ตอนที่ 247 เชือดไก่ให้ลิงดู / ตอนที่ 248 ไม่เข้าใจ

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 247 เชือดไก่ให้ลิงดู 

 

 

เหยียนเค่อยกมือขึ้นขัดจังหวะการแสดงความคิดเห็นที่หลุดประเด็นของผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า “คุณช่วยพูดอะไรที่เป็นรูปธรรมหน่อยได้ไหมครับ มีแนวโน้มการพัฒนาที่ดีในภายภาคหน้าแล้วยังไงครับ? ให้บริษัทลงทุนจำนวนมากโดยไร้เงื่อนไขอย่างนั้นเหรอครับ?” 

 

 

ผู้จัดการแผนกการ์ตูนหน้าแดงด้วยความอับอาย ก่อนจะพยักหน้า “ครับ” 

 

 

เหยียนเค่อปิดเอกสารแล้วถามเขาอย่างจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าจะไปหาเงินทุนที่คุณต้องการก้อนนี้มาจากไหนครับ” 

 

 

“แผนกพัฒนาเกมใช้ทรัพยากรและเงินทุนจำนวนมากมาโดยตลอด แม้แต่นักวาดที่ดีที่สุดพวกเขาก็ยึดไปใช้หมด” 

 

 

เหยียนเค่อทำให้ทั้งสองแผนกโต้เถียงกันได้โดยไม่ต้องทำอะไรมากมายเลย อันหร่านมองดูผู้จัดการสองคนที่ปกติแล้วก็ยังดีๆ กันอยู่ แต่ตอนนี้กลับกำลังทำสงครามน้ำลายเพราะปัญหาเงินทุน ก่อนจะแอบยกนิ้วโป้งให้เหยียนเค่อเงียบๆ 

 

 

เจ้านายคือคนมีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างแท้จริง 

 

 

“พวกคุณไม่ต้องทะเลาะกันแล้วครับ หลังประชุมเสร็จไปคุยกันที่ห้องทำงานผมแล้วกัน คนต่อไปครับ” เหยียนเค่อโบกมือ แล้วให้คนถัดไปขึ้นมาพูด 

 

 

อันหร่านนั่งฟังประชุมอย่างุนงงตลอดสามชั่วโมง ในตอนสุดท้ายหลังเลิกประชุมแล้ว เหยียนเค่อจึงจะเรียกชื่อเธอ 

 

 

“ค่ะประธานเหยียน” 

 

 

“คุณไปถามมั่วอวี๋ ว่าเขามีความคิดอะไรให้กับแผนกพัฒนาเกมและแผนกการ์ตูนของบริษัทเราบ้าง” 

 

 

อันหร่านไม่พอใจ ง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ 

 

 

เหยียนเค่อเองก็ไม่ได้พูดคุยกับสองผู้จัดการนานเท่าไรนัก ที่เขาพุ่งเป้าไปที่คนอื่นก็เพราะมีเหตุผล 

 

 

“คุณ” เขาพยักพเยิดคางไปทางผู้จัดการแผนกการ์ตูน “รับผิดชอบด้วยการลาออกเถอะครับ แล้วก็ ถ้าคุณออกไปจากที่นี่แล้ว ก็ห้ามเอาสิ่งที่ไม่ใช่ของคุณออกไปด้วย” 

 

 

ผู้จัดการแผนกการ์ตูนยังอยากพูดหลักวิชาการต่ออีกสักหน่อย แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของ 

 

 

เหยียนเค่อที่มองมาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วก็กลัวจนเหงื่อตก “ครับ” 

 

 

“ส่วนคุณรอฟังคำสั่งใหม่แล้วกัน ความคิดสร้างสรรค์ของแผนกพัฒนาเกมดีมาก ตั้งใจทำงานล่ะ” 

 

 

“ครับ” ผู้จัดการแผนกพัฒนาเกมตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว รับเอกสารที่ผ่านการอนุมัติจากเหยียนเค่อ เมื่อเดินออกนอกประตูก็ยังรู้สึกหวาดผวาอยู่ ในการประมูลในช่วงก่อนหน้านี้ ไอเดียของแผนกการ์ตูนถูกขโมยไป คาดไม่ถึงว่าผู้จัดการแผนกการ์ตูนจะเป็นคนขโมยไปเสียเอง 

 

 

การเชือดไก่ให้ลิงดูเช่นนี้ กำลังส่งสัญญาณเตือนเขาอยู่ 

 

 

แผนกพัฒนาเกมมีปัจจัยสำคัญส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในมือ ถ้าไม่กระตุ้นสักหน่อย เมื่อเจอกับปัญหาแล้ว ไม่ใช่แค่รับผิดชอบด้วยการลาออกแล้วจะสามารถแก้ไขได้ 

 

 

หลังจากอันหร่านกลับห้องทำงานก็เอากาแฟที่เย็นชืดแล้วไปเททิ้ง ดื่มน้ำอุ่นสองสามอึกแล้วจึงไปหาซย่าเสี่ยวมั่ว 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมาทำงานวันแรก ขณะกำลังนั่งฟุบเหม่ออยู่บนโต๊ะ ก็เห็นอันหร่านเดินเข้ามา 

 

 

“เธอคงไม่รู้สึกเบื่อหรอกนะ” อันหร่านเปิดหน้าต่างรับลมให้เธอ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า ก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะต่อ “ฉันเป็นนักวาดการ์ตูนจะวาดที่ไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันอยากนั่งที่พื้นยังนั่งไม่ได้เลย” 

 

 

อันหร่านเอือมระอา “เธอก็ทนๆ ไปก่อนแล้วกัน ผ่านช่วงนี้ไปแล้วเดี๋ยวฉันจะปรับปรุงให้แล้วกันนะ” 

 

 

“ปรับปรุง?” ซย่าเสี่ยวมั่วนั่งเอามือเท้าศีรษะอย่างหมดแรงแล้วเล่นปากกาลูกลื่นบนโต๊ะ “เธออย่ามาแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายที่ฉันพูดได้ไหม” 

 

 

“เธอรู้ไหมว่าตอนนี้บริษัทเราเกิดเรื่องมากมายเลย เมื่อกี้ผู้จัดการแผนกการ์ตูนก็เพิ่งลาออกไป” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพูดขัดขึ้น “เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ อย่าเพิ่งพูดคำว่า ‘บริษัทเรา’ ได้ไหม” 

 

 

อันหร่านหัวเราะ พูดเข้าประเด็นของตัวเองอย่างเหนื่อยหน่ายใจ “แฟ้มของบริษัทเธอดูแล้วใช่ไหม” 

 

 

“ดูแล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าบริษัทใหญ่อย่างนี้บ้าบอชะมัด เรื่องอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด 

 

 

“ดูแล้วก็ดี” อันหร่านพลิกรื้อของบนโต๊ะทำงานเธอก่อนจะถาม “เธอมีความคิดอะไรให้กับแผนกพัฒนาเกมและแผนกการ์ตูนไหม” 

 

 

“ไม่มีอะ” ซย่าเสี่ยวมั่วเอาดินสอวางไว้ระหว่างริมฝีปากบนและจมูก ไม่ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามเลยแม้แต่น้อย 

 

 

“ฉันกำลังทำสำรวจแบบสอบถามอยู่ เธอให้ความร่วมมือหน่อย” อันหร่านโมโหแล้วหยิบปากกามาวงชื่อสองแผนกสำคัญบนแฟ้มเอกสารของแผนก 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นสีหน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ของเธอแล้ว จึงหยิบแฟ้มเอกสารมาดูด้วยท่าทางที่ตัวเองคิดว่าดูตั้งอกตั้งใจ ก่อนจะแสดงความคิดเห็น “ฉันคิดว่านะ เอาสองแผนกนี้มารวมกันน่าจะดีกว่า” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นว่าทั้งสองแผนกนี้มีจุดที่ซ้อนทับเกี่ยวพันกันค่อนข้างมาก ยกเว้นที่แผนกหนึ่งเป็นเกมและอีกแผนกหนึ่งเป็นการ์ตูนแล้ว ทีมบุกเบิกที่อยู่เบื้องหลังก็มีความเหมือนกันมาก มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงพูดเช่นนี้ออกไป 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 248 ไม่เข้าใจ 

 

 

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว เธอนั่งเบื่อๆ ไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาสั่งงาน” 

 

 

อันหร่านเองก็ไม่ได้หยุดรอนานนัก เมื่อได้รับการตอบกลับก็รีบไปบอกเหยียนเค่อ 

 

 

“ไปง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ…” ซย่าเสี่ยวมั่วมองแผ่นหลังของเขาที่จากไปอย่างไร้เยื่อใยก็อัดอั้นตันใจ “ถ้ารู้แต่แรกฉันไม่บอกเธอหรอก” 

 

 

“เข้ามาได้ครับ” เหยียนเค่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ 

 

 

“ประธานเหยียนคะ มั่วอวี๋บอกให้รวมสองแผนกนี้เข้าด้วยกันค่ะ” อันหร่านก็ไม่ได้พิธีรีตองมากนัก พูดเข้าประเด็นทันที 

 

 

เหยียนเค่อพยักหน้า “ให้เขาไปเขียนแผนการดำเนินการเป็นรูปธรรมมาให้ผม วาดเป็นการ์ตูนก็ได้” 

 

 

อันหร่านสะใจ คงทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้สึกเบื่ออีกเลย “ได้ค่ะ รับทราบ” 

 

 

หลังจากที่อันหร่านเดินออกไป เหยียนเค่อก็ลุกขึ้นเดินไปเดินมา 

 

 

เขาเข้ามาที่ฮุยเถิงไม่บ่อย แทบนับครั้งได้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ฮุยเถิงประมูลล้มเหลวกลางคันล่ะก็ ปีนี้เขาก็คงไม่ได้เข้ามาเลย 

 

 

เหยียนเฟิงใช้วิธีที่พบเห็นได้บ่อยและต่ำช้าที่สุดมารับมือกับเขาแล้ว มีหลายครั้งที่เหยียนเฟิงจับจุดได้ว่าเขาทำอะไรที่ไหน แต่หนอนบ่อนไส้ของ YAN อยู่ที่ไหน เขาก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเช่นกัน เขาแอบทอดถอนใจ บอกได้เลยว่า วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนี้ได้ผลชะงัดจริงๆ 

 

 

เหยียนเค่อเดินไปรอบๆ ชั้นเจ็ดและชั้นแปด โครงสร้างของสำนักงานเป็นแบบเปิด คนด้านในกำลังทำอะไรอยู่ แค่มองเข้าไปก็รู้แล้ว 

 

 

เมื่อเซียวอู๋อี้เห็นเหยียนเค่อที่กำลังเดินเล่นอยู่ ปากกาในมือก็หยุดชะงักลง 

 

 

ผู้ช่วยของเธอมองตามสายตาเธอก็พบกับชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ จึงเอ่ยบอกเธอเสียงเบา “ได้ยินว่าวันนี้บอสใหญ่มาตรวจการณ์ น่าจะคนนี้แหละ” 

 

 

เซียวอู๋อี้เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ หัวใจกระตุก แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า “เด็กขนาดนี้เลยเหรอ” 

 

 

“นั่นสิ อายุน้อยแต่ก็เก่งนะ มีผู้หญิงอยากนอนกับเขาตั้งเยอะ” ผู้ช่วยไม่รู้สึกตัว ยังคงพูดต่อไป 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่ว เธอนี่มันโชคดีจริงๆ…เซียวอู๋อี้มองผู้ชายที่เดินเลี้ยวไปตรงทางลงบันไดจากไกลๆ ก่อนจะหันมาคุยกับผู้ช่วยของตนต่อ 

 

 

เมื่อซย่าเสี่ยวมั่วได้รับงานที่อันหร่านนำมาบอกต่อก็ต่อต้านทันที 

 

 

“ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะ” เธอพูดตามตรง 

 

 

อันหร่านก็รู้สึกว่าเหยียนเค่อกลั่นแกล้งมากเกินไปหน่อย เอ่ยปลอบประโลมซย่าเสี่ยวมั่วที่ยังโมโหอยู่ “เธอก็เขียนแบบนี้ ย่อหน้าแรกเขียนความเห็นของเธอ ย่อหน้ากลางเขียนสาเหตุ ย่อหน้าสุดท้ายก็เขียนขั้นตอนการดำเนินการ” 

 

 

“อ๋อ” ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า ฟังแล้วก็คิดว่าไม่ได้ยากนัก 

 

 

อันหร่านไม่รู้ว่าเหยียนเค่อคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นซย่าเสี่ยวมั่วว่าง่ายเช่นนี้จึงรีบกลับไปตรวจต้นฉบับในห้องทำงานของตนต่อ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเขียนรายงานขึ้นมาอย่างคนที่จับต้นชนปลายไม่ถูก เสียแรงไปไม่น้อยกว่าจะร่างเค้าโครงออกมาได้ ก่อนจะเพิ่มตรงนั้นเติมตรงนี้ ต่อสู้กับรายงานฉบับนี้ตลอดช่วงเช้า ต่อไปนี้เธอจะตั้งใจวาดรูป จะไม่บ่นว่าตัวเองเบื่ออีกต่อไปแล้ว 

 

 

ฮุยเถิงเป็นธุรกิจที่เหยียนเค่อลองทำหยั่งเชิงก่อนในตอนแรก นึกไม่ถึงว่าจะพัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากซิงอี้เอนเตอร์เทนเม้นต์ของซูอี้แล้ว ลำดับถัดที่ตามมาติดๆ ก็คือฮุยเถิง แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทที่พบปัญหาก่อนใครก็คือฮุยเถิง ดูท่าเหยียนเฟิงน่าจะสืบจนรู้จำนวนทรัพย์สินของตนในระดับหนึ่งแล้ว และสิ่งที่เขาเลือกจะจัดการเป็นอย่างแรกก็คือฮุยเถิง 

 

 

เขาไม่เจออะไรที่น่าสนใจ เดินวนรอบหนึ่งก็กลับเข้ามานั่งในห้องทำงานของตน 

 

 

เซ่าหมิงฟ่านที่ยุ่งอยู่ที่ YAN ไม่ได้หลับได้นอนมาสามวันแล้วยังคงนั่งดูเอกสารอยู่ที่โต๊ะตามเดิมราวกับคนใกล้จะตาย แต่หารู้ไม่ว่าเหยียนเค่อนั่งว่างเอกเขนกจนขนแทบจะขึ้นตามลำตัวแล้ว 

 

 

เหยียนเค่อสองมือรองศีรษะ ดวงตากลมโตงดงามหรี่ลงมองดูแสงอาทิตย์ที่แยงตา สองขาพาดอยู่บนโต๊ะอาบไล้แสงอาทิตย์ 

 

 

ช่วงเวลาที่หาได้ง่ายที่สุดในช่วงวัยเยาว์กลายเป็นสิ่งที่ในตอนนี้ถึงร้องขอก็คงไม่ได้มันมา เพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงและผลประโยชน์ จำต้องแข่งขันแย่งชิงด้วยวิธีการอันจอมปลอมและวกวน มีหลายคนที่สูญเสียสิทธิ์ในการก้าวเดินภายใต้แสงอาทิตย์ไปแล้ว