บทที่ 181 อัศจรรย์ได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ(1)
ท่านผู้อาวุโสรวมตัวอยู่ด้วยกันมากมายขนาดนี้ ท่านหงห้าไม่กล้าพูดเสียงดัง
ต่อให้อยู่ในเขตพื้นที่ของเขา เขาเข้าไปในห้องพิเศษ ก็เป็นได้แค่เหมือนดั่งสุนัขตัวหนึ่ง ส่ายหางอยู่ตรงหน้าเย่เฉินอย่างน่าสงสาร อยากที่จะให้เขาหันมามองดูตนเองบ้าง
เย่เฉินเห็นท่านหงห้ามีความตั้งใจขนาดนี้ จึงยิ้มพยักหัวให้กับเขา พร้อมพูดว่า “หงห้า คุณทำดีแล้ว”
ท่านหงห้าได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ก็รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ได้มีโอกาสเป็นธุระให้กับท่านเย่ ถือเป็นเกียรติของหงห้า เชิญท่านเย่นั่ง”
เย่เฉินยิ้มแย้ม แล้วก็นั่งลงตรงที่นั่งหัวโต๊ะ
ท่านหงห้าค่อยพูดขึ้นอย่างให้ความเคารพว่า “ท่านเย่ต้องการอะไรเพิ่ม เรียกหาหงห้าได้เลย หงห้าเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู”
พูดเสร็จ เขาก็เดินออกไปจากห้องพิเศษอย่างถ่อมตน เป็นเหมือนดั่งพนักงาน อยู่หน้าห้องวีไอพีพิเศษ
หงห้า ก็ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในวงการใต้ดินของจินหลิง
แต่เวลานี้ เขากลับเป็นอันธพาลคนหนึ่งที่ไม่มีอิทธิพลอะไรเลย
คนที่มาร่วมทานข้าวกับเย่เฉิน แต่ละคนต่างก็มีอิทธิพลมากกว่าตนอย่างมาก ด้วยสถานะของเขา ยังไม่คู่ควรที่จะไปร่วมโต๊ะ สามารถได้พูดคุยกับเย่เฉิน ก็นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว
ทางด้านเย่เฉินเพิ่งได้นั่งลงตรงที่นั่งหลัก ซ่งหวั่นถิงก็ตามมาติดๆ แล้วก็นั่งลงตรงที่นั่งด้านขวาของเย่เฉิน
ทั้งสองคนใกล้ชิดกัน ห่างกันเพียงแค่ศอก เย่เฉินถึงขั้นสามารถได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆบนตัวซ่งหวั่นถิง
ตามหลักการนั่งรับประทานอาหาร คนที่สำคัญที่สุดนั่งตรงที่นั่งหลัก ลำดับตามมาก็จะนั่งประกบทั้งสองข้าง
ในนี้ ตระกูลซ่งมีอิทธิพลที่สุด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของตระกูลซ่ง ซ่งหวั่นถิงจึงได้นั่งใกล้กับเย่เฉิน
ดังนั้น ในเวลานี้ ใครสามารถได้นั่งอีกด้านของเย่เฉิน ก็จะกลายเป็นคนที่คนอื่นเห็นเป็นคู่แข่ง
เวลานี้ฉินกางผลักสะกิดฉินเอ้าเสวี่ยน พูดกับเย่เฉินอย่างยิ้มแย้มว่า “อาจารย์เย่ ท่านเป็นคนมีพลังวิเศษ ลูกสาวของผมเอ้าเสวี่ยนชื่นชอบท่านมานานแล้ว เห็นท่านเป็นไอดอลมาตลอด ให้เธอได้นั่งข้างท่านดีไหม ช่วยรินเหล้าบริการท่าน ท่านเห็นว่าอย่างไร?”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา คิ้วงดงามของซ่งหวั่นถิงขมวดขึ้น สายตาที่มองดูฉินกางแฝงไปด้วยแววลึกซึ้ง
ส่วนหวังเจิ้งกางกลับบ่นด่าอยู่ในใจ ไอ้ฉินเจ้าเล่ห์ คิดที่จะใช้ลูกสาวตนเพื่อกระชับมิตรกับอาจารย์เย่ ช่างน่าไม่อายจริงๆ
ที่หวังเจิ้งกางกัดฟันอยู่ในใจ เพราะตนเองไม่มีลูกสาว
ในใจเขากำลังคิดอยู่ว่า หากฉันหวังเจิ้งกางมีลูกสาว คนอย่างฉินกางไม่มีทางได้ออกมาอวดดีหรอก
เวลานี้ ฉินเอ้าเสวี่ยนก็หน้าแดง ในใจเอียงอายเป็นยิ่งนัก
ถึงแม้ตนเองก็ชอบอาจารย์เย่ พ่อก็บอกแต่แรกแล้วว่าให้ตนรอโอกาส แต่ต่อหน้าทุกคนมากมาย ช่างน่าอับอายจริงๆ
แต่ถึงแม้ในใจจะเอียงอาย แต่ฉินเอ้าเสวี่ยนก็ไม่ใช่คนที่อิดออดแบบนั้น พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “อาจารย์เย่ ขอท่านให้เอ้าเสวี่ยนได้มีโอกาสบริการท่านด้วย”
เย่เฉินได้ยินแล้วก็อึ้ง พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ในเมื่อคุณมีความตั้งใจขนาดนี้ งั้นก็มานั่งใกล้ๆผมสิ”
ฉินเอ้าเสวี่ยนดีอกดีใจขึ้นมาทันที รีบโค้งคำนับขอบคุณ แล้วค่อยไปนั่งด้านข้างเย่เฉิน
ซือเทียนฉีอิจฉาอย่างมาก ที่จริงตนเองก็อยากที่จะให้หลานสาวของตนเองได้นั่งใกล้ๆอาจารย์เย่ แต่ไม่กล้าเอ่ยปาก จึงถูกฉินเอ้าเสวี่ยนตัดหน้า จนได้สมหวังไปแล้ว
หากเฉินเสี่ยวจาวได้กลายเป็นผู้หญิงของอาจารย์เย่ ซือเทียนฉีไม่กล้าคิด
แต่หากเฉินเสี่ยวจาวกลายเป็นคนที่อาจารย์เย่พอใจ รับไว้เป็นสาวใช้ นั่นก็ถือว่าเป็นบุญอย่างยิ่งแล้ว
……