าได้ใจ

ซูฉิงไม่สนใจ ตั้งใจกินข้าวที่อยู่ตรงหน้าของตน

คนรับใช้ที่ยกเก้าอี้มาให้เฉินเจียว ก็ยกมาวางไว้ข้างอีกฝั่งหนึ่งของคุณปู่ฮ่อ

แววตาของเฉินเจียวจ้องไปข้างบน และซูฉิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ไม่ได้สนใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบอารมณ์

“เดี๋ยวพอกินข้าวเสร็จแล้วนายก็อยู่คุยเป็นเพื่อนเจียวเจียวหน่อยนะ อย่าทำให้เธอรู้สึกเบื่อละ”

ใครจะรู้ว่าแขกทุกคนที่กินข้าวไปได้สักพักหนึ่งแล้วคุณปู่ฮ่อจะสั่งให้ฮ่อหยุนเฉิงคุยเป็นเพื่อนเฉินเจียว

แววตาของซูฉิงเผยความรู้สึกอึ้งออกมา แต่มือก็ยังไม่ได้หยุดยังคงกินอาหารของตัวเองต่อไป

“ผมคงไปไม่ได้หรอกครับ ผมต้องอยู่กับเสี่ยวฉิง”

ฮ่อหยุนเฉิงปฏิเสธต่อหน้าทุกคนออกมาทันที ทำให้เฉินเจียวหน้าเสีย

“ให้นายไปก็ไปสิ จะมัวพูดมากทำไม”

คุณปู่ฮ่อที่มีสีหน้าเคร่ง เมื่อกี้เขามองออกว่าเฉินเจียวหน้าเสียไป ถ้าหากไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้สถานการณ์ ก็กลัวว่าตระกูลเฉินจะต้องมาหาเขาถึงที่แน่

“ผมไม่ไป”

ฮ่อหยุนเฉิงปฏิเสธอีกครั้ง แล้วก็คีบเนื้อที่อยู่บนโต๊ะใส่ถ้วนให้กับซูฉิง :”อะนี่ของชอบของเธอ กินเยอะๆ นะ”

ซูฉิงอึ้ง คิดไม่ถึงว่าฮ่อหยุนเฉิงจะปกป้องตนอย่างนี้ ขนตางอนสั่นไหวระริกแล้วเธอก็พยักหน้า

มองแววตาอ่อนโยนของฮ่อหยุนเฉิง ใจของเฉินเจียวก็ถูกยกขึ้นมา

นึกถึงตอนที่อยู่ในห้องทำงาน เขามองตนด้วยสายตาเย็นชาไม่พอใจ และเปรียบเทียบกับสายตาที่มองซูฉิงที่อ่อนโยน เฉินเจียวยิ่งรู้สึกไม่ยอม

และคุณปู่ฮ่อที่อยู่ในงานเลี้ยง เฉินเจียวก็พูดอะไรมากไม่ได้ ทำได้กินอาหารไปอย่างเงียบๆ

“ตอนนี้บรรยากาศกำลังดีและวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของปู่ แกจะไม่เชื่อฟังคำปู่เลยใช่มั้ย”

แต่ใครจะรู้ว่าคุณปู่จะโกรธโมโห พร้อมกับพูดตำหนิฮ่อหยุนเฉิงต่อหน้าแขกคนอื่นๆ

“ผมก็แค่ทำเรื่องที่ผมควรทำ”

แต่ใครจะรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเถียงไม่ยอมแพ้เช่นกัน เถียงกับคุณปู่ฮ่อต่อหน้าคนอื่น

“ผมมีคู่หมั้นแล้ว คุณปู่ยังจะให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงโสดอีก คุณปู่คิดว่ามันเหมาะสมหรอครับ”

“เธอเป็นเพื่อนของนาย!”

คุณปู่ฮ่อที่รู้สึกไม่พอใจเลยพูดอธิบายแทนเฉินเจียวต่อหน้าคนอื่น ทุกคนโดยรอบต่างก็มองมา ซูฉิงเลยรีบพูดกล่อม

“เอาละๆ ไม่เป็นไรนะ กินข้าวเถอะค่ะ”

ซูฉิงที่พูดออกมา แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่พูดต่อ เป็นอย่างนี้ทั้งสองคนหน้าเคร่งขรึม ไม่มีใครพูดอะไรต่อ

งานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างก็ทยอยกลับกันแบบไม่สนุก ระหว่างกลับบ้านซูฉิงก็พ่นลมหายใจออกมา

เช้าวันต่อมา

ซูฉิงยืนอยู่หน้าบ้านของกู้ชวน จัดการเสื้อผ้าให้เข้าทีแล้วก็เดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน

หลังจากรออยู่สักครู่ ก็มีคนมาเปิดประตู และซูฉิงที่กำลังจะยกมือทักทายก็เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกับกู้ชวน

เธอเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นว่าไม่ใช่กู้ชวนแต่เป็นเหลยข่าย

ซูฉิงแววตาหดลง เหลยข่าย เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“ท่าน ท่านอาวุโสเหลยสวัสดีค่ะ”

ซูฉิงเอ่ยทักทายเหลยข่าย และเหลยข่ายที่เห็นว่าเป็นซูฉิง ถึงแม้รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยังพยักหน้าเบาๆ

“เข้ามาเถอะ เธอมาหากู้ชวนใช่มั้ย”

ซูฉิงพยักหน้า คิดไม่ถึงว่าเหลยข่ายก็มาบ้านกู้ชวนด้วย

“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมท่านอาวุโสกู้นายแล้ว กลัวว่าเขาจะคิดว่าฉันที่เป็นเด็กจะไม่มีมารยาทเลยมาเยี่ยมเขาค่ะ”

“ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ”

เหลยข่ายพยักหน้า ประจับใจซูฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ

ครั้งนี้ซูฉิงก็ได้เตรียมของมาด้วย เธอตั้งใจนำหยกคุณภาพดีมากมาฝาก ซึ่งกู้ชวนนั้นชื่นชอบหยกอยู่แล้ว

เหลยข่ายที่สังเกตเห็นก็พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วก็เดินนำซูฉิงเข้าไปในบ้าน

กู้ชวนที่นั่งอยู่ตรงกลางห้อง มือของเขายังถือชงชาอยู่ :”ใครหรอ”

“ท่านอาวุโส ฉันเองค่ะ”

ซูฉิงตอบ แล้วนำหยกที่อยู่ในมือของตนไปวางบนโต๊ะ :”นี่ของหยกที่ฉันสั่งให้คนเอามา น่าจะให้คุณได้เล่นสนุกอีกสักสองวัน”

” โอเคๆ ช่างใส่ใจดีจริงเลยๆ”

กู้ชวนพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาหาซูฉิง

“ดูเธอสิ ช่างเป็นผู้หญิงสวยเหมือนตุ๊กตา หน้าตาไม่เลวเลยนะ”

กู้ชวนยักคิ้วให้ พร้อมกับทำหน้าได้ใจมองไปทางเหลยข่าย

“ไม่เลว ไม่เลว”

เหลยข่ายได้แต่พูดรับคำกู้ชวน วินาทีต่อมา กู้ชวนก็วางมือลงบนพุงของซูฉิง

“ฉันจะให้เธอดูอะไร นายอย่ากะพริบตานะ”

จากนั้นก็เห็นกู้ชวนใช้พลังภายใน ทำให้เส้นเอ็นบนฝ่ามือก็นูนขึ้น ชิงตันของซูฉิงก็ปรากฏต่อสายตาของทั้งสองคน

สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นก็คือตันชิงของซูฉิงคือสีเขียวมรกต ถ้าเทียบกับของคนอื่นที่มีสีเทาเข้มแล้ว ตันชิงของเธอดูใสมาก

และก็แสดงว่าตันชิงของซูฉิงดี แม้แต่เหลยข่ายก็ไม่เคยเห็น

เขาหรี่ตาลง ประมือชมไม่ขาดปาก:”ไม่เลย ไม่เลวเลยจริงๆ”

วินาทีต่อมาซูฉิงก็ดึงชิงตันหลับ

เธอคิดไม่ถึงว่ากู้ชวนจะทำเรื่องอย่างนี้ ก็รู้สึกอึดอัดใจ

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ทำเรื่องน่าอายต่อหน้าคุณ”

ซูฉิงเกาหัวท่าทางไม่เป็นตัวของตัวเอง

“ไม่เป็นไร”

เหลยข่ายโบกมือให้ พร้อมทั้งพูดชมตันชิงของซูฉิงไม่หยุด:”อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงเลย ตันชิงของเธอเยอะกว่าลูกศิษย์ของฉันอีก มีคนมากมายฝึกฝนอยู่ตั้งนานถึงได้ระดับนี้ คิดไม่ถึงที่เธออายุยังน้อยยังมีแล้ว หาได้ยากจริงๆ”

กู้ชวน ระเบิดหัวเราะออกมา เขามองออกว่าเหลยข่ายพอใจในตัวซูฉิงมาก เพราะซูฉิงเป็นคนที่หาได้ยากจริงๆ

“ไม่หรอกค่ะ ท่านอาวุโสเหลยอย่าล้อเล่นกับฉันเลยค่ะ”

ซูฉิงยิ้มให้ แล้วก็ลูบพุงตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ พ่นลมออกมา

“ดูท่าเรื่องของเธอที่โลกภายนอกรู้กันนั้นล้วนไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าใครกันที่นำไปปล่อยข่าวมั่วๆ ออกไป”

เหลยข่าวคิ้วขมวด ก่อนหน้านี้มีคนปล่อยข่าวเรื่องของซูฉิงมากมาย ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้ได้มาเจอด้วยตาตัวเอง เกราะว่าคงจะไม่เชื่อ

“เรื่องของโลกข้างนอกนั้นพวกเราไม่สนใจอยู่แล้ว พวกเขาจะพูดอะไรก็ให้พวกเขาพูดเถอะค่ะ”

ซูฉิงตอบเสียงเรียบ ทำให้เหลยข่ายยิ่งชอบใจ

วัยหนุ่มสาวสมัยนี้จะมีทั้งความฉลาดและมุ่งมั่น หาได้ยากมาก

กู้ชวนมองออกว่าเหลยข่ายกำลังคิดอะไรอยู่ เลยรีบพูดห้ามเขาทันที:”เอ่อ เดี๋ยวก่อน คุณอย่าคิดอะไรแผงๆ นะ ”

เหลยข่ายพอได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมอง

“ความคิดแผง ๆ อะไร คุณพูดดีๆ นะ!”