ตอนที่ 441 - การกลับมาของท่านลุงเจียง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 441 – การกลับมาของท่านลุงเจียง

“ท่านอาจารย์ ในที่สุดท่านก็ทะลวงผ่านด่าน มันวิเศษมาก ! ” ใบหน้าของเฉิงเฟยเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและมีความสุข อาจารย์ของเขาสามารถที่จะกลายเป็นเซียนสวรรค์ได้ในเวลาสำคัญเช่นนี้ซึ่งหมายความว่าตอนนี้สำนักหัวหยุนมีเซียนสวรรค์ 3 คน ซี่งมากกว่าพระราชวังและทำให้พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเกอซุน

ในความคิดของเฉิงเฟย เขาสามารถเห็นฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเกอซุนปฏิบัติต่อสำนักหัวหยุนด้วยความเคารพและยอมจำนน

เมื่อเห็นว่าสำนักหัวหยุนของพวกเขาได้มีเซียนสวรรค์เพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉิงเฟยทุกคนดูมีความสุขมากและมองผู้อาวุโสด้วยความเคารพ

อีกด้านหนึ่ง ทุกคนจากตระกูลเจียงหยางดูหน้าตาบูดบึ้งขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างมืดครึ้ม สำนักหัวหยุนมีเซียนสวรรค์ 3 คนนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ

“ซีหยา ข้าไม่คิดว่าแทนที่เจ้าจะตาย มันกลับทำให้เจ้าทะลวงผ่านด่าน” หนึ่งในผู้อาวุโสจากตระกูลเจียงหยางพูด ซีหยาเป็นอาจารย์ของเฉิงเฟยและมีอายุ 400 ปีแล้ว เพราะเขามีพรสวรรค์ที่เทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะทั่วไป เขาใช้เวลานานมากในการเข้าถึงขอบเขตเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 เขาติดอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเป็นเวลาหลายสิบปีโดยไม่สามารถเข้าใจพลังงานโลกได้เลย เนื่องจากมีเวลาไม่มากจนกระทั่งอายุขัยตามธรรมชาติของเขาหมดไป ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทะลวงผ่านด่านในช่วงเวลาสุดท้ายเพื่อที่จะได้เป็นเซียนสวรรค์

ซีหยาหัวเราะออกมาดัง ๆ ” สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งข้า เจียงหยางหยุนคัง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะติดอยู่ที่นี่ หากเจ้าไม่รีบและทำงานให้หนัก เจ้าจะไม่มีโอกาสเหลืออยู่เลย”

“ฮึ่มม ! ” ผู้อาวุโสตอบโดยไม่มีความคิดเห็นเพิ่มเติม

“ท่านอาจารย์ ท่านมาได้เวลาพอดี แขนของเฉิงหมิงเซียงลูกชายของข้าถูกตัดโดยหนึ่งในตระกูลเจียงหยาง แต่เพื่อปกป้องมัน ตระกูลเจียงหยางทำให้เราเป็นศัตรูกัน ข้าหวังว่าอาจารย์จะช่วยจัดการสิ่งต่าง ๆ และแก้แค้นให้กับแขนลูกชายของข้า” เฉิงเฟยพูดกับซีหยา ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถลงมือแก้แค้นกับเจียงหยางเซียงเทียนได้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์ของเขา

ซีหยาพยักหน้า “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของเฉิงหมิงเซียง นี่เป็นปัญหาเรื่องศักดิ์ศรีของเราเอง มั่นใจได้ว่าข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกเราได้รับความยุติธรรมอย่างเหมาะสม”

หลังจากตอบกลับ ซีหยามองไปที่ตระกูลเจียงหยาง ” เจ้าพาเขาออกมาอย่างรวดเร็วจะดีกว่า มิฉะนั้นเจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือ เจ้าควรรู้ผลที่ตามมาของมัน”

เซียนสวรรค์แตกต่างจากเซียนปฐพีอย่างมาก ไม่สำคัญว่าบุคคลนั้นเพิ่งจะกลายเป็นเซียนสวรรค์ เซียนปฐพีจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

กลุ่มจากตระกูลเจียงหยางหน้าแข็งเป็นหิน ขณะที่พวกเขาดูพลังที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา แต่เจียงหยางป้าไม่ยอมถอยหลังและพูดแทน “เราจะไม่มอบเขาให้กับพวกเจ้า”

ดวงตาของซีหยาเย็นชาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะแค่นเสียง พลังจำนวนมากเริ่มเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขาและกดดันคนจากตระกูลเจียงหยางอย่างไร้ความปราณี เมื่อเทียบกับอำนาจดังกล่าวบรรดาเซียนผู้เชี่ยวชาญและเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษของตระกูลเจียงหยางต่างก็หน้าซีดราวกับซากศพ ไม่สามารถก้าวถอยหลังได้ พวกเขาเริ่มกระอักเลือดออกมา ความแข็งแกร่งของเซียนสวรรค์เป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาทนไม่ได้

คนที่เหลือที่ยังคงยืนอยู่ในตอนนี้คือเซียนปฐพีหลายสิบคนจากตระกูลเจียงหยาง แต่ละคนกัดฟันด้วยความเจ็บปวด แต่ความพยายามของพวกเขาที่จะอดทนต่อพลังดังกล่าวนั้นต้องใช้พลังอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่เจียงหยางป้าเป็นผู้นำตระกูล แต่ความแข็งแกร่งของเขามีเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ

ภายในคฤหาสน์ ดวงตาของเจี้ยนเฉินทอประกายดุร้ายต่อพวกเขา แม้ว่าป้าของเขาที่นี่จะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาเองก็สามารถเห็นสถานการณ์ภายนอกอย่างชัดเจน เขาจะไม่อนุญาตให้เซียนสวรรค์แห่งสำนักหัวหยุนทำตามที่เขาพอใจเช่นนี้

เจี้ยนเฉินเดินไปด้านนอกด้วยท่าทีที่มืดครึ้ม แต่ก่อนที่เขาจะก้าวไปได้หลายก้าว แขนแข็งแรงของเขาก็ถูกดึงไว้ก่อนที่จะได้ยินเสียงของมารดาเขา

“เซียงเอ๋อ เจ้าจะไปไหน ? เชื่อฟังแม่ของเจ้าและอยู่ที่นี่” ใบหน้าของไป๋หยุนเทียนเริ่มกังวลมากขึ้น ในอดีตนางปรารถนาทุกวันทุกคืนจนในที่สุดนางก็ได้พบลูกชายของนางและตอนนี้ความปรารถนานั้นก็เป็นจริงในที่สุด แต่หลังจากกลับมายังไม่ทันถึงวัน สำนักหัวหยุนก็มาถึงหน้าประตู ทำให้ไป๋หยุนเทียนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากกับการสูญเสียลูกชายที่รักของนางอีกครั้ง

“ท่านแม่ ลูกชายคนนี้ของท่านไม่กลัวนิกายหัวหยุน ได้โปรดปล่อยข้าไป” เจี้ยนเฉินพูด

“ไม่แน่นอน ! ” ไป๋หยุนเทียนพูดอย่างไม่มีช่องให้ปฏิเสธ มือทั้งสองของนางจับที่แขนของเจี้ยนเฉินและคร่ำครวญว่า “เซี่ยงเอ๋อ ช่วยฟังคำพูดของแม่ เชื่อแม่และอยู่ที่นี่ พ่อของเจ้าจะจัดการเรื่องสำนักหัวหยุนเอง”

“ท่านแม่ ลูกของท่านไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อหลายปีก่อน แน่นอนว่าสำนักหัวหยุนจะไม่เป็นอันตรายต่อลูกของท่าน” เจี้ยนเฉินอธิบาย

“เซียงเอ๋อ อย่าพูดโง่ ๆ เช่นนี้ เจ้าจะแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับสำนักหัวหยุนได้อย่างไร ? ฟังแม่ของเจ้า อยู่ที่นี่ข้าง ๆ แม่” ไป๋หยุนเทียนอ้อนวอนด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของนาง

เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนวอนบนใบหน้าของแม่ เจี้ยนเฉินถอนหายใจกับตัวเอง เขาใจอ่อนลงตั้งแต่เขากลับมาและเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นแม่ของเขาเจ็บปวด ก็ได้ ท่านแม่ ลูกของท่านจะอยู่ที่นี่”

ด้านนอกในสวน ซีหยายิ้มให้กับคนที่ดิ้นรนจากตระกูลเจียงหยาง ” ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เจ้าจะมอบเขาให้ข้าหรือไม่”

“ถ้าเจ้าต้องการพาใครบางคนจากตระกูลเจียงหยางของข้า เจ้าจะไม่เห็นประตูของเราเปิดให้กับเจ้า ศักดิ์ศรีของตระกูลเจียงหยางของข้าจะไม่ถูกเหยียบย่ำโดยเจ้า หากเจ้าต้องการเริ่มสงคราม ก็ให้มันเริ่มไป ! ” เจียงหยางป้าพูด ถึงแม้ว่าสำนักหัวหยุนจะมีเซียนสวรรค์ 3 คนที่มีอำนาจมากมาย เจียงหยางป้าก็ยังไม่มีความกลัว

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องลิ้มรสความเจ็บปวดก่อนที่จะเชื่อฟัง” ดวงตาของซีหยาเย็นชาขณะที่เขายื่นมือทั้งสองข้าง ธาตุไฟทั้งหมดในโลกเริ่มรวมตัวกันรอบ ๆ ตัวเขาเพื่อบ่งบอกว่าเขากำลังจะโจมตี

“ก้าวไปข้างหน้า ทุกคน!”

เซียนปฐพีจากตระกูลเจียงหยางส่งเสียงร้องขึ้นและสร้างอาวุธเซียนของพวกเขาจากพลังเซียนที่ระเบิดออกมาจากร่างกายของพวกเขา พวกเขาพุ่งเข้าใส่ซีหยาและนำอาวุธเซียนของพวกเขาพุ่งเข้าใส่เขาในหลาย ๆ จุด

ซีหยาเพิ่งจะก้าวไปสู่การเป็นเซียนสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคยกับพลังงานโลก ด้วยธาตุไฟทั้งหมดในโลกยังคงอยู่รอบตัวเขาซีหยา สามารถละเว้นการเคลื่อนไหวเพื่อนำอาวุธเซียนของเขาออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเหล่าเซียนปฐพีนับสิบคน

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันด้วยการระเบิดของพลังงานมหาศาลทำให้เกิดความเสียหายต่อสนามหญ้าของตระกูลเจียงหยาง อย่างไรก็ตามเซียนสวรรค์ก็ยังเป็นเซียนสวรรค์ในท้ายที่สุด ความแตกต่างระหว่างบุคคลหนึ่งกับเซียนปฐพีไม่สามารถชดเชยกันได้ ด้วยการจู่โจมของซีหยา เขาก็สามารถกระแทกเซียนปฐพีกลับได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เซียนปฐพีไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ด้วยเสียงตะโกนดังพลังอันมหาศาลระเบิดออกจากร่างกายของพวกเขาเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขา 3 เท่าทันที ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น อาวุธเซียนหลายสิบเล่มได้สกัดทางหนีของซีหยา

เมื่อเห็นกลุ่มผู้อาวุโสเพิ่มพูนความแข็งแกร่งอย่างกะทันหัน ซีหยามองหน้าพวกเขาอย่างตกใจ ด้วยสีหน้าที่กังวล อาวุธเซียนในมือของเขาพุ่งสูงขึ้นราวกับสายฟ้าในขณะที่เขาเริ่มต่อสู้กับกลุ่มผู้อาวุโสอย่างจริงจัง

เสียงอาวุธที่กระทบกันสามารถได้ยินเสียงดังชัดเจน เมื่อการโจมตีแต่ละครั้ง พลังงานระเบิดไปที่ลานบ้านและนำมันไปสู่สถานะที่แย่ยิ่งกว่าเดิม แม้จะมีการสู้รบที่ดุเดือด แต่เซียนปฐพีนับสิบคนจากตระกูลเจียงหยาง ก็สามารถที่จะสกัดเซียนสวรรค์ซีหยาไว้ได้ชั่วคราว

เมื่อเห็นว่าเขามีปัญหาอย่างมากกับเซียนปฐพีนับสิบคน ซีหยารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าอายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสำนักหัวหยุนที่มาเพื่อเฝ้าดูเขา เขาพูดด้วยเสียงตะโกนดัง ๆ ” ถ้าพวกเจ้าเป็นคนดื้อรั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าโทษข้าที่ไม่สุภาพ ! ” ซีหยาเริ่มออกไปด้านนอกทันทีและระเบิดความแข็งแกร่งของเซียนสวรรค์ของเขา เขาฟันอาวุธเซียนของเซียนปฐพีแต่ละคนด้วยตัวของเขาเอง เขาสามารถส่งพวกมันบินกลับไปพร้อมด้วยเลือดที่กระเด็นออกมาจากปากของพวกเขา

เป็นผลให้เซียนปฐพีได้รับบาดเจ็บทีละคนทีละคนโดยซีหยา เลือดพุ่งออกมาจากปากของพวกเขา แต่ละคนที่ต่อสู้กับเขาบนพื้นดินอย่างเท่าเทียมกันก่อนที่จะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว

สีหน้าของเจียงหยางป้าก็ดูยากลำบากเช่นกัน เซียนสวรรค์นั้นแข็งแกร่งกว่าเซียนปฐพี แม้แต่เซียนปฐพีหลายสิบคนก็ยังไม่พอที่จะท้าทายเขาได้ ผู้อาวุโสเหล่านี้เป็นเซียนปฐพีที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเจียงหยางและถ้าพวกเขายังไม่สามารถรับมือได้ ตระกูลเจียงหยางก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ในทันที

ซีหยายิ้มออกมาอย่างเย็นชาในขณะที่เขามองเซียนปฐพีนับสิบคน ปราศจากการเหลียวมอง เขาพูดว่า” เฉิงเฟยเรียกใครบางคนไปจับชายคนนั้นไว้ หากมีใครหยุดพวกเขา อย่าได้ปรานีพวกเขาเลย”

ขอรับ อาจารย์ เจ้าสำนักพูดอย่างสนุกสนานก่อนออกคำสั่งให้หลายคนไปค้นคฤหาสน์

ภายในห้องของเจียงหยางหู่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเจี้ยนเฉินแข็งกระด้างขึ้นเนื่องจากจิตสังหารจำนวนมากที่ฉายออกมาจากดวงตาของเขา ขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนออกไปจากมือของแม่เขา สีหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลง

ในขณะนั้น ก่อนที่คนจากสำนักหัวหยุนที่ได้รับสั่งให้เข้าไปในคฤหาสน์ ก็มีเสียงดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงไฟลุกโชนมาจากขอบฟ้า แม้จากระยะไกลปริมาณพลังงานที่แผ่รังสีออกมานั้นมีศักยภาพเพียงพอที่จะเผาผลาญเมฆในท้องฟ้า

ใบหน้าของซีหยาตกใจมากขึ้นเมื่อเขากล่าวว่า” ไม่ดีแล้ว เจียงหวูจี่กลับมาแล้ว!”