ตอนที่ 442 – พลัง
**TL เจียงหวูจี่ กับเจียงไป่ เป็นคนเดียวกันนะคะ เป็นชื่อจริงกับชื่อรอง***
คำพูดของซีหยาทำให้เจ้าสำนักดูตกใจเช่นกัน เขามีความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งต่อเจียงหวูจี่ ตั้งแต่เขารู้ว่าที่ป้อมปราการทางเหนือ เจียงหวูจี่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เพื่อฆ่าเซียนสวรรค์ทั้งสอง เรื่องนี้สำหรับเขาเป็นข้อเท็จจริงที่น่าตกใจอย่างเหลือเชื่อ
อย่างรวดเร็ว ชายสวมเสื้อคลุมสีฟ้าร่อนลงมาบนพื้นดินที่ด้านหน้าของตระกูลเจียงหยางตรงข้ามกับสำนักหัวหยุน
” เจียงไป่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมา ! ” เจียงหยางป้าดูสีหน้าของเขามีความสุขเมื่อเขามองไปที่ผู้อาวุโสคนที่มาใหม่ เขาตื่นเต้นเพราะเจียงไป่เป็นเซียนสวรรค์ ตอนนี้เขากลับมาแล้ว พวกเขาสามารถปกป้องตระกูลต่อต้านซีหยาและป้องกันไม่ให้สำนักหัวหยุนตรวจค้นคฤหาสน์ได้ตามที่พวกเขาพอใจ ไม่เพียงแต่บุตรชายคนที่สี่ของเขาจะรอด แต่รวมถึงศักดิ์ศรีของพวกเขาที่ยังไม่ถูกลบหลู่ด้วยเช่นกัน
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เจียงไป่ก็กลับมาช่วยเจียงหยางป้าโดยการโยนเชือกให้เขาจับ ในที่สุดหัวใจที่กระดอนขึ้นมาที่ลำคอก็ร่วงลงมาและแม้แต่เซียนปฐพีคนอื่นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดก็มีเซียนสวรรค์ที่สามารถช่วยพวกเขาได้
เจียงหวูจี่ให้ความสนใจอย่างมากขณะที่เขาสำรวจลานที่อยู่รอบ ๆ เขาและจากนั้นก็เดินไปหาพวกผู้อาวุโสที่หน้าขาวซีด เมื่อเห็นบาดแผลของพวกเขา ดวงตาของเจียงหวูจี่ทอประกายอย่างน่ากลัวเมื่อเขาพูดว่า ท่านผู้นำ เกิดอะไรขึ้นที่นี่
เดินไปข้างหน้า เขาพูดว่า “เจียงไป่ เมื่อวานนี้เซียงเอ๋อกลับมาที่บ้าน ส่วนสำนักหัวหยุนได้ยินข่าวการกลับมาของเขาและต้องการมาจับเขา”
“อะไร ? นายน้อยสี่กลับมาบ้านแล้วหรือ ? ” ใบหน้าของเจียงไป่ตกใจมาก ไม่มีวี่แววของเจี้ยนเฉินมานานหลายปีตั้งแต่ที่เขาจากไป จนถึงจุดที่เจียงไป่ก็ยังสงสัยว่าเจี้ยนเฉินจะได้กลับมาอีกหรือไม่ เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากนั้นไม่นานนายน้อยสี่ของเขาจะกลับมา นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้คาดคิดเลย
เจียงหยางป้าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “จู่ ๆ เซียงเอ๋อก็กลับมาโดยไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน หลังจากหายไปนาน เขากลับมาอย่างปลอดภัย”
” เขากลับมา นั่นคือทั้งหมดที่สำคัญ ! ” ใบหน้าของเจียงไป่เปล่งประกายไปด้วยความสุข เจี้ยนเฉินเป็นอัจฉริยะที่มีความสามารถซึ่งเจียงไป่มีความคาดหวังไว้อย่างมาก เขาดูแลเจี้ยนเฉินในขณะที่โตขึ้น ดังนั้นความรู้สึกที่เขามีต่อเจี้ยนเฉินค่อนข้างลึกซึ้ง
เจียงหวูจี่ระงับความสุขในหัวใจของเขาและจ้องมองสำนักหัวหยุนด้วยท่าทางที่ดุร้าย ด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด เขาพูดว่า “ถึงแม้ว่านายท่านไม่ได้อยู่ที่นี่ ตระกูลเจียงหยางของเราก็จะไม่ถูกรังแกได้โดยง่ายนัก สำนักหัวหยุน ไสหัวของพวกเจ้าไปให้พ้นจากสายตาของข้า ! ” ด้วยเหตุนี้ แขนของเจียงไป่ยื่นขึ้นไปในอากาศ ทำให้เกิดคลื่นพลังงานโลกรวมตัวกันในอัตราที่น่าตกใจ จากนั้นเมื่อผลักออกไปด้านนอกพลังงานก็จะบินไปยังสำนักหัวหยุน
จากการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ผู้คนจากสำนักหัวหยุนไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย แต่ละคนปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงนอกสนามหญ้า แต่เซียนปฐพีหลายคนก็ยังสามารถปกป้องตนเองได้
แม้แต่ผู้ที่เพิ่งบรรลุเป็นเซียนสวรรค์เช่นซีหยาก็ยังพบว่ามันยากที่จะต้านทาน เท้าทั้งสองของเขาลากลงไปที่พื้นทิ้งรอยเท้าที่ลึกไว้ข้างหลังจากแรงผลักดันย้อนหลังของเขา
การควบคุมพลังงานโลกของเจียงไป่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งและควบคุมได้อย่างละเอียดอ่อน ไม่มีความเสียหายใด ๆ ในพื้นที่โดยรอบ เขาอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์มาหลายปีแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงมากกว่าซีหยา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถป้องกันการถูกพัดจากเจียงหวูจี่ ใบหน้าของซีหยาก็บิดเบี้ยวในขณะที่ความกลัวพุ่งเข้ามาในหัวใจ
เจียงหวูจี่เป็นคนที่มีความลับและไม่นับรวมอยู่ในสิบอันดับผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรเกอซุน มีเพียงคนในตระกูลเจียงหยางเท่านั้นที่รู้ว่าเจียงไป่เป็นผู้เชี่ยวชาญลับ หากไม่ใช่เพราะสี่อาณาจักร ความแข็งแกร่งของเขาจะไม่เป็นที่รู้จักกันที่ภายนอก
ดวงตาของเจียงหวูจี่มองไปที่ซีหยาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ข้าเชื่อว่าเจ้าคือซีหยา ? ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นเซียนสวรรค์ แต่เนื่องจากเจ้าได้ทำให้ตระกูลเจียงหยางของข้าได้รับบาดเจ็บ อย่าโทษข้าว่าข้าไม่สุภาพ ศักดิ์ศรีของตระกูลเจียงหยางของข้าไม่สามารถถูกเหยียบย่ำได้ง่าย ๆ ” เมื่อใช้มือขวาของเจียงหวูจี่ยื่นขึ้นไปบนอากาศรอบตัว ทำให้โลกพลังงานรอบตัวเขากลายเป็นไฟซึ่งเป็นธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในหกธาตุในแง่ของการโจมตี
ความเร็วของเจียงหวูจี่ในการรวบรวมธาตุไฟนั้นเร็วมาก ในไม่ช้าเขาก็สร้างกระบี่เพลิงขนาดยักษ์ที่บินไปทางซีหยา
ซีหยาหน้าซีดเมื่อรู้ว่าระดับเซียนสวรรค์ของเขานั้นไม่ใช้คู่ต่อสู้กับเจียงหวูจี่ โดยไม่ลังเลซีหยารีบเอาอาวุธเซียนของเขาออกมาโจมตีกระบี่เพลิง
“ตูม ! “
คลื่นขนาดใหญ่ของพลังงานระเบิดออกไปด้านนอกหลังจากการปะทะกันครั้งแรก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดภายในรัศมีการแพร่กระจาย ในเวลาเดียวกันแสงสีแดงจาง ๆ ที่สามารถมองเห็นได้ปกป้องตระกูลเจียงหยางทั้งหมด แม้แต่กำแพงของคฤหาสน์ก็ได้รับการปกป้องจากคลื่นพลังงาน
ซีหยากระอักเลือดออกมาเต็มปากก่อนที่จะหน้าซีดและเดินโซเซไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนสวรรค์ แต่ความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองนั้นมากเกินไป จนเขาไม่สามารถที่จะรับการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว
ศิษย์ของสำนักหัวหยุนก็ถูกระเบิดเช่นกัน เมื่อคลื่นไฟท่วมพวกเขาหลายคนสูญเสียชีวิตไปในขณะที่คนอื่น ๆ อีกหลายคนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่ในสภาพอุจาดตาด้วยเสื้อผ้าที่ถูกเผาไหม้ไปจนหมด
ในทันที สำนักหัวหยุนซึ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบก็ตกอยู่ในความระส่ำระสายจากการปรากฏตัวของเจียงหวูจี่ ความแข็งแกร่งของเจียงหวูจี่ทำให้สำนักหัวหยุนทั้งหมดเงียบสงบ
ทันใดนั้นพลังขนาดยักษ์สองพลังก็บินมาจากที่ไกล ๆ ในขณะที่พวกเขาเข้าหาพวกเขาค่อย ๆ ร่อนลงมาด้านหน้าของคฤหาสน์เจียงหยาง
ชายสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้เฒ่าอายุ 70 ปีที่มีเสื้อคลุมสีขาวและดวงตาที่สดใส อย่างไรก็ตามสีหน้าของพวกเขาถูกบีบอัดด้วยความโกรธเมื่อมองไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตามในขณะที่เจ้าสำนักหัวหยุนมองเห็นผู้อาวุโสทั้งสองคนนี้ เขาก็มีความสุขและคุกเข่าลงทันที ” ข้าคำนับผู้อาวุโสสูงสุด ! “
กลุ่มศิษย์ทั้งหมดจากสำนักหัวหยุนทำตามหลังทันทีและทักทายผู้อาวุโสทั้งสอง เสียงของพวกเขาน่านับถือและสั่นสะเทือนอย่างมาก
ผู้อาวุโสวูงสุดทั้งสองมองไปข้างหน้าพวกเขาครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะพูดว่า” เฉิงเฟย เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ? “
หลังจากถาม เจ้าสำนักก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองฟัง เมื่อได้ฟังผู้อาวุโสทั้งสองก็เริ่มเงียบลงครู่หนึ่ง หากในอดีตที่ผ่านมาสำนักหัวหยุนจะไม่อนุญาตให้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับตระกูลเจียงหยางและจะสังหารพวกเขาทั้งหมดจนตายไปนานแล้ว ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจียงหวูจี่ได้รับการเปิดเผยหลังจากเหตุการณ์ที่ป้อมปราการทางตอนเหนือ ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองกลัวเขาอยู่ลึก ๆ และไม่กล้าดูถูกตระกูลเจียงหยาง เพื่อให้สามารถฆ่าเซียนสวรรค์สองคน มันไม่ใช่งานที่บุคคลทั่วไปทำได้ เจียงหวูจี่ยังมีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสอง
หนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดมองไปที่เจียงหวูจี่อย่างอ่อนใจ “เจียงหวูจี่ ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวของเจ้าได้ฆ่าศิษย์สำนักหัวหยุนของข้าไปนับสิบคน เจ้าดุร้ายเกินไป”
เจียงหวูจี่แค่นเสียง ” สำนักหัวหยุนของเจ้าทำให้เกิดความวุ่นวายภายในตระกูลเจียงหยางของข้าและทำให้หนึ่งในสิบของกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของเราได้รับบาดเจ็บ หนี้แค้นดังกล่าวควรชำระคืนอย่างไร ? ” เจียงหวูจี่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมเชิดหน้าใส่ผู้เชี่ยวชาญสองคนและพร้อมที่จะต่อสู้หากจำเป็น
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองจากสำนักหัวหยุนถอยหลังไปชั่วขณะ แต่พวกเขาไม่ได้หลบหนี หนึ่งในสองคนอธิบายทันที “ข้าได้ยินเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว ความผิดอยู่กับเจียงหยางเซียงเทียน เขาตัดแขนของบุตรชายเจ้าสำนักเรา เฉิงหมิงเซียง ถ้าเรานับรวมเป็นความผิดของตระกูลเจียงหยางของเจ้า สำนักหัวหยุนของเราเพียงต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น”
” เจ้าล้อเล่น ! เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างเกิดจากการที่เฉิงหมิงเซียงหาเรื่องนายน้อยสี่ของเรา หากมีใครที่จะถูกตำหนิ ก็จงตำหนิเฉิงหมิงเซียง เซียนระดับสูงขั้นกลางที่ถูกเซียนตัดแขนนั้น มันช่างน่าหัวเราะเกินไป” เจียงหวูจี่ใส่โดยไม่ยั้ง