ตอนที่ 408 ทั้งชีวิตนี้ก็ต้องพึ่งพาท่านแน่แล้ว
คำใบ้นี้ชัดเจนเหลือเกิน หลักฐานทุกอย่างล้วนโยงไปถึงมู่หรงกวานเย่ว์
เซียวเหยี่ยนถือผ้าเช็ดหน้าไว้ จมเข้าไปในห้วงความคิด ไม่นานก็สั่งมั่วชิงว่า
“จัดการศพของเฟิงอิ๋นตามคำสั่งเสียของนาง แล้วค่อยฝังนาง”
“ข้าน้อยรับทราบ”
มั่วชิงเรียกทหารสองสามคนมาช่วยกันย้ายศพของเฟิงอิ๋นออกไปทันที
เซียวเหยี่ยนกำผ้าเช็ดหน้าแน่น ดึงมือหลิงอวี้จื้อกลับห้อง หลิงอวี้จื้อรับผ้าเช็ดหน้าจากมือเซียวเหยี่ยนไป พินิจรูปที่ปักอยู่บนนั้นอย่างละเอียด แต่มองไม่เห็นอะไรสำคัญ
นางไม่ได้มีความรู้เรื่องการเย็บปัก หยิบผ้าเช็ดหน้าไปดูแล้วก็แค่รู้สึกว่าฝีมือปักดีมาก ดูแล้วสบายตากว่าที่ปักด้วยเครื่องจักร
ดูอยู่ครึ่งค่อนวันก็มองไม่เห็นปัญหาอะไร เธอจึงคืนผ้าเช็ดหน้าให้เซียวเหยี่ยน ถามว่า
“อาเหยี่ยน ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มีปัญหาอะไรหรือไม่”
“ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ทำจากผ้าต่วนหิมะ ผ้าต่วนหิมะมาจากพระราชวัง เป็นของบรรณาการในวัง มีจำนวนน้อยมาก แม้แต่ลูกสาวขุนนางยังไม่มีผ้านี้ใช้ มีเพียงคนในวังเท่านั้นที่จะมีผ้าต่วนหิมะ ดังนั้นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของในวัง
ข้างบนปักลายดอกเหมยแดง วิธีการปักเป็นการปักแบบกู้ซิ่ว ในวังนิยมใช้การปักแบบซูซิ่ว คนที่ชอบวิธีการปักเช่นนี้คงไม่ค่อยเยอะ ดูจากผ้าเช็ดหน้านี้แล้วสามารถยืนยันได้ว่าเจียงสือมีการติดต่อกับคนในวัง”
“ถ้าเช่นนั้นไทเฮาก็น่าสงสัยที่สุด”
หลิงอวี้จื้อพูดข้อสงสัยในใจออกมา
ดูโดยผิวเผิน มู่หรงกวานเย่ว์น่าสงสัยที่สุดจริงๆ แต่เซียวเหยี่ยนมีความคิดอื่น เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงไม่ได้พูดออกไป รอให้เขาสืบให้รู้ชัดก่อนแล้วค่อยบอกหลิงอวี้จื้อก็ไม่สาย
“เรื่องนี้ข้าจะไปสืบเอง”
“ข้าอยากสืบก็คงไม่มีปัญญา มีใจแต่ไร้กำลังโดยสิ้นเชิง อาเหยี่ยน ท่านต้องระวังไทเฮานะ ตอนนี้พวกเรากับไทเฮาแตกคอกันถึงที่สุดแล้ว ข้ากลัวว่านางจะทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับท่าน”
เซียวเหยี่ยนโอบไหล่หลิงอวี้จื้อ
“ตอนนี้นางไม่กล้าทำอะไรข้า หากไม่มีข้า บัลลังก์ของฮ่องเต้ก็จะสั่นคลอน ถึงแม้จะแตกคอกัน ก็ยังคงต้องพึ่งพาอาศัยกัน”
เฉินมั่วฉือเป็นฮ่องเต้ที่เซียวเหยี่ยนอุ้มชูขึ้นมา พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันจริงๆ ถึงแม้วันหนึ่งจะต้องแตกคอกัน แต่ก็ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน เฉินมั่วฉือยังไม่มีแรงพอจะยืนหยัดเพียงลำพัง พูดจากมุมมองอีกด้านหนึ่ง เขายังต้องพึ่งพาบารมีของเซียวเหยี่ยน ด้วยเหตุนี้โดยผิวเผินแล้ว พวกเขายังสามัคคีกันอยู่
ตอนนี้เซียวเหยี่ยนมีทุกอย่างได้ก็เพราะฮ่องเต้คือเฉินมั่วฉือ หากฮ่องเต้เปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็ไม่มีทางให้เซียวเหยี่ยนได้เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นี่เป็นความสัมพันธ์แบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
อีกสองสามปี แคว้นเว่ยตะวันตกจะต้องเผชิญการล้างไพ่ครั้งใหญ่ ถึงตอนนั้นใครจะได้เป็นประมุขแคว้นเว่ยตะวันตกก็ฟันธงไม่ได้ สำหรับเรื่องนี้ เธอแอบกังวลใจมาตลอด แต่เธอก็รู้ว่าหนีไม่พ้นเรื่องทั้งหมดนี้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็เอนตัวพิงไหล่เซียวเหยี่ยน
“อย่างไรทั้งชีวิตนี้ข้าก็ต้องพึ่งพาท่านแน่แล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะอยู่กับท่าน อาเหยี่ยน ข้าอาจจะไม่ได้มีประโยชน์มาก และช่วยอะไรท่านไม่ได้ แต่ข้าจะพยายามไม่ให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงนะเพคะ”
เซียวเหยี่ยนลูบผมหลิงอวี้จื้อ น้ำเสียงอ่อนโยน
“เจ้าไม่ได้เป็นตัวถ่วงของข้า มีเจ้าอยู่ข้างๆ ข้าอิ่มใจมาก”
หนทางภายหน้ามีชะตาไม่ราบเรียบ ตั้งแต่เขาได้เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เขาก็เดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม
อนาคตต้องทำอย่างไร เขาก็มีแผนการของตนเองมาตลอด ตอนนี้มีหลิงอวี้จื้อเพิ่มมาอีกคน แผนบางแผนต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไข ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องปกป้องหลิงอวี้จื้อให้ดี
ความอ่อนแอไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร มันทำให้ตนเองกังวลมากขึ้น และกลายเป็นพันธนาการด้วย แต่ก็ทำให้หัวใจทั้งดวงอบอุ่น ทำให้เขารู้สึกว่านอกจากตนเองจะเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว เขายังเป็นผู้ชายคนหนึ่งอีกด้วย
ตอนที่ 409 หัวหน้าผู้ร้ายคือข้า
“ท่านอิ่มใจง่ายเสียจริง”
หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งคู่เป็นประกายขณะมองเซียวเหยี่ยน แววตาของเธอใสแจ๋ว ราวกับธารน้ำผุด ดึงดูดให้ใจเซียวเหยี่ยนหวั่นไหวเล็กน้อย
หลิงอวี้จื้อลุกขึ้น
“อาเหยี่ยน ท่านพักสักครู่เถิด แผลท่านยังไม่หายดี ไม่ควรยืนนาน เรื่องพวกนี้ให้ข้าจัดการเอง ตอนนี้ข้าควรทำอะไรสักหน่อยแล้ว เรื่องการดูแลหลังจากนี้ให้ข้าทำเถิด”
พูดจบหลิงอวี้จื้อก็ประคองเซียวเหยี่ยนไปนอนบนเตียง ห่มผ้าให้เขา แล้ววิ่งออกไป
แผลของเซียวเหยี่ยนเจ็บแปลบเป็นระยะ เฟิงอิ๋นตายแล้ว ทหารยามที่พามาด้วยก็ถูกสังหารหมดแล้ว
หากเดาไม่ผิด เจียงสือคงหนีไปแล้ว ทั้งสำนักอู๋จี๋กลายเป็นเมืองร้าง ตอนนี้เจียงสือคงไม่ส่งใครมาอีกแล้ว ให้นางไปดูข้างนอกสักหน่อยก็ดี
หลิงอวี้จื้อออกจากห้องก็ไปหาอู่จิ้น เห็นหลิงอวี้จื้อมาหา อู่จิ้นก็เข้าไปรายงาน
“คุณหนู นับเรียบร้อยหมดแล้ว คนที่ยังอยู่มีทั้งหมดหนึ่งพันคน ในหนึ่งพันคนนี้คนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยมีเพียงสองร้อยกว่าคน ส่วนคนอื่นที่เหลือได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ควรจัดการอย่างไรดีขอรับ”
ปัญหานี้รับมือยากจริงๆ ก็เท่ากับว่ามีคนบาดเจ็บแปดร้อยคน จะให้คนแปดร้อยคนอยู่รวมกันที่เดียวก็ไม่ง่าย ในแปดร้อยคนนี้อย่างน้อยก็มีครึ่งหนึ่งโดนนักรบไร้ชีพทำร้ายมา คิดถึงผลลัพธ์ของพวกเขา หลิงอวี้จื้อก็ยังทำใจไม่ได้
แต่เรื่องเหล่านี้เธอต้องเรียนรู้ที่จะทำ ต่อไปเธอจะกลายเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อาจจะต้องพบเจอเรื่องทำนองนี้อีกไม่น้อย หากใช้ความรู้สึกขนาดนั้น ก็อาจจะเป็นตัวถ่วงของเซียวเหยี่ยน เธอจะต้องทำให้ตัวเองกลายเป็นเป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็แอบตัดสินใจ เธอจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดี
“จัดการเรื่องศพก่อน ชาวบ้านคนอื่นต้องรอดูพรุ่งนี้ว่าติดเชื้อหรือไม่ วันนี้ไม่ต้องไปรบกวนพวกเขาแล้ว นี่เป็นเวลาสุดท้ายของพวกเขาแล้ว”
“ข้าน้อยรับทราบ”
อู่จิ้นรับปากคำหนึ่งก็ออกไปก่อน หลิงอวี้จื้อนั่งบนบันไดลานบ้านตามลำพัง พรุ่งนี้ก็เป็นวันสิ้นปีแล้ว นี่เป็นวันที่สำคัญที่สุดสำหรับประชาชน กรำงานยุ่งมาทั้งปี ปีใหม่ทั้งทีที่จริงควรจะปรนนิบัติตัวเองให้ดีๆ แต่ตำบลเถาหยวนกลับกลายเป็นนรกบนดินไปในชั่วพริบตา
นึกถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกเศร้าโศกอย่างยิ่ง เธอรู้สึกผิดกับชาวบ้านตำบลเถาหยวน หากเธอไม่มาที่นี่ ก็คงไม่นำโชคร้ายมาให้พวกเขา
“อวี้จื้อ เหตุใดมาอยู่ที่นี่คนเดียว”
เสียงมู่หรงนี่อวิ๋นแว่วมาจากด้านหลัง จากนั้นมู่หรงนี่อวิ๋นก็ลงมานั่งข้างหลิงอวี้จื้อ เห็นหน้าหลิงอวี้จื้อไม่มีรอยยิ้มเลย เขาก็รู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดี
หลิงอวี้จื้อที่ขมวดคิ้วกังวลเช่นนี้ เขาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ปกติหลิงอวี้จื้อจะยิ้มตาหยีตลอด แม้ว่าจะตกอยู่ในอันตราย ก็ยังหยอกล้อคุยเล่นได้ เป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดีอย่างยิ่ง
เขาชอบรอยยิ้มของหลิงอวี้จื้อ ขอเพียงได้เห็นเธอยิ้ม ไม่ว่าในใจจะมีเรื่องกังวลอะไรก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
หลิงอวี้จื้อกอดเข่า ซุกหัวลงไปกลางเข่า น้ำเสียงหงุดหงิด
“พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีแล้ว เดิมเป็นวันที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา นี่อวิ๋น ข้าทำร้ายชาวบ้านที่นี่ หากข้าไม่ได้มาที่นี่ สำนักอู๋จี๋ก็คงไม่ลงไม้ลงมือกับคนตำบลเถาหยวน หัวหน้าผู้ร้ายตัวจริงคือข้า”
“อวี้จื้อ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง ใครก็ไม่อยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นหรอก”
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ตัวต้นเหตุก็คือข้า ตอนนี้มีคนแปดร้อยคนบาดเจ็บ ข้าไม่รู้ว่าในแปดร้อยคนนี้ติดเชื้อไปกี่คน ถึงตอนนั้นต้องกำจัดพวกเขาด้วยน้ำมือของตนเอง พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ข้าก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง พวกเขาทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ ข้าไม่รู้เลยว่าจะมีหน้าไปพบพวกเขาอย่างไร”