บทที่ 265 ความสงสัยของเปปเปอร

รักหวานอมเปรี้ยว

เป็นหนี้ชีวิตเธองั้นเหรอ……

เปปเปอร์มองต่ำลงไป ปกปิดพายุโหมกระหน่ำในดวงตาเอาไว้ ถาม “แฟนเก่าของคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์วันไหนของเมื่อหกปีที่แล้ว?”

ถึงแม้ส้มเปรี้ยวจะสงสัยว่าเขาถามเรื่องนี้ทำไม แต่ว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตอบไปตามความจริง “วันที่สิบเดือนเก้า”

แววตาเปปเปอร์เย็นชา “ผมรู้แล้ว”

ทิ้งคำพูดไม่ชัดเจนเอาไว้หนึ่งประโยค เขาหันหลังขึ้นรถไป “ออกรถ!”

ผู้ช่วยเหมันตร์ซึ่งรออยู่ที่ที่นั่งคนขับเป็นเวลานานก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว สตาร์ทเครื่องรถยนต์

ส้มเปรี้ยวมองดูไมบัคที่ขับไกลออกไป ไม่เข้าใจคำพูดเปปเปอร์ที่บอกว่าผมรู้แล้ว หมายความว่าอย่างไรกันแน่

หมายความว่าจะไม่ยกเลิกการแต่งงานกับเธอเหรอ?

ดูท่าแล้วมีความเป็นไปได้สูงมาก

คิดเอาไว้แบบนี้ ก้อนหินก้อนใหญ่ในในใจของส้มเปรี้ยวในที่สุดก็ตกลงไปที่เดิมแล้ว

ถ้าอย่างนั้นต่อไป ก็ถึงตาอีธานแล้ว

ส้มเปรี้ยวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่เคยโทรออกเลยสักครั้งตลอดหกปีที่ผ่านมา หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง อดกลั้นความกลัวในใจเอาไว้ แล้วก็กดโทรออกไป

โทรศัพท์ต่อสายอย่างรวดเร็ว เสียงที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆของอีธานดังออกมา “คุณมีเรื่องอะไร?”

ส้มเปรี้ยวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับความรู้สึกกลัวในใจที่มีต่อเขาเอาไว้ เอ่ยปากอย่างกลัวๆ “อีธาน คือว่า……คุณสามารถช่วยฉัน สะกดจิตเปปเปอร์อีกครั้งได้ไหม? ครั้งนี้ฉันต้องการให้เขาลืมมายมิ้นท์ไปอย่างสิ้นเชิง ให้ทั้งในสายตาและในใจมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น!”

หกปีก่อน เธอเคยเห็นกับตา ว่าผู้ชายคนนี้สะกดจิตคนคนหนึ่งให้กลายเป็นศพเดินได้โดยที่ไม่ทันรู้สึกว่ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

นาทีนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ทิ้งความหวาดกลัวสุดขีดเอาไว้ให้เธอ ถึงแม้จะผ่านไปหกปีแล้ว เธอก็ยังกลัวผู้ชายคนนี้อย่างมากอยู่

และเธอกลัวว่าหลังจากที่ผู้ชายคนนี้รู้เรื่องนั้นเข้า ก็จะสะกดจิตให้เธอกลายเป็นศพเดินได้ที่ไร้วิญญาณ

“ผมไม่สามารถช่วยคุณ!” อีธานปฏิเสธโดยตรงอย่างไม่ไว้หน้า

ส้มเปรี้ยวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ น้ำเสียงก็สูงขึ้น “เพราะอะไร?”

“หกปีก่อน เพื่อให้คุณมีความสุข โอเว่นก็ให้ผมช่วยคุณสะกดจิตเปปเปอร์ ให้เปปเปอร์หลงรักคุณ ดังนั้นผมเคยช่วยคุณครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ผมจะไม่ช่วยคุณอีก เปปเปอร์ก็จะถูกสะกดจิตไม่ได้อีก ไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนโง่ได้” อีธานตอบเสียงเย็นชา

ส้มเปรี้ยวจุกที่ลำคอ

กลายเป็นคนโง่?

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!

ส้มเปรี้ยวกัดเล็บหัวแม่โป้งขึ้นมา

ที่เธอตกหลุมรักเปปเปอร์ในตอนแรก นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของเปปเปอร์แล้ว ยังมีความสามารถของเขา เขาสามารถที่จะทำให้เธอได้ใช้ชีวิตที่รุ่งโรจน์และมั่งคั่งตลอดชีวิต แต่ถ้าหากเขากลายเป็นคนโง่ ถ้าอย่างนั้นสถานะผู้นำตระกูลของเขา ฐานะประธานกรรมการของบริษัทในตอนนี้ ก็จะสูญเสียไปทั้งหมด ตกไปอยู่กับปีโป้ทั้งหมด”

ถ้าอย่างนั้นเธอแต่งงานกับเขายังมีประโยชน์อะไรอีก?

ดูท่าจะไม่สามารถสะกดจิตเปปเปอร์ได้อีกจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้อะไรเลย แถมจะมีสามีโง่ๆเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง

คิดถึงตรงนี้ ส้มเปรี้ยวไม่มีเวลาสนใจความกลัวที่มีต่ออีธาน พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “อีธาน ตอนที่คุณสะกดจิตเปปเปอร์ในตอนแรก ฉันเคยถามคุณว่า การสะกดจิตมีผลอยู่ได้นานเท่าไหร่ คุณบอกกับฉันว่าตลอดชีวิต แต่ว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนที่เขารักไม่ใช่ฉัน แต่เป็นมายมิ้นท์ สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร มันหมายความว่าการสะกดจิตของคุณถูกปลดปล่อยแล้วอย่างไรล่ะ อีธาน คุณจะอธิบายอย่างไร?”

อีธานมองดูรูปถ่ายใบหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ในรูปถ่ายคือเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาของเด็กหนุ่มดูคล้ายคลึงกับเขาเล็กน้อย

ดังนั้นคนในรูปถ่ายคือใคร ไม่ต้องพูดก็เข้าใจแล้ว

อีธานลูบไล้หน้าของโอเว่นในรูปถ่าย น้ำเสียงยังคงเย็นชา ตอบอย่างไม่มีขึ้นมีลง: “ผมเคยบอกกับคุณว่ามีผลตลอดชีวิตจริงๆ แต่ผมก็เคยบอกกับคุณเหมือนกันว่าการสะกดจิตไม่ใช่เวทมนตร์คาถา มันก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน การสะกดจิตที่ผมทำต่อเปปเปอร์ คือให้เขาเชื่ออย่างมั่นคงแน่วแน่ ว่าคุณก็คือต้นไผ่ แต่เมื่อไหร่ที่มีคนบอกเขา หรือถ้าเขาบังเอิญพบว่าคุณไม่ใช่ต้นไผ่ ถ้าอย่างนั้นการสะกดจิตในตัวเขาก็จะอ่อนแอลง ค่อยๆเปลี่ยนกลับเป็นคนเดิมที่เป็นตัวเอง”

ส้มเปรี้ยวอ้าปากขึ้นมา ไม่มีอะไรจะพูดอีก

เพราะคำพูดนี้เขาเคยบอกกับเธอจริงๆ

ดังนั้นถึงแม้ในตัวเปปเปอร์จะถูกสะกดจิตอยู่ เธอก็กลัวว่าเขาจะพบว่าตัวเองเป็นตัวปลอม

“อีธาน หกปีมานี้คุณคอยจับตาดูเปปเปอร์อย่างลับๆมาตลอดไม่ใช่เหรอ? คุณรู้ไหมว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าฉันไม่ใช่ต้นไผ่? มีคนบอกเขาใช่ไหม?” ส้มเปรี้ยวบีบโทรศัพท์แน่น กัดฟันแล้วถาม

ถ้าหากมีคนบอกเปปเปอร์

เธอต้องให้คนคนนั้นโดนดีแน่!

“ไม่ใช่ ไม่มีคนบอกเขา เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้การสะกดจิตในตัวเขาอ่อนแอลง ดังนั้นเขาถึงพบช่องโหว่ในตัวของคุณ” อีธานพูดอย่างไร้อารมณ์

ส้มเปรี้ยวรู้สึกแค่ว่ามันไร้สาระมาก

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า สาเหตุจะมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์!

รู้อย่างนี้งานเลี้ยงคืนนั้น เธอก็ไม่ตามพ่อกลับตระกูลภักดีพิศุทธิ์แล้ว รอเปเปอร์อยู่หน้าโรงแรมดีกว่า ไม่แน่ว่าถ้าเป็นแบบนั้น เปปเปอร์ก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้พวกเขาก็คงจะไม่มาถึงจุดนี้ได้!

อีธานไม่ได้ยินเสียงดังออกมาจากโทรศัพท์ ก็วางโทรศัพท์มือถือลงมา

รอส้มเปรี้ยวรู้ตัวอีกที ตอนที่ยังอยากจะถามอะไรบางอย่าง ถึงได้พบว่าโทรศัพท์ถูกวางไปแล้ว

เธอโกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าโทรไปหาอีธานอีก ได้แต่กระทืบอย่างโกรธเคืองเท่านั้น

และในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือในมือของเธอก็ดังขึ้นมาอีก

ส้มเปรี้ยวก้มหน้าไปดู การันต์เป็นคนโทรมา

“ฮัลโหล” ส้มเปรี้ยวรับสาย

เสียงการันต์ดังออกมา “เมื่อกี้คุณคุยอยู่กับใคร ทำไมนานจัง?”

“นี่มันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ส้มเปรี้ยวตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก

ในแววตาของการันต์มีประกายความมืดมนขึ้นมาครู่หนึ่ง แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว ดันแว่นตาแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาใหม่ว่า “มายมิ้นท์ออกเดินทางไปถนนเลเหนือแล้ว คุณอยากจะเห็นจุดจบของเธอด้วยตาตัวเองไม่ใช่เหรอ? รีบมาสิ”

ได้ยินคำพูดนี้ ความโกรธในใจของส้มเปรี้ยวหายไปในทันที มีแต่ความตื่นเต้นเข้ามาแทนที่

ใช่แล้ว เปปเปอร์รู้สึกตัวแล้วว่าเขารักมายมิ้นท์แล้วอย่างไร อยากตามง้อเพื่อคืนดีกับมายมิ้นท์แล้วอย่างไร?

ขอแค่มายมิ้นท์ถูกคนย่ำยีแล้ว คลิปวิดีโอมีผู้ชมไปแล้วหลายพันล้านคนทั่วโลก เธอไม่เชื่อหรอกว่า เขาจะไม่ตะขิดตะขวงใจเลยแม้แต่น้อย

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ส้มเปรี้ยวพูดคำนี้จบ ก็วางโทรศัพท์มือถือลง เดินไปทางรถของตัวเอง

อีกด้านหนึ่ง ในรถไมบัค

ผู้ช่วยเหมันตร์เหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจกมองหลังหลายครั้ง

สีหน้าชายหนุ่มเคร่งขรึม ความกดอากาศต่ำแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย ทำให้บรรยากาศของรถทั้งคันกดดันอย่างมาก

ผู้ช่วยเหมันตร์ดึงเน็กไท ทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว กระแอมไอเบาๆแล้วถามขึ้นว่า: “ประธานเปปเปอร์ คุณไม่คิดที่จะยกเลิกการแต่งงานกับส้มเปรี้ยวจริงๆเหรอครับ?”

เปปเปอร์เงยหน้า “ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันจะไม่ยกเลิกการแต่งงาน?”

“เมื่อกี้คุณเป็นคนพูดเอง คุณบอกว่าคุณรู้แล้ว ไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรือ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบ

เปปเปอร์ยิ้มหยัน “มันเป็นเพียงแค่การรับมือกับคำพูดของเธอเท่านั้นแหละ นายเอาไปคิดจริงจังซะได้?”

“อ่า?” ผู้ช่วยเหมันตร์ประหลาดใจ “รับมือคำพูดเธอ ผมยังนึกว่าคุณรับปากจริงๆเสียอีก แต่ว่าพูดตามความจริง คำพูดของเธอเมื่อกี้ มันทำให้ผมตกตะลึงจริงๆ คิดไม่ถึงว่าหัวใจดวงที่คุณใช้อยู่ในตอนนี้ มันจะเป็นของโอเว่น”

เปปเปอร์ยกมือแตะไปตรงหน้าอกของตัวเอง สายตาคลุมเครือไม่ชัดเจน

แม้แต่ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึง

แต่ว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก ผู้ที่ได้รับบริจาค โดยพื้นฐานแล้วจะไม่รู้ว่าผู้บริจาคเป็นใคร

ผู้ช่วยเหมันตร์ถอนหายใจ “ประธานเปปเปอร์ เพราะหัวใจดวงนี้ ส้มเปรี้ยวบอกว่าคุณเป็นหนี้ชีวิตเธอ หลังจากนี้เธอจะต้องจับเอาจุดนี้ ให้คุณ……”

“ใครบอกว่าฉันเป็นหนี้ชีวิตเธอ?” เปปเปอร์วางมือลงมา พูดด้วยสายตาเย้ยหยัน: “หัวใจดวงนี้เป็นของโอเว่น คนที่ฉันติดหนี้ก็คือโอเว่นกับอีธาน ไม่ใช่ส้มเปรี้ยว ถึงแม้หัวใจของโอเว่น เธอจะเป็นคนจัดหามา สำหรับฉันแล้ว อย่างมากเธอก็แค่มีบุญคุณที่ช่วยแนะนำ แต่สิ่งที่ฉันทำเพื่อเธอกับตระกูลภักดีพิสุทธิ์ตลอดหกปีมานี้มันเพียงพอสำหรับการใช้หนี้บุญคุณแล้ว และอีกอย่างนายไม่รู้สึกว่าหัวใจของโอเว่นปรากฏขึ้นอย่างพอเหมาะพอเจาะเกินไปเหรอ?”

สีหน้าผู้ช่วยเหมันตร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ประธานเปปเปอร์ คุณคงไม่ได้กำลังสงสัยว่า การตายของโอเว่น ไม่ใช่อุบัติเหตุหรอกนะ?”