เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 538
เสียงที่ทำให้คนเสียวฟันดังขึ้นมา เตะของศิษย์พี่หานเฟิงทั้งแม่นทั้งแรง เตะจนเสวี่ยบาร้องโอดครวญออกมาไม่หยุด จากนั้นร่วงลงพื้นเหมือนดาวตก

กระบี่ฟ้าครามอยู่ในมือ พลังธาตุทองสว่างขึ้นบนตัวศิษย์พี่หานเฟิง

พลังธาตุทองขั้นสูงสุด แดนปราณชีวิต พละกำลังของศิษย์พี่หานเฟิง ยกระดับได้น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ เข้าสู่แดนปราณชีวิตทันที

ลู่ฝานมองศิษย์พี่หานเฟิงอย่างตกตะลึง สีหน้าไม่อยากเชื่อ

หลังจากสายเลือดของศิษย์พี่หานเฟิงตื่นตัว คิดไม่ถึงว่าจะยกระดับพละกำลังได้มากขนาดนี้

เห็นพลังปราณอันแข็งแกร่งบนตัวเขา ไม่ใช่ผลการฝึกตนที่เพิ่งเข้าสู่แดนปราณชีวิตแน่นอน

ศิษย์พี่หานเฟิงยืนอย่างห้าวหาญ พลังธาตุทองแผ่ออกไป รวมตัวเป็นค่ายกลด้านล่างเท้าเขา

มองการกระทำที่เชี่ยวชาญของเขา ไม่เหมือนนักบู๊ที่เพิ่งเข้าสู่แดนปราณชีวิต

เหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแดนปราณชีวิตมา 4-5 ปีแล้ว

สะบัดกระบี่ออกไป พลังธาตุทองฟันนักบู๊หลายคนของสำนักโลหิตพิฆาตที่พุ่งเข้ามาออกไป

นักบู๊คนหนึ่งที่หลบไม่ทัน โดนกระบี่ของหานเฟิงฟันขาขาดทันที เลือดสาดกระจายไปทั่ว

“วิชากระบี่ชิงสวรรค์ เซน!”

กระบี่ฟ้าครามในมือหายไปอย่างไร้ร่องรอย พลังธาตุทองบนตัวศิษย์พี่หานเฟิงก็หายไปด้วย จากนั้นเห็นหมอกโลหิตปรากฏขึ้นมา

เวลาเพียงพริบตา นักบู๊สำนักโลหิตพิฆาตสิบกว่าคน โดนศิษย์พี่หานเฟิงฆ่าตายคาที่

ลู่ฝานเห็นภาพตรงหน้า ก็ตะโกนออกมาทันที “ดี!”

เสวี่ยบาที่โดนเตะจนกระเด็น ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

“วางค่ายกล เสี่ยวอู่ วางค่ายกลทะเลโลหิตมาร”

เสี่ยวอู่ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ มาตลอด ได้ยินเสียงตะโกนของเสวี่ยบาก็ลงมือทันที

มีแสงส่องออกมาจากดวงตาขาวโพลน ทันใดนั้น ลู่ฝานกับหานเฟิงเห็นลวดลายสีเลือดใต้เท้า แผ่ซ่านออกไปเรื่อยๆ

นักบู๊สำนักโลหิตพิฆาตที่อยู่รอบๆ รีบเดินเข้ามา อาวุธต่างๆ เปื้อนแสงโลหิตทันที

แสงโลหิตที่น่าขนลุก ทำให้การมองเห็นของหานเฟิงกับลู่ฝานเบลอขึ้นมา

เมื่อพลิกมือ กระบี่ฟ้าครามกลับมาอยู่ในมือศิษย์พี่หานเฟิงอีกครั้ง

“ศิษย์น้องลู่ฝาน นายมายืนด้านหลังฉัน ให้ตายเถอะ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ยังไม่มีทหารคุ้มครองเมืองมาอีก ทหารคุ้มครองเมืองตงหวาทำอะไรกันอยู่”

ตอนนี้ศิษย์พี่หานเฟิงก็ยังไม่ลืมด่าทหารคุ้มครองเมือง

ลู่ฝานปล่อยเสื้อปราณกับเกราะเกล็ดมังกรของตัวเองออกมา เจ้าดำที่อยู่ในตัวยังไม่ตื่นขึ้นมา

ลู่ฝานตะโกนเรียกเจดีย์เสวียนเก้ามังกรในใจ “ไอ้เก้า ไอ้เก้าออกมา ทำลายค่ายกล!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบพูดว่า “ได้เลยเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ขอเวลาให้ฉันสิบวินาที”

ปราณชี่ถูกปล่อยออกมา เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเริ่มใช้วิธีทำลายของมัน

เวลาสิบวินาทีจะว่านานก็ไม่นาน จะว่าสั้นก็ไม่สั้น ทันใดนั้น อาวุธหลายสิบอันพุ่งออกมาจากหมอกโลหิต

ลู่ฝานกับหานเฟิงลงมือแทบจะพร้อมกัน ทั้งสองคนเอาหลังชนกัน ใช้กระบวนท่าต่อสู้

“วิชากระบี่ชิงสวรรค์!”

“กระบี่ฆ่าพิชิตฟ้า!”

ปราณกระบี่ที่มีพลานุภาพสองปราณ ทำลายอาวุธที่พุ่งเข้ามา แต่หลังจากเข้าไปในหมอกโลหิต ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“แค่กๆ!”

จู่ๆ ศิษย์พี่หานเฟิงไอออกมา เมื่อเอามือเช็ดตรงมุมปาก พบว่าสิ่งที่ตัวเองไอออกมาคือเลือด

“แย่แล้ว ศิษย์น้องลู่ฝาน ในหมอกมีพิษ แยกย้าย!”

ศิษย์พี่หานเฟิงถือกระบี่พุ่งไปข้างหน้า แต่ขณะนั้น เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวลู่ฝาน ตะโกนออกมาว่า “อย่าขยับ เจ้านาย ค่ายกลนี้คือค่ายกลหลอนประสาท เดินพลาดแค่ก้าวเดียว จะมีอันตรายมากมาย!”