บทที่ 180 งานเลี้ยงอาจารย์เย่(2)
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะมองอยู่หลายครั้ง ซ่งหวั่นถิงในวันนี้ทำให้คนต้องตะลึงในความงาม
หากเทียบเธอกับเซียวชูหรันแล้ว หน้าตา รูปร่าง ของคนทั้งสองเป็นคู่ต่อสู้ชนิดหายใจรดต้นคอ แต่ด้านบุคลิกภาพแล้ว เซียวชูหรันยังคงห่างชั้นซ่งหวั่นถิงอยู่ระดับหนึ่ง
ซ่งหวั่นถิงยังเป็นลูกสาวของตระกูลซ่ง บุคลิกภาพย่อมแตกต่างจากหญิงสาวทั่วไป
ขณะที่ฉินเอ้าเสวี่ยนที่มีใบหน้าแดงก่ำเดินไปด้านหน้าเย่เฉิน มอบของขวัญให้ชิ้นหนึ่ง
ต่างกับซ่งหวั่นถิงหญิงสาวสวยที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ฉินเอ้าเสวี่ยนที่มีนิสัยเด็ดเดี่ยวรวมกับท่าทางของหญิงสาวในยุคปัจจุบัน เป็นกลิ่นอายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งสิ้น
ฉินเอ้าเสวี่ยนแต่งหน้าเบา ๆ บวกกับเรียนศิลปะการต่อสู้มา จึงมีบุคลิกภาพเป็นแบบฉบับ เหมือนกับดอกบัวหิมะบนภูเขาน้ำแข็ง เยือกเย็นสุดขั้ว
แต่หลังจากมีเย่เฉินอยู่ในใจ เธอจึงเปลี่ยนเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางแสงอาทิตย์ช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีเสน่ห์เย้ายวน
ในเวลานั้นเธอมองไปที่เย่เฉิน แก้มทั้งสองขับสีแดงระเรื่อออกมาจนเห็นเด่นชัด รวมกับลักษณะท่าทางของสาววัยกระเตาะ
ซ่งหวั่นถิงที่ยืนอยู่ด้านข้างดวงตาเปล่งประกายผิดปกติ ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง ทำให้เธอเกิดความรู้สึกต่อต้านฉินเอ้าเสวี่ยนขึ้นทันที
ในใจแอบคิดว่า ฉินเอ้าเสวี่ยนแห่งตระกูลฉินคนนี่ น่าจะมีความคิดบางอย่างต่ออาจารย์เย่?
ซึ่ง คุณปู่เธอกำชับกับตนว่า ต้องหาวิธีทำให้อาจารย์เย่เป็นลูกเขยตระกูลซ่งให้ได้
และตนก็หวั่นไหวกับข้อเสนอนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
หรือว่า ฉินเอ้าเสวี่ยนแห่งตระกูลฉินคนนี้ มีความคิดเหมือนกับตน?!
เย่เฉินกลับไม่รู้ถึงความคิดของซ่งหวั่นถิงและฉินเอ้าเสวี่ยน เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยกับทุกคนแล้ว พูดว่า: “คราวหลังพวกคุณต้องจำไว้นะ ติดต่อกับผม ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตอง ผมเป็นคนง่าย ๆ พวกคุณปฏิบัติกับผมแบบธรรมดาก็พอแล้ว”
ทุกคนได้ยินคำพูดนี้แล้ว โบกมือไปมา
ฉินกางพูดด้วยความนอบน้อมว่า: “อาจารย์เย่มีฐานะทางสังคม พวกเราควรต้อนรับด้วยความเคารพ ไม่เช่นนั้นอาจผิดธรรมเนียมได้!”
หวังเจิ้งกางพูดสำทับอีกว่า: “อาจารย์เย่คือผู้เยี่ยมยอดแห่งภาคใต้ อีกทั้งยังมีบุญคุณต่อพวกเราอีก อย่าว่าแต่การรอคอยเลย ถ้าให้รอทั้งวัน พวกเราก็ยินดี”
จากนั้น ซือเทียนฉีรีบยกมือขึ้นคำนับแล้วพูดว่า: “วิชาการแพทย์ของอาจารย์เย่เป็นหนึ่งไม่มีสอง คนในวงการการแพทย์ รู้วิธีการรักษาขั้นเทพของอาจารย์เย่ ทุกคนล้วนนับถือด้วยใจทั้งสิ้น”
เย่เฉินพบเหตุการณ์นี้ ทำได้เพียงพยักหน้ารับคำ พูดว่า: “โอเค พวกเราอย่ายืนที่หน้าประตูเลย พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
ซ่งหวั่นถิงยิ้มอย่างอ่อนหวาน พูดว่า: “อาจารย์เย่ เชิญท่านเข้าไปก่อน”
เย่เฉินไม่ปฏิเสธ เดินนำเข้าไป
ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังเย่เฉินตามลำดับ โดยเว้นระยะห่างประมาณครึ่งก้าว ไม่มีใครกล้าล่วงเกินแม้แต่นิดเดียว
เข้าไปในห้องวีไอพีระดับเพชรของเทียนเซียงฝู่ ภายในห้องหรูหราสำรับอาหารถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ โต๊ะอาหารจัดด้วยความประณีตสวยงาม
คนที่เย่เฉินเชิญมามีไม่มาก แต่ทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญของเมืองจินหลิงทั้งสิ้น ทุกคนล้วนเป็นระดับผู้หลักผู้ใหญ่ หากคนภายนอกเห็นจะต้องตะลึงแน่นอน
ในฐานะที่เป็นเจ้าของเทียนเซียงฝู่ ท่านหงห้าพูดด้วยความเคารพอย่างสูงว่า: “ท่านเย่ ได้ยินว่าท่านจะเลี้ยงรับรองแขกที่เทียนเซียงฝู่ ผมหงห้าได้จัดสำรับอาหารที่หายากไว้เป็นพิเศษ สำรับอาหารจะมีคุณภาพสูงกว่าอาหารทั่วไปของห้องวีไอพีระดับเพชร สุราก็เช่นกันเป็นสุราหมาวถายเก่าอายุร้อยปีซึ่งให้คนส่งมาจากกุ้ยโจวทางเครื่องบิน หวังว่าท่านจะพอใจ”
แม้ว่าท่านหงห้ารู้ถึงความสามารถของเย่เฉินมาก่อน แต่แขกเหรื่อที่มาในวันนี้ล้วนเป็นบุคคลระดับสูงทำให้เขาถึงกับช็อค
ซ่งหวั่นถิงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซ่ง ฉินกางและบุตรสาวแห่งตระกูลฉิน หวังเจิ้งกางหัวหน้าตระกูลหวัง และหมอเทวดาซือเทียนฉีพร้อมกับหลานทั้งสองคน
ในรายการที่พูดมานี้ ทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ระดับสูงในเมืองจินหลิงทั้งสิ้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฉินแล้ว กลับเหมือนลูกแกะตัวน้อยที่ไร้พิษภัย ดังนั้นท่านหงห้าผู้ที่คลุกคลีสังคมแบบนี้มานาน จะไม่ออกหน้าอย่างเปิดเผยได้อย่างไร