เขาได้รับจดหมายฉบับนั้นของเธอ ตอนที่เห็นในจดหมายบอกว่า จะสารภาพรักกับคนที่ชอบ หัวใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือน โรคหัวใจกำเริบกะทันหัน ต้องนอนโรงพยาบาล ครึ่งเดือนผ่านไป ถึงได้พอมีแรงขึ้นมา จากนั้นก็ตอบจดหมายเธอ นัดพบเจอกับเธอ อยากจะบอกความคิดที่แท้จริงในใจให้เธอฟัง
พอดีกับในตอนนั้น ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่ามีหัวใจที่เหมาะสมแล้ว เขารู้ว่าตัวเองสามารถมีชีวิตต่อไปได้แล้ว ดังนั้นถึงได้ตัดสินใจเตรียมบอกรักเธอ แน่นอนว่า ถ้าหากไม่มีหัวใจเขาจะไม่ทำแบบนั้น จะไม่รั้งเธอเอาไว้ให้เสียเวลา อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว
ในตอนที่เธอได้รับจดหมายของเขาแล้ว วันที่โทรมาหาเขา ตรงกับวันที่เขาผ่าตัดพอดี หลังจากผ่าตัดแล้ว เขาพักฟื้นไปหนึ่งเดือน ฝืนลงจากเตียงได้แล้ว ก็ให้เหมันตร์เข็นเขาไปยังสถานที่นัดพบ แต่แล้วคนที่มากลับเป็นส้มเปรี้ยว
เพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อนว่าต้นไผ่หน้าตาเป็นอย่างไร พอดีส้มเปรี้ยวก็พูดเรื่องราวที่พวกเขาเขียนในจดหมายอีก ดังนั้นเขาถึงได้เชื่อว่าส้มเปรี้ยวก็คือต้นไผ่
มายมิ้นท์เข้าใจคำพูดของเปปเปอร์แล้ว เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง “คุณบอกว่าส้มเปรี้ยวแอบอ้างตัวเป็นฉันไปพบกับคุณ?”
“ใช่!” เปปเปอร์พยักหน้า “หกปีก่อน ผมนัดกับคุณเอาไว้ตอนสิบโมงเช้า คนที่มาก็คือส้มเปรี้ยว”
“ไม่ถูกนะ คุณบอกว่าบ่ายสองโมงชัดๆ ฉันรอตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงกลางคืน คุณไม่มา!” มายมิ้นท์จ้องมองดูเขา
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “ผมบอกเมื่อไหร่ว่าบ่ายสองโมง? สายโทรศัพท์เมื่อหกปีที่แล้ว ผมยังจำได้ชัดเจน ที่ผมบอกคือสิบโมงเช้า”
“ใช่ คุณบอกว่าสิบโมงเช้า แต่เช้าวันที่นัดพบกัน คุณก็ส่งข้อความมาอีก ว่าตอนเช้ามีธุระมาไม่ได้ เลื่อนเวลามาเป็นบ่ายสองโมง” มายมิ้นท์พูดพร้อมกับบีบฝ่ามือ
“วันนั้นผมไม่เคยส่งข้อความอะไรให้คุณเลย” เปปเปอร์ตอบ
มายมิ้นท์ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ มิลลี่บอกกับฉันว่าคุณส่งข้อความมา”
“คนอื่นบอกกับคุณ?” เปปเปอร์หรี่ตา “ดังนั้นความหมายของคุณคือ คุณไม่ได้เห็นข้อความนั่นกับตาตัวเอง?”
มายมิ้นท์อืมคำหนึ่ง “ใช่……”
มองดูชายหนุ่มที่ทำหน้าดำหน้าเขียว เธอพอจะรู้ตัวแล้วว่า ตอนนั้นตัวเองถูกหลอกแล้ว!
เปปเปอร์ไม่ได้ส่งข้อความ เรื่องข้อความมิลลี่เป็นคนอุปโลกน์ขึ้นมาเอง เพื่อขัดขวางไม่ให้เธอพบกับเปปเปอร์ในตอนเช้า
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมมิลลี่ถึงทำแบบนั้น มายมิ้นท์ก็รู้สาเหตุแล้ว เพื่อช่วยส้มเปรี้ยว!
ตอนอยู่ปีหนึ่งปีสอง เธอกับข้าวก้องยังติดต่อกันอยู่ ตอนนั้นคนในหอต่างก็รู้ดี เธอยังเคยถูกพวกเธอแซวเพราะเรื่องนี้อีกด้วย นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังสื่อสารกับคนอื่นด้วยวิธีแบบนี้อีก
ส้มเปรี้ยวคือหนึ่งในจำนวนนั้น ยังเคยแอบดูจดหมายของเธอกับข้าวก้องโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่เธอได้รู้ ส้มเปรี้ยวไม่เพียงไม่รู้สึกละอายใจ ยังทำแม้กระทั่งเลียบๆเคียงๆถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของข้าวก้องอีกด้วย ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ตอนนี้มาคิดดูแล้ว น่ากลัวว่าตอนนั้น ส้มเปรี้ยวก็รู้แล้วว่าข้าวก้องก็คือเปปเปอร์แล้ว ดังนั้นถึงได้วางแผนแอบอ้างเป็นเธอไปพบเปปเปอร์
คิดถึงตรงนี้ ดวงตามายมิ้นท์เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดในทันที มีโกรธ มีความเกลียดชัง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คนคนหนึ่ง จะสามารถไร้ยางอายขนาดนี้ได้!
มองดูร่างที่สั่นเทาเพราะความโกรธของมายมิ้นท์ เปปเปอร์ยื่นมือออกไป อยากปลอมประโลมเธอ
แต่ว่ากลับถูกมายมิ้นปัดออกอย่างเย็นชา
เปปเปอร์มองดูมือที่ถูกตบจนแดงของตัวเอง สายตามืดสลัวไปครู่หนึ่ง
เธอยังไม่ให้อภัยเขา……
เปปเปอร์วางมือลง “ตอนนี้คุณเข้าใจหรือยัง เพราะอะไรผมถึงบอกว่าคนที่ผมรักมาตลอดคือคุณ ไม่ใช่ส้มเปรี้ยว?”
แววตามายมิ้นท์เป็นประกายขึ้นมา ไม่พูดอะไร
เปปเปอร์มองดูเธอ ในใจรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าเธอจะตอบกลับมาว่าอย่างไร เธอเชื่อแล้ว หรือว่ายังไม่เชื่อ
ถ้าหากว่าเชื่อแล้ว เธอจะให้อภัยเขาไหม?
อากาศค่อยๆหยุดนิ่งลง
มายมิ้นท์ไม่ได้เอ่ยอะไรเลย
ในใจเปปเปอร์ก็วิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้ ในที่สุดมายมิ้นท์ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา เธอเงยหน้ามองดูเปปเปอร์อย่างสงบนิ่ง “ประธานเปปเปอร์ ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณพูดเมื่อกี้ คนที่คุณรักคือฉันมาตลอด แต่ว่าเพราะอะไรฉันถึงสัมผัสไม่ได้ล่ะ?”
“หมายความว่าอย่างไร?” เปปเปอร์อึ้งไปเล็กน้อย
มายมิ้นท์ยิ้มเรียบๆ “คุณบอกว่าคุณรักต้นไผ่ แต่ฉันก็คือต้นไผ่ ฉันแต่งงานกับคุณหกปี เวลาหกปี คุณยังไม่รู้ว่าฉันคือต้นไผ่ คุณรักฉันจริงๆเหรอ? ถ้าหากคุณรักฉันจริงๆ คุณไม่ควรจะรู้ตั้งนานแล้วเหรอว่าส้มเปรี้ยวเป็นตัวปลอม?”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะรู้ คือ……”
“พอเถอะ!” มายมิ้นท์ยกมือขึ้นเพื่อตัดคำพูดของเขา “ฉันไม่อยากพูดกับคุณอีก และฉันก็ไม่เชื่อว่าคุณรักฉันด้วย คุณรักฉันคุณจะจำฉันไม่ได้เชียวเหรอ อีกอย่าง ถึงแม้ว่าที่คุณรักฉันเป็นเรื่องจริง แต่ฉันก็ไม่คิดว่าคนที่คุณรักคือมายมิ้นท์ คนที่คุณรักจริงๆคือต้นไผ่ที่เป็นอวตารคนนั้นต่างหาก”
มายมิ้นท์มองดูเขา “ไม่อย่างนั้นทันทีที่คุณรู้ว่าฉันคือต้นไผ่ จะวิ่งมาบอกกับฉันว่ารักเหรอ? แต่ตอนที่ฉันเป็นมายมิ้นท์ คุณไม่เคยมีความรักให้ฉันเลยสักนิด อีกทั้งยังเย็นชาสุดขีด เปปเปอร์ คุณรู้ไหมว่าคุณปฏิบัติต่อฉันกับต้นไผ่เป็นคนสองคนโดยสิ้นเชิง”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง “ใช่ ผมยอมรับว่าผมปฏิบัติต่อคุณและต้นไผ่เป็นคนสองคน แต่ว่าในตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าคุณคือต้นไผ่ ผมก็ยังคงตกหลุมรักคุณ เพียงแต่ว่าผมไม่รู้ตัวเอง”
รูม่านตามายมิ้นท์หดตัวเล็กน้อย
หลงรักเธอในตอนที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือต้นไผ่?
เป็นไปได้เหรอ?
มายมิ้นท์สงบลงมาอย่างรวดเร็ว ยิ้มเย้ยหยัน “ขออภัยอย่างมากประธานเปปเปอร์ คำพูดพวกนี้ คุณเอาไปหลอกสาวน้อยยังพอไหว แต่มันใช้หลอกฉันไม่ได้หรอก ตกลงแล้วตัวเองรักใครยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ขอโทษที่ฉันเชื่อได้ยาก คนในโลกนี้ จะมีคนแบบนี้ด้วย”
เปปเปอร์มองต่ำ
เธอก็ยังไม่ยอมเชื่อว่าเขารักเธอ
ถึงแม้เขาจะพูดถึงขนาดนี้แล้วก็ตาม
“อีกอย่าง ประธานเปปเปอร์คุณจะบอกเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม ในเมื่อส้มเปรี้ยวก็แอบอ้างเป็นฉันมาแล้วหกปี ทำไมไม่ปล่อยให้เลยตามเลยไปล่ะ หรือคุณยังอยากจะให้ฉันกับส้มเปรี้ยวต่างคนต่างกลับไปยังที่ของตัวเอง จากนั้นก็แต่งงานกับฉันใหม่?” มุมปากมายมิ้นท์ยิ้มเย้ยหยันเป็นมุมเรเดียนขณะมองดูเปปเปอร์
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือผิด ยอมรับโดยปริยาย
มายมิ้นท์เฮอะออกมา “ฉันพูดถูกจริงๆด้วย ตอนที่ฉันเป็นมายมิ้นท์ คุณไม่แม้แต่จะมองมาที่ฉัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นต้นไผ่ คุณก็เข้ามาบอกรักฉัน ยังจะแต่งงานใหม่กับฉัน มีสิทธิ์อะไร? ฉันคือคนที่คุณไม่อยากได้ก็ไม่เอา อยากจะขอคืนดีก็สามารถคืนดีได้เหรอ? ฉันจะบอกคุณให้เปปเปอร์ ฉันไม่ได้ต่ำตมขนาดนั้น ดังนั้นฉันจะไม่แต่งงานซ้ำกับคุณเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่ได้รักคุณมานานแล้ว!”
ถ้าหากเขาสามารถรู้ว่าส้มเปรี้ยวเป็นตัวปลอม เธอต่างหากที่เป็นต้นไผ่ตัวจริง ก่อนที่ส้มเปรี้ยวจะฟื้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าคนที่เขารักจะเป็นต้นไผ่ที่เป็นอวตาร เธอก็ยินดีจะยอมรับ ยินดีจุดไฟความรู้สึกที่มีต่อเขาใหม่ ไม่ถือสาที่เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนไปอย่างสิ้นเชิง
เพราะถึงเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร ก็ยังเป็นเปปเปอร์ ก็เหมือนต้นไผ่ที่เป็นอวตารคนนี้ถึงจะซ่อนตัวอย่างไร ก็ยังเป็นเธอเช่นกัน ดังนั้นเธอมีความมั่นใจ ทำให้เขาเปลี่ยนจากรักต้นไผ่มารักมายมิ้นท์
แต่ว่าไม่มีถ้าหาก ทุกอย่างมันสายไปแล้ว พวกเขากลับไปไม่ได้แล้ว!
ถึงแม้จะเคยได้ยินมายมิ้นท์บอกว่าไม่ได้รักเขาแล้วมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ได้ยิน เปปเปอร์ก็ยังรู้สึกเจ็บในใจเล็กน้อย และอัดอั้นมาก ทรมานอย่างมาก
“ประธานเปปเปอร์ คุณกลับไปเถอะ ในเมื่อเราเดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมจะต้องเดินต่อไปแบบนี้อีกล่ะ” มายมิ้นท์พูดพร้อมกับถอยหลังออกไป “บางทีตั้งแต่แรกเริ่ม เราก็ไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว!”
ริมฝีปากบางเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย ต้องการจะพูดอะไร จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูครู่หนึ่ง เป็นสายจากเยี่ยมบุญ
เปปเปอร์วางโทรศัพท์มือถือลง ไม่ได้คิดจะรับสายในทันที แต่เอ่ยปากพูดว่า: “ผมรู้ว่าวันนี้ผมพูดเรื่องพวกนี้กับคุณ ทำให้คุณรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมาก แต่ว่าผมจะไม่ยอมแพ้แน่!”
พูดจบ เขามองดูเธออย่างลึกซึ้งครู่หนึ่ง หันหลังเดินไปทางประตูของห้องทำงาน