ตอนที่ 646 เย่ซวงคือใคร

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 646 เย่ซวงคือใคร?
“พวกคุณเข้าใจเธอไหม? ไม่เข้าใจเธอแล้วก็มาพูดถึงเธอแบบนั้นแบบนี้ นี่คือสิ่งที่นักอ่านควรทำงั้นหรือ? ”

ไม่มีใครคิดว่าหลินเจียวเจียวจะโต้กลับพวกเขาเพียงเพื่อเห็นแก่คนอย่างซูฉิง ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจของคนจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย

“คุณหนูหลิน แม้ว่าตันชิงของคุณจะได้รับรางวัล แต่คุณก็ไม่ควรทำแบบนี้หรือเปล่า? มีรุ่นพี่มากมายที่มีอำนาจและโด่งดังมากกว่าคุณ ถ้าคุณปกป้องผู้หญิงคนนั้นแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะถูกบีบให้โดดเดี่ยวหรือ ?”

ใครจะรู้ว่าคนรอบข้างของเธอจะคุกคามหลินเจียวเจียว ทำให้ซูฉิงตกใจเล็กน้อย

คิดไม่ถึงหลินเจียวเจียวจะได้รับรางวัลในด้านนี้ด้วย ดูเหมือนว่า เธอยังมีศักดิ์ศรีบางอย่างในโลกของการประดิษฐ์ตัวอักษร

แต่ครั้งนี้ที่เขาทำเพื่อตัวเธอเอง เธอกลัวว่าจะไม่มีผลลัพธ์ที่ดีเท่าไหร่

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉิงก็อดไม่ได้ที่จะกังวลและจับมือของหลินเจียวเจียว “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”

“ไม่ได้”

ใครจะรู้ว่าหลินเจียวเจียวมองหน้าเธอและปกป้องซูฉิงไว้ข้างหลังเธอ “ซูฉิงเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน พวกคุณปฏิบัติกับเธอแบบนี้ พวกคุณไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเธอ แล้วเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม? ”

ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา ก็ทำให้เกิดการถกเถียงกันมากมายในกลุ่มผู้คนรอบข้าง

“คุณหนูหลิน ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณเป็นเพื่อนกันแต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา แต่คนแบบนี้ เราก็ยังแนะนำให้คุณคิดดีๆให้รอบคอบอีกครั้ง มิฉะนั้น คุณอาจจะไม่รู้ว่าคุณจะถูกเธอหักหลังในอนาคตหรือไม่”

ผู้คนรอบตัวพวกเขาตอบโต้กัน และเพียงเพราะซูฉิงเป็นนักธุรกิจ ดังนั้นทุกคนจึงดูถูกเธอ

“พวกคุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระโดยที่ไม่รู้อะไรเลย แค่อ่านคำพูดจากคนที่ไม่เปิดเผยตัวบนอินเทอร์เน็ต แล้วคุณก็พูดเรื่องไร้สาระ นี่คือสิ่งที่คุณควรทำในฐานะสมาชิกของอุตสาหกรรมจิตรกรรมและการประดิษฐ์ตัวอักษรงั้นหรือ?”

ใครจะรู้ว่าหลินเจียวเจียวจะสนับสนุนซูฉิงโดยตรง ซึ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจมากขึ้น

“ฉันแนะนำให้คุณอย่าได้เข้ามายุ่งเรื่องนี้ดีกว่า ซูฉิงในฐานะนักธุรกิจ มันเป็นความกรุณาสำหรับซูฉิงที่ปล่อยให้เธอมีส่วนร่วมในโลกแห่งศิลปะภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษร และคุณยังอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนเธอ เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่เคารพเรา”

ทุกคนพยักหน้า แต่หลินเจียวเจียวก็ไม่สามารถดึงอารมณ์กลับได้อยู่ชั่วขณะหนึ่ง

แน่นอนว่าบางคนไม่คุ้นเคยกับซูฉิง ความคิดของพวกเขาคือการเห็นเธอตกอับ ทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะซูฉิงและทำให้ซูฉิงเงยหน้าขึ้นไม่ได้ ท้ายที่สุดคนดีมักจะถูกอิจฉาเสมอ

มีผู้คนมากมายรอบตัวซูฉิงที่ช่วยพูดแทนเธอ ซึ่งทำให้ผู้คนอยากเห็นฉากตลกๆของเธอมากขึ้น ในบรรดาคนที่เห็นซูฉิงอับอาย มีคนหนึ่งชื่อเย่ซวง

เธอระงับความโกรธของเธอและต้องการแข่งขันกับซูฉิงมาก

เธอเป็นคนประเภทที่มีความสามารถแต่ไม่ได้เก่งมาก เพราะเธอมีความกระตือรือร้นสูง แต่เธอไม่สนใจเกี่ยวกับการวาดภาพและการเรียนรู้ ดังนั้นความสามารถของเธอจึงทำได้แค่อยู่ที่นั่นเท่านั้น

แม้ว่าเย่ซวงจะร่าเริงมาก แต่เธอก็ยังคงมีมารยาทพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถแสดงด้านที่ไม่ดีต่อหน้าผู้คนจำนวนมากได้

“สวัสดี ฉันชื่อเย่ซวง” เขาพูด และขณะที่พูด เขาก็มีรอยยิ้มแบบมืออาชีพและเหยียดมือขวาออก

ซูฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้จักเย่ซวงเลย แต่เธอยังคงสุภาพ เธอยื่นมือขวาออกอย่างง่ายดายและพูด “สวัสดี”

“เย่ซวงชื่นชมคุณมาเป็นเวลานาน และฉันอยากจะหาโอกาสที่จะแข่งภาพวาดของฉันกับคุณเสมอ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเช่นนี้หรือไม่ ตอนนี้ผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยาน ฉันไม่รู้ว่าคุณจะโอเคไหม” เสียงของเย่ซวงดูตั้งใจและทำให้ดวงตาของทุกคนมองไปทางนี้

ซูฉิงเหลือบมองเย่ซวงและพูดอย่างไม่เร่งรีบ “ฉันเกรงว่าโอกาสนี้ไม่เหมาะสม แต่มีโอกาสในอนาคตแน่นอน ตอนนี้เราเป็นเพียงแขกรับเชิญ และเราไม่สามารถขโมยซีนของเจ้าภาพได้ คุณว่าอย่างนั้นไหม?”

จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันคิดว่าวันนี้เอาไว้ก่อนแล้วกัน” หลังจากที่ซูฉิงพูดจบเธอก็หยุดมองและหันไปดูผลงาน

ซูฉิงอาจเข้าใจจุดประสงค์ของเย่ซวง เธอไม่กลัวการแข่งขัน แต่เธอรู้สึกว่าโอกาสไม่เหมาะ และเธอไม่ชอบให้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับเธอ

เธอชอบที่จะเป็นคนต่ำต้อย แม้ว่าบางครั้งเธอก็ไม่สามารถทำตัวต่ำได้ แต่ใครทำให้ซูฉิงไปที่ไหนก็เป็นจุดที่น่าสนใจกันละ เธอไม่มีทางเลือก

เย่ซวงพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำตอบการปฏิเสธของซูฉิงเธอคิดว่าซูฉิงกำลังกลัว วันนี้เธอวางแผนที่จะปะลองกันเธอ อย่างไรก็ต้องแข่งให้ได้

“ทุกคน” ทุกคนมองไปที่เย่ซวง”ฉันอยากทราบว่าพวกคุณสามารถดูการปะลองของฉันและซูฉิงได้หรือไม่ คิดไปแล้วทุกคนก็จะสามารถชื่นชมภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษรได้อย่างเต็มที่ด้วย”

ฝูงชนที่อยู่ถัดจากพวกเขาปรบมือและชี้ไปที่ทั้งสองคน “ใช่ ใช่ ฉันได้ยินมาว่าความสามารถของซูฉิงนั้นสูงมาก และฉันก็อยากเห็นภาพวาดของซูฉิงด้วยเช่นกัน”

พวกเขาทั้งหมดต้องการดูว่าพวกเขาจะเผชิญกับมันอย่างไร และยิ่งต้องการดูว่าซูฉิงจะจัดการกับมันอย่างไร “นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก”

“ฉันคิดว่าทุกคนเห็นด้วยแล้วล่ะ ดังนั้นฉันจะขอให้ใครซักคนเตรียมของให้หน่อย ใช่ไหมคะ คุณหนูซู” เย่ซวงจงใจนำหัวข้อนั้นโยนไปที่ซูฉิง

เย่ซวงคนนี้รู้วิธีการใช้ความคิดเห็นสาธารณะจริงๆ ถ้าซูฉิงไม่เห็นด้วยในตอนนี้เธอก็จะไม่รู้สึกว่าเธอด้อยกว่าเขางั้นหรอกเหรอ?

กลัวเอาอะไรแข่งก็แข่งสิ อีกอย่าง คนกลุ่มนี้ตั้งตาดูอย่างสนุกสนาน ไม่ใช่ว่าศิลปินชอบความโดดเดี่ยวกันหมดหรอกเหรอ ? ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงตาสว่างเมื่อได้ยินการแข่งขัน ซูฉิงถึงกับพูดไม่ออก

“โอเค” ซูฉิงตอบเพียงคำเดียว และถนอมคำพูดกับเธอไว้

“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดบอกหัวข้อแก่เราด้วย” เย่ซวงพูดกับคนกลุ่มนี้ที่กำลังดูอยู่ ตอนนี้เธอมีความสุขมาก

ผู้คนที่เฝ้าดูต่างก็คึกครื้นมีชีวิตชีวา และพูดเสริมขึ้นว่า “ตอนนี้เป็นหน้าฝนแล้ว งั้นเอฝนมาเป็นหัวข้อดีกว่า จากนั้นก็ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์อื่นๆใดๆอะไรอีก ปล่อยให้พวกคุณสร้างสรรค์อย่างอิสระ ”

ซูฉิงพยักหน้าหลังจากฟังสิ่งที่ฝูงชนพูด พอนึกถึงหัวข้อนี้แล้วช่างเป็นเวลาที่เหมาะสมจริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นโปรดรอสักครู่แล้วขอให้ทุกคนมาช่วยตัดสินกัน” เย่ซวงพูดดูเหมือนเขาจะชนะ

เมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งสองก็นั่งลง กำหนดเวลา และก็เริ่มการทดสอบทันที

ในช่วงสิบนาทีแรก เย่ซวงเริ่มลงมือแล้ว แต่ซูฉิงไม่ได้เริ่มลงมืออะไรเลย เธอแค่คิดอะไรบางอย่าง เมื่อผู้คนด้านนอกมองเข้ามาก็เห็นเธอจ้องมองที่กระดาษเปล่าด้วยความงุนงง

ทุกคนมองไปที่ซูฉิงและรู้สึกว่าเธอไม่เข้ากับอะไรเลย และพวกเขาก็กำลังพูดถึงเธอ “อะไรน่ะ นี่ก็สิบนาทีแล้ว ก็ยังไม่ทำอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าเธอจะทำอะไรกันแน่?”

เย่ซวงแทบหัวเราะ เมื่อได้ยินคนอื่นพูดถึงซูฉิง

แต่ตอนนี้เธอต้องแสดงท่าทางสงบ เพราะเธอต้องการแสดงความลึกลับมากกว่านี้ และเธอก็ไม่สามารถทนต่อการปรากฏตัวของซูฉิงได้

แถมการวาดภาพ ยังต้องมีสมาธิ ถ้าคิดแต่เรื่องวุ่นๆในใจ จะจดจ่ออยู่กับการวาดภาพได้อย่างไร

โชคดีที่มีม่านกั้นระหว่างคนทั้งสอง ไม่เช่นนั้นเย่ซวงก็คงอยากจะเห็นว่าซูฉิงกำลังทำอะไรอยู่

“เฮ้ ดูนี่สิในที่สุดซูฉิงก็เริ่มวาดแล้ว” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด และทุกคนก็หันไปมองที่ซูฉิงทันที

ถ้าเอาตามที่ซูฉิงพูด ก็ไม่ควรให้คนอื่นดู เพราะจะรบกวนเรื่องส่วนตัว แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ ดูก็ดูไปเถอะ อย่างไรก็ตามเธอก้เคยวาดภาพในที่ที่มีผู้คนมาก่อนแล้ว