ตอนที่ 1620 อันตรายในค่ําคืนที่มืดมิด (7)
คนที่ต่อสู้กับจวินอู๋เสียเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสี่เพียงคนเดียวในกลุ่มคนชุดดํา และ ป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา
แต่เขากลับพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในกลุ่ม!
การโจมตีของพวกเฉียวฉู่นั้น ไม่ว่าจะพลิกแพลงยังไงก็เป็นแค่การโจมตีด้วยพลังวิญญาณของพวกเขา แต่การโจมตีของจวินอู๋เสียทําให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาดและไม่สามารถเข้าใจได้เลย
ร่างของจวินอู๋เสียหายวับไปอย่างรวดเร็วราวกับภูติผีปีศาจ ทั้งๆที่ดูเหมือนยืนอยู่ตรงหน้าคู่ต่อสู้ แต่พอโจมตีกลับเป็นแค่ภาพเงาที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น ไม่รู้เลยว่านางเคลื่อนไหวตอนไหน แต่นางก็มาโผล่ที่ด้านหลังของคนชุดดําและโจมตีใส่เขาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ!
คนชุดดําถูกจวินอู๋เสียโจมตีอย่างต่อเนื่องหลายครั้งหลายครา ทําให้ตัวเขาที่ทําใจกล้าในตอนแรกเริ่มร้อนรนขึ้นมาก ยิ่งเขาพยายามเร่งฆ่าจวินอู๋เสีย ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ สายตาของจวินอู๋เสียสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา นิ่งซะจนน่าตกใจ ความแตกต่างทางด้านจิตใจของทั้งสอง ดูเหมือนจะตัดสินผลของการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้แล้ว
การปะทะที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างต่อเนื่องได้ทําลายความเงียบสงบของหอพัก แสงพลังวิญญาณสีม่วงอันเจิดจ้าวูบวาบไปมา ทําให้ทางเดินสว่างขึ้น กําแพงทั้งสองด้านแตกร้าวจากผลกระทบของการต่อสู้ ฝุ่นและเศษหินที่แตกกระจายหมุนวนอยู่ในอากาศและปลิวว่อนไปมาด้วยแรงระเบิดของพลังวิญญาณ
เย่ฉาและเย่กูยังคงซ่อนตัวอยู่ในความมืด เฝ้าสังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นจวินอู๋เสียและเพื่อนๆ ของนางต่อสู้กับคนที่มีพลังในระดับเดียวกับพวกเขา และเป็นช่วงเวลาที่ทําให้พวกเขาได้เห็นเหล่าผู้เยาว์กลุ่มนี้ในแง่มุมที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ผู้เยาว์พวกนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิด พวกเฉียวฉู่ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อการต่อสู้ พวกเขา สดงความสามารถในการผสานพลังวิญญาณเข้ากับประสบการณ์ของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบและนําไปใช้ในการต่อสู้ได้อย่างราบรื่น พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกฝน
เมื่อเห็นพวกคนชุดดําพ่ายแพ้ให้กับพวกของจวินอู๋เสีย เย่ฉาและเย่กูก็เข้าใจว่าทําไมจวินอู๋ เสียจึงไม่ให้พวกเขาออกมาแสดงตัว
เพราะจวินอู๋เสียรู้ว่าคนชุดดํากลุ่มนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนาง
ความมั่นใจที่นางมีนั้นขึ้นอยู่กับพลังที่กล้าแกร่งล้วนๆ
ตอนนั้นเอง เย่ฉาและเย่กูก็ไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของจวินอู๋เสียอีกต่อไป แต่กลับเริ่มสงสารกลุ่มคนชุดดําที่เข้ามาบุกที่นี่โดยไม่รู้ตัว
พวกเขาจินตนาการออกเลยว่า คนชุดดําพวกนี้จะตกใจมากแค่ไหนตอนที่เห็นจวินอู๋เสียแสดงพลังของนางออกมา และรู้ว่าพวกเขาจะถูกยำเละเทะขนาดไหนเมื่อเข้าสู่การต่อสู้
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาได้เห็นการพัฒนาของพวกจวินอู๋เสียจากอ่อนแอจนมาแข็งแกร่ง เช่นในวันนี้ด้วยตาของตัวเองแล้วล่ะก็ แม้แต่เย่ฉาและเย่กูก็คงรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อที่ผู้เยาว์พวกนี้ จะครอบครองพลังที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อเห็นกับตาแล้วว่ากลุ่มคนชุดดําถูกอัดเละอยู่ฝ่ายเดียวจนแทบอาเจียนเป็นเลือด เย่ฉากับเย่กูก็จุดเทียนไว้อาลัยให้คนโชคร้ายพวกนั้นอยู่ในใจ
จงโทษตัวเองเถอะที่มาหาเรื่องผิดคน
พวกนี้ไม่ใช่กลุ่มผู้เยาว์ธรรมดาทั่วไป พวกเขาคือกลุ่มผู้เยาว์ที่คลานออกมาจากนรกเป็นปีศาจที่จะกลืนกินทุกชีวิต!
ความสามารถที่น่ากลัวราวปีศาจร้ายของพวกเขานั้นมากเกินพอที่จะบดขยี้ความมั่นใจและความหยิ่งผยองของยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งได้ในทันที!
ในขณะที่กลุ่มคนชุดดําถูกพวกของจวินอู๋เสียทรมานจนเกือบตาย อีกด้านหนึ่งของสํานักธาราเมฆ คนชุดดํามากกว่าสิบคนกําลังวิ่งตรงไปที่หอเก็บสมบัติของสํานักธาราเมฆ
ภายใต้ความมืดมิดยามค่ำคืน พวกเขายืนนิ่งอยู่นอกหอเก็บสมบัติ ดวงตาวาววับจ้องมองไปยังจุดหมายปลายทางของพวกเขา