ตอนที่ 245 ต่างคนต่างฝัน / ตอนที่ 246 หยิ่งผยอง

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 245 ต่างคนต่างฝัน 

 

 

“ซย่าเสี่ยวมั่ว ยายผู้หญิงหื่นกาม” เหยียนเค่อให้ตายก็ไม่ยอมง่ายๆ 

 

 

“ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นสักหน่อย ฉันก็แค่มาดูว่านายจะสภาพแย่ขนาดไหนเท่านั้น” ซย่าเสี่ยวมั่วจ้องหน้าจอตาเป็นประกาย 

 

 

เหยียนเค่อจับคอเสื้อของตัวเองแน่น “เธอมาแอบดูตอนไหนกัน! อย่ามาพูดมั่วๆ นะ” 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินดึงเสื้อเขาออกอย่างป่าเถื่อนรุนแรง ดึงปกคอด้านหลังแล้วถอดเสื้อเขาออก “ถ้าพวกนายยังมัวแต่คุยไร้สาระกันอีก คืนนี้ก็ไม่ต้องนอนแล้ว” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยช้ำสีม่วงเขียวแล้วก็หายใจเฮือก เธอยังรู้สึกเจ็บแทนเลย ไม่กล้ามองตรงๆ 

 

 

เหยียนเค่อหยิบหมอนมาบังหน้าอกตัวเองไว้อย่างหวาดระแวง “แผ่นหลังอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของฉันต้องมาถูกพวกนายเห็นซะได้ พวกคนที่มองแล้วก็ไม่รับผิดชอบ!” 

 

 

“เหอะๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วแสร้งปิดปากหัวเราะ “แล้วพยาบาลที่ทำคลอดให้นายล่ะ จะทำยังไง” 

 

 

เหยียนเค่อไม่รู้จะตอบอย่างไร หันหน้ากลับไปนอนคว่ำเงียบๆ 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินมือไม่หนัก และก็ไม่ได้อาศัยโอกาสนี้ล้างแค้น กดนวดให้เหยียนเค่อด้วยแรงที่กำลังพอเหมาะ สบายตัวจนเหยียนเค่อเอาแต่ครางอืม ซย่าเสี่ยวมั่วมองใบหน้าด้านข้างที่สุขสมของเขาแล้วก็นึกสงสารพี่ชายตนเองขึ้นมา 

 

 

“สบายจริงๆ กดทางซ้ายหน่อย อืม…” 

 

 

“เสียงนายทำให้ฉันคิดไปไกลนะ” ซย่าเสี่ยวมั่วที่วาดรูปอยู่เหลือบมองปราดหนึ่ง 

 

 

“คิดไปไกลอะไรกันเล่า” เหยียนเค่อพึมพำ ฝังศีรษะลงบนหมอน พอร่างกายสบายแล้วก็อยากจะนอนหลับ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นเขาใกล้หลับแล้วก็ไม่ไปรบกวน นั่งมองเงียบๆ อยู่ด้านข้างไม่ส่งเสียง 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินนวดให้เขาเสร็จก็หมุนข้อมือมองคนที่นอนหลับสบายใจเฉิบ หยิบผ้าห่มผืนบางมาคลุมให้เหยียนเค่อ กำลังจะหันไปคุยกับซย่าเสี่ยวมั่วสักหน่อย ก็เห็นว่าคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าของหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็หลับลงบนโซฟาเสียแล้ว 

 

 

เขาแค่ทายาถึงกับหลับกันเลยเหรอ 

 

 

เหยียนเค่อนอนหลับไปเลยได้ แต่ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้ นอนไม่ห่มผ้าแบบนี้จะป่วยเอา 

 

 

“มั่วมั่ว! ตื่นแล้วลุกไปนอนในห้องไป” 

 

 

ตอนแรกเสิ่นจิ้งเฉินก็ยังตะโกนเรียกเธอด้วยเสียงนุ่มนวลอยู่หรอก ตอนหลังถึงกับแหกปากตะโกน ซย่าเสี่ยวมั่วที่สะดุ้งตื่นเพราะเขาขยี้ตาอย่างไม่พอใจ 

 

 

“ทำไมพี่ต้องตะโกนเสียงแหลมขนาดนั้นด้วยเล่า” เธอเก็บของแล้วกลับห้อง “ฉันไปนอนแล้วนะ ฝันดีค่ะ” 

 

 

“อืม” เสิ่นจิ้งเฉินโบกมือให้เธอรีบกลับห้องไปนอน 

 

 

ผู้ชายไม่มีเมียน่ะได้ แต่ผู้หญิงถ้าไม่แต่งงานออกไปก็มีหลายอย่างที่ไม่สะดวก 

 

 

แนวรบของเสิ่นจิ้งเฉินและคุณแม่ซย่าค่อยๆ มาบรรจบกันแล้ว 

 

 

หลังจากเสร็จกิจกรรมรักแล้ว ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวโลกีย์ที่ทำให้อดขัดเขินไม่ได้ 

 

 

เหยียนเฟิงปล่อยคนในอ้อมอก สวมชุดคลุมอาบน้ำแล้วเข้าไปชำระร่างกาย 

 

 

เบลล์รู้สึกว่าความอบอุ่นด้านหลังของตนเลือนหายไป ก็ยืดมือออกไปดึงผ้าห่มมาห่อตัวเองเป็นดักแด้ ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา 

 

 

เสียงน้ำในห้องน้ำไม่นานก็เงียบลง แต่คนด้านในนั้นไม่ได้กลับไปนอนที่เตียงอีก 

 

 

เหยียนเฟิงจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ในมือหยิบรายงานการสำรวจใหม่ล่าสุดขึ้นมาดู รายชื่อด้านบนเรียงรายกันแน่นขนัด แต่กลับระบุด้วยเครื่องหมายที่ไม่แน่นอน 

 

 

เหยียนเค่อมีอสังหาริมทรัพย์ในครอบครองทั้งหมดเท่าไรนั้น จนถึงวันนี้เขาก็ยังสืบจนแน่ชัดไม่ได้ ธุรกิจภายใต้การควบคุมของ YAN เป็นเพียงธุรกิจส่วนหนึ่งที่คนอื่นได้เห็นเท่านั้น แต่ธุรกิจที่เหยียนเค่อกุมอำนาจอยู่ลับๆ กลับยังไม่ได้ปรากฏออกมา  

 

 

ธุรกิจอาหารในนามของสวีอันหรานที่ความจริงแล้วอยู่ในการควบคุมของเหยียนเค่อก็มีมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ส่วนธุรกิจอื่นมีมากเท่าไรนั้น นอกจากเจ้าตัวแล้วก็ไม่มีใครล่วงรู้ข้อมูลที่แท้จริง… 

 

 

น้องชายของเขาคนนี้ช่างมีความสามารถมากเสียจริง 

 

 

เหยียนเฟิงกวาดตามองรายชื่อที่เรียงรายกัน ไล่สายตาไปยังท้ายกระดาษ ก่อนจะใช้ไฟของบุหรี่จี้ลงบนเอกสารชุดนั้น 

 

 

ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดาอย่างซย่าเสี่ยวมั่ว ไม่ว่าอย่างไรก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเหยียนไม่ได้ ทว่าถ้าน้องชายของเขายังมุ่งมั่นเช่นนั้นล่ะก็ เขาจะช่วยอีกแรงก็ย่อมได้ 

 

 

เหยียนเฟิงหรี่ตาลงอย่างเคยชิน ใบหน้าเย็นชาเจือความชั่วร้าย 

 

 

เขาทุ่มเทเพื่อตระกูลเหยียนมากมายขนาดนั้น เหยียนเค่ออย่าหวังจะแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเขาไปได้เลย 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 246 หยิ่งผยอง 

 

 

เมื่อเบลล์ตื่นก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าเหยียนเฟิงคงไม่อยู่เคียงข้างตน จึงล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า มองรอยรักสีแดงบนคอของตนแล้วขมวดคิ้วมุ่น ไม่ได้เอ่ยทักทายเหยียนเฟิงก็กลับออกไปก่อน 

 

 

เมื่อเหยียนเฟิงเดินออกมาจากห้องหนังสือ ในบ้านก็ไม่มีใครอยู่แล้ว อาหารเช้าแบบเดลิเวอร์รี่ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ไม่ร้อนแล้วเช่นกัน 

 

 

เขายกกาแฟขึ้นดื่มอึกหนึ่ง รสชาติขมเจือหวานของกาแฟอันเย็นชืดทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่ว…เขามองแสงอรุณเบิกฟ้าด้านนอกหน้าต่าง ถึงเวลาที่สวีอิ๋งอิ๋งจะได้แสดงความสามารถแล้ว 

 

 

หลังผ่านการตกตะกอนความคิดมาเป็นเวลาหนึ่งคืน อารมณ์ของสวีอิ๋งอิ๋งจึงสงบลง เธอปลอบใจตัวเอง ผู้ชายมักจะไม่เข้าใจความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามเสมอ เธอต้องเข้าใจเหยียนเฟิง ต้องแสดงอำนาจของคุณนายใหญ่ของตระกูลออกมา 

 

 

เหยียนเฟิงได้รับโทรศัพท์จากสวีอิ๋งอิ๋งก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็พอจะคาดเดาได้บ้าง 

 

 

“มีอะไรเหรอ” 

 

 

“ทำไมพี่เย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ” สวีอิ๋งอิ๋งบ่นว่าอย่างไม่พอใจ แต่ก็กลัวว่าจะทำให้เหยียนเฟิงหงุดหงิดขึ้นมาอีก จึงรีบพูดต่อ “พี่อย่าโกรธไปเลยนะคะ ฉันมีเอกสารที่เหยียนเค่อกับสวีอันหรานร่วมมือกันตรงที่ดินหนานซานในช่วงก่อนหน้านี้ จะให้ฉันเอาไปส่งให้หรือเปล่าคะ” 

 

 

ในที่สุดเหยียนเฟิงก็ได้ยินประเด็นหลักของคำพูดนี้เสียที พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “อืม ดีมาก เอามาให้ฉันเลยแล้วกัน” 

 

 

พอสวีอิ๋งอิ๋งได้ยินว่าเสียงเขาอ่อนลงก็ลิงโลดในใจ “ค่ะ รอแป๊บหนึ่งนะคะ” 

 

 

“เบลล์ เดี๋ยวไปรับคุณสวีที่หน้าประตูลิฟต์ด้วย” 

 

 

“ค่ะ” เบลล์ได้รับคำสั่งก็น้อมรับโดยไร้เงื่อนไข อย่างไรเสียคุณสวีก็เป็นแค่คนน่าสงสารที่มอบความรักให้ไม่ถูกคนเท่านั้น 

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งที่เดินออกมาจากลิฟต์ส่วนตัวก็เห็นผู้หญิงคนเดียวกับเมื่อวาน สีหน้าเรียบนิ่งลงทันที 

 

 

“เธอเป็นใคร” 

 

 

“ฉันเป็นผู้ช่วยของประธานเหยียน เบลล์ค่ะ ประธานเหยียนให้ฉันมาต้อนรับคุณ” เบลล์เดินนำอยู่ด้านหน้า 

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งพูดเสียงดุดัน “อย่านึกว่าเธอได้นอนกับเหยียนเฟิงแล้วจะหมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขานะ” 

 

 

“คุณสวีคะ ฉันไม่คิดว่าฉันไปทำให้คุณรู้สึกว่าฉันเป็นผู้หญิงของประธานสวีตรงไหนเลยนะคะ ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยของเขาเท่านั้นค่ะ” 

 

 

เสียงของเบลล์เรียบนิ่ง ความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวของเธอกับสวีอิ๋งอิ๋งก็คือ เธอรู้สถานะของตัวเองดี แต่คุณสวีคนนี้ดูท่าแล้วจะหลงเหยียนเฟิงจนโงหัวไม่ขึ้น 

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งร้องเหอะ “เป็นอย่างนั้นก็ดี” เดินผ่านเบลล์ไปอย่างหยิ่งผยอง 

 

 

เบลล์ชินเสียแล้วกับการที่เหยียนเฟิงเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยอย่างกับอะไรดี บางทีผู้หญิงที่เมื่อวานยังชี้นิ้วสั่งเธออยู่ วันนี้ก็อาจจะมาอ้อนวอนเธอให้เธอพาเขาเข้าไปด้านในก็ได้ เรื่องแบบนี้เห็นมาเยอะจนเธอไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว 

 

 

เมื่ออันหร่านเห็นเหยียนเค่อในการประชุมตอนเช้า กาแฟที่กำลังจะไหลลงคอก็เกือบสำลักเข้าจมูก 

 

 

“แค่กๆๆ” 

 

 

“หัวหน้าอันมีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” หลังจากเหยียนเค่อนั่งลงแล้วก็มองหญิงสาวที่นั่งเยื้องกับเขาปราดหนึ่ง ก่อนจะพลิกดูรายงานในมือ 

 

 

อันหร่านกล้าที่ไหนกันล่ะ รีบโบกมือปัด “ไม่กล้าหรอกค่ะ” 

 

 

ห้องประชุมที่เคยครบองค์วันนี้กลับมีอยู่หร็อมแหร็มไม่ถึงสิบคน 

 

 

“วันนี้มีประชุมตอนเช้าไม่ใช่เหรอ” อันหร่านสะกิดผู้จัดการแผนกที่รับผิดชอบออกแบบสิ่งพิมพ์ 

 

 

“ค่ะ ได้เจอบอสแล้วคุณตื่นเต้นหรือเปล่า” หญิงสาวนั่งหลังตรง ขยับปากขมุบขมิบ 

 

 

อันหร่านไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด เธอนึกว่าตัวเองอ่านประกาศผิดเสียอีก คนที่นั่งอยู่รอบด้านต่างก็เป็นผู้มีตำแหน่งสูงและมากอำนาจอย่างผู้อำนวยการและผู้จัดการ มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เป็นหัวหน้าบก.ตัวน้อยๆ…สิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้นเธอไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย 

 

 

เหยียนเค่อมือหนึ่งเท้าคาง นั่งดูรายงานความคืบหน้าในไตรมาสนี้อันยืดยาวของแต่ละแผนก 

 

 

ผู้จัดการแผนกการ์ตูนยังคงยืนพูดอยู่ด้านบนไม่หยุดหย่อน “ช่วงหลายปีมานี้ ธุรกิจการ์ตูนในประเทศเราพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งคุณสมบัติของนักวาดและทางด้านอุปกรณ์ต่างก็มีความก้าวหน้ามากขึ้น แผนกการ์ตูนหยิบเลือกเอาหนังสือการ์ตูนที่โดดเด่นของนักวาดจากบริษัทเรามาทำเป็นแอนิเมชันแบบ 3D คาดว่าจะดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนนี้…”