ปัง!
ประตูห้องทำงานถูกปิดลง ภายในห้องเงียบสงบลงมาทันที
มายมิ้นท์มองดูมือสองข้างที่ถูกเปปเปอร์จับเอาไว้ พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “ประธานเปปเปอร์ เต้ถูกพาออกไปแล้ว ตอนนี้คุณปล่อยฉันได้แล้วมั้ง?”
เปปเปอร์อืมออกมาคำหนึ่ง แล้วก็ปล่อยเธอ
สองมือของมายมิ้นท์ได้รับอิสระ รีบถอยหลังไปสองก้าวทันที เว้นระยะห่างออกจากเขา “ประธานเปปเปอร์ คุณอยากจะพูดอะไรกับฉันกันแน่?”
เปปเปอร์มองดูเธอ สายตาจริงจังผสมไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง “สิ่งที่พูดกับคุณที่คอนโดพราวฟ้าครั้งก่อน ไม่ได้กำลังกลั่นแกล้งคุณ ทุกอย่างเป็นความจริงทั้งนั้น คนที่ผมรัก ไม่ใช่ส้มเปรี้ยว คือคุณ!”
“……” มายมิ้นท์เงียบไปไม่กี่วินาทีก่อน จากนั้นก็หัวเราะอย่างประชดประชันขึ้นมา “เปปเปอร์ ในตัวฉันมีอะไรดีที่ควรค่าให้คุณคิดถึงตลอดเวลา คุณไม่เพียงยังอยากจะหลอกฉัน กระทั่งร่วมมือกับท่านย่ามาหลอกฉันด้วย?”
เห็นเธอยังไม่ยอมเชื่อความจริงใจของตัวเอง เปปเปอร์ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุณยังจำข้าวก้องได้ไหม?”
เขาไม่ตอบแต่ถามกลับ
มายมิ้นท์ได้ยินชื่อนี้ สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณรู้จักข้าวก้องได้อย่างไร?”
เป็นแบบนั้นจริงๆเธอคือต้นไผ่ตัวจริง!
คิ้วของเปปเปอร์อ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางเปิดออกช้าๆ: “ก้องกวินคืออีกชื่อหนึ่งของผม หลายปีก่อนหน้านี้ ผมใช้นามสกุลตามแม่ แม่ผมเรียกผมว่าข้าวก้อง!”
“คุณ……คุณ……” ได้ยินคำพูดนี้ มายมิ้นท์เบิกตากว้างชี้ไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ จะไม่เข้าใจได้อย่างไร ว่าเขาก็คือข้าวก้องที่เป็นเพื่อนทางจดหมายกับเธอมานานหลายปี!
ราวกับรู้ว่ามายมิ้นท์ต้องการจะพูดอะไร เปปเปอร์กดมือของเธอลงเบาๆ “ผมก็คือข้าวก้องที่คุณคิดถึงคนนั้น ต้นไผ่!”
เขาเรียกนามปากกาตัวเองออกมาแล้ว มายมิ้นท์ ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปว่าเขาไม่ใช่เพื่อนทางจดหมายของเธอ
เพียงแต่ว่าเธอแค่ยังรับไม่ค่อยได้เท่านั้น
“ทำไมถึงเป็นคุณได้ล่ะ?” มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก รู้สึกแค่ว่ามันไร้สาระมาก “ทำไมคุณถึงเป็นข้าวก้องได้?”
ไม่นึกเลยว่าพี่ชายอ่อนโยนที่ใช้จดหมายปลอมประโลมเธอ ตอนที่เธอถูกแม่เลี้ยงรังแก ตอนที่เธอไม่สบายใจ จะเป็นเปปเปอร์!
“ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้?” เปปเปอร์ถามพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย: “หรือจะบอกว่า คุณเสียใจที่ผมคือข้าวก้อง?”
เขาดูออกว่า ในตอนที่เธอแน่ใจว่าเขาก็คือข้าวก้อง สีหน้าท่าทางของเธอดูผิดหวัง
ไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่ต้องการให้เขาเป็นข้าวก้อง!
หัวใจเปปเปอร์รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย
เขามาด้วยความตื่นเต้นเต็มที่ อยากจะบอกกับเธอ ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนทางจดหมายกัน
เดิมเขาคิดว่า หลังจากที่เธอรู้ว่าเขาคือข้าวก้องเธอจะดีใจมาก เพราะพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขนาดนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอจะมีปฏิกิริยาแบบนี้!
บางทีเธออาจจะไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้พบข้างก้อง เพียงแต่บังเอิญไม่อยากยอมรับว่าเขาคือข้าวก้องก็เท่านั้น
ถ้าหากว่าเปลี่ยนข้าวก้องเป็นคนอื่น เธอก็จะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้
เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว มือสองข้างของเปปเปอร์ก็กำแน่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไอความเย็นแผ่กระจายไปรอบตัว
มายมิ้นท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆมองดูเขา “ขอโทษด้วยประธานเปปเปอร์ ฉันรู้สึกเสียใจมากจริงๆที่คุณคือข้าวก้อง เพราะคุณกับข้าวก้องที่ฉันรู้จัก ไม่มีความคล้ายกันเลยสักนิด”
แน่นอน น่าจะบอกว่าเปปเปอร์ในตอนนี้ ไม่มีความคล้ายคลึงกับข้าวก้องเลย เปปเปอร์เมื่อหกปีก่อนยังพอว่า
ตอนที่เธอรู้จักข้าวก้อง อายุยังไม่ถึงสิบสอง เพิ่งจะขึ้นมัธยมต้น มีครั้งหนึ่ง น้องสาวที่เกิดจากแม่เลี้ยงทำแจกันดอกไม้แตก จากนั้นน้องสาวคนนั้นก็ชิงไปฟ้องบอกความเท็จก่อน ใส่ร้ายเธอว่าเป็นคนทำแจกันดอกไม้แตก แม่เลี้ยงอาศัยตอนพ่อไม่อยู่ ตบเธอไปหนึ่งฉาก เธอเศร้าเสียใจจนขังตัวเองอยู่ในห้อง จากนั้นก็เขียนเรื่องนี้ลงในขวดลอยน้ำบนอินเทอร์เน็ต แล้วก็โยนออกไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีข้อความแจ้งเธอ มีคนตอบกลับขวดลอยน้ำของเธอแล้ว คนคนนั้นก็คือข้าวก้อง และก็เริ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอกับข้าวก้องก็กลายมาเป็นเพื่อนทางจดหมายกัน
ข้าวก้องนิสัยอ่อนโยน และยังมีความรู้กว้างขวางมากอีกด้วย ดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่เขาจะไม่รู้และทำไม่เป็น เขาจะช่วยตอบปัญหาในทุกๆด้านแก่เธอ ในตอนที่เธอพบเจอกับอุปสรรคเขาก็จะคอยเหนี่ยวนำให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างอดทน อีกทั้งยังคิดหาวิธีจัดการกับแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอหลายต่อหลายครั้ง พูดได้ว่า ภายหลังที่เธอสามารถเติบโตมาได้ตามอำเภอใจภายใต้การเลี้ยงดูของแม่เลี้ยง ข้าวก้องมีความดีความชอบอยู่ครึ่งหนึ่ง
ตอนขึ้นมัธยมปลาย เธอตกหลุมรักเปปเปอร์ตั้งแต่แรกพบ เริ่มทำความรู้จักกับเปปเปอร์ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งพบว่าเปปเปอร์กับข้าวก้องนิสัยคล้ายกันมาก ต่างก็เป็นคนประเภทที่อ่อนโยน ตอนนั้นเธออดคิดไม่ได้ว่า เปปเปอร์คล้ายกับข้าวก้องขนาดนี้ ถ้าหากเธอคบกับเปปเปอร์ เปปเปอร์จะปฏิบัติต่อเธอเหมือนที่ข้าวก้องทำไหม?
ด้วยเหตุนี้ เธอยังเคยถามคำนี้กับข้าวก้องด้วยตัวเอง แน่นอนว่า ตอนที่เธอถาม ไม่ได้บอกว่าคนที่ตัวเองชอบเป็นใครกันแน่ บอกแค่ว่าเป็นรุ่นพี่ที่จบไปนานมากแล้ว อยากให้ข้าวก้องให้คำตอบที่แน่ชัดกับเธอ ถ้าหากคำตอบที่ข้าวก้องให้เธอที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ เธอก็จะรวบรวมความกล้า สารภาพรักกับเปปเปอร์ที่เข้ารับตำแหน่งในนวบดินทร์กรุ๊ป ปีนั้นเป็นปีที่อยู่มหาวิทยาลัยปีสอง
ปีนั้นหลังจากที่เธอถามข้าวก้องแล้ว การตอบกลับของข้าวก้องไม่ตรงต่อเวลาเหมือนปกติ จดหมายที่จะถึงมือเธอทุกๆวันอาทิตย์ กลับมาถึงหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในจดหมาย ข้าวก้องไม่ได้ตอบคำถามข้อนั้นของเธอ แต่กลับเสนอให้ไปพบกัน บอกว่ามีเรื่องที่สำคัญมาก อยากจะบอกกับเธอด้วยตัวเอง และทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ในจดหมาย ให้เธอบันทึกเก็บเอาไว้
หลังจากบันทึกแล้วเธอก็โทรออกไป ข้าวก้องรับสายโทรศัพท์แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะป่วย น้ำเสียงฟังดูอ่อนแอมาก หลังจากที่เขาบอกกับเธอถึงสถานที่นัดพบและเวลาอย่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงแล้ว เธอก็ได้ยินหมอทางฝั่งเขาบอกว่าได้เวลาเข้าห้องผ่าตัดแล้ว จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกวางสายไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน ก็ถึงเวลานัดหมาย เธอไปยังสถานที่ที่ข้าวก้องบอกเอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะพบกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่า เธอรอตั้งแต่เที่ยงวันจนฟ้ามืดก็ไม่เห็นข้าวก้องมา ระหว่างนั้นโทรศัพท์ก็โทรไม่ติด เธอกลับหอไปด้วยความผิดหวัง และเช้าวันถัดมา ข้าวก้องก็ส่งข้อความมา บอกกับเธอว่าต่อไปไม่ต้องเขียนจดหมายติดต่อกันอีกแล้ว
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่รู้จักกันจนถึงจุดสิ้นสุดระหว่างเธอกับข้าวก้อง ที่น้ำเน่าเวอร์เกินจริงก็คือ ข้าวก้องกับผู้ชายคนที่เธอแอบรักในตอนนั้น เป็นคนคนเดียวกัน เปปเปอร์!
“คุณพูดถูก ตอนนี้ผมกับข้าวก้องไม่มีส่วนไหนเหมือนกันเลยจริงๆ” เปปเปปอร์มองต่ำลงไป
เพราะการสะกดจิตจางหายไป เขาค่อยๆนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อก่อนตัวเองเป็นอย่างไร
แต่เขาก็รู้ชัดเจนดี ถึงแม้เขาจะหลุดพ้นจากการสะกดจิต แต่เขาที่เคยผ่านการต่อสู้ทางธุรกิจและการวางแผนร้อยเล่ห์เพทุบายมาแล้ว ก็กลับไปเป็นเขาคนเดิมไม่ได้อีก
“พอแล้ว พูดเรื่องพวกนี้มีประโยชน์อะไร ถึงแม้ว่าคุณคือข้าวก้องแล้วอย่างไร มันเกี่ยวอะไรกับที่คุณบอกว่าคุณรักฉัน?” มายมิ้นท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับอารมณ์วุ่นวายในใจลงมา พูดด้วยเสียงเย็นชาเฉยเมย
“มีแน่นอนอยู่แล้ว!” ริมฝีปากบางเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย เอ่ยปากตอบกลับไปว่า: “หลายปีก่อนหน้านี้ ผมก็หลงรักต้นไผ่แล้ว แม้แต่ตัวผมเองยังไม่กล้าจะเชื่อ ว่าตัวเองจะหลงรักหญิงสาวที่ไปเคยพบเจอกันมาก่อนผ่านตัวอักษร ซึ่งก็คือคุณ มายมิ้นท์!”
“เดี๋ยวก่อนนะ!” มายมิ้นท์รีบทำท่าทางหยุด “คุณบอกว่า คุณหลงรักฉันที่ยังเป็นต้นไผ่มานานแล้ว?”
“ใช่!” เปปเปอร์พยักหน้า
มายมิ้นท์หัวเราะออกมา ในเสียงหัวเราะมีความเยาะเย้ยอยู่เล็กน้อย “คุณคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ? คุณกับส้มเปรี้ยวคบกันเมื่อหกปีที่แล้ว แสดงว่า……”
“ไม่ใช่นะ!” รู้ว่าเธอจะพูดอะไร เปปเปอร์รีบขัดขัดจังหวะคำพูดของเธอทันที อธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมไม่เคยรักส้มเปรี้ยวมาก่อน คนที่ผมรักคือคุณมาตลอด หกปีก่อนที่ผมคบกับเธอ นั่นเป็นเพราะว่าผมคิดว่าเธอเป็นคุณ”
“อะไรนะ?” สีหน้ามายมิ้นท์ตะลึงไป ริมฝีปากอ้าออกเล็กน้อย “คิดว่าเธอเป็นฉัน?”
เปปเปอร์พยักหน้า “หกปีก่อน ผมเห็นในจดหมายของคุณบอกว่า อยากสารภาพรักกับคนที่แอบชอบ ผมไม่สามารถรับได้ ดังนั้นจึงเขียนจดหมายตอบคุณ นัดพบกับคุณ ก็เพื่อบอกกับคุณด้วยตัวเอง ผมรักคุณมาโดยตลอด อยากอยู่ด้วยกันกับคุณ แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่มาไม่ใช่คุณ แต่เป็นส้มเปรี้ยว!”