ตอนที่ 406 ตอนจบถูกกำหนดไว้แล้ว
เฟิงอิ๋นไม่ได้มองหลิงอวี้จื้อ สายตาตกไปอยู่ที่เซียวเหยี่ยน
“ข้าไม่ได้อยากจะข้องเกี่ยวอะไรกับเจ้าอีก แต่คำสั่งอาจารย์ไม่อาจฝ่าฝืน เซียวเหยี่ยน ระหว่างเจ้ากับข้าถูกกำหนดให้รอดได้หนึ่งคนเท่านั้น”
นางมาวันนี้มีผลลัพธ์เพียงสองอย่าง เป็นนางเองที่เลอะเลือนตั้งแต่แรกเริ่ม นางเป็นคนของสำนักอู๋จี๋ เซียวเหยี่ยนเป็นบุตรชายของซีหนานอ๋อง ชะตาชีวิตของพวกเขาสองคนถูกกำหนดไว้แล้วให้มีจุดจบไม่ดี นอกเสียจากว่าเซียวเหยี่ยนจะลืมอดีตทุกอย่างหมดจด แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้
“ข้าอยากชำระสะสางหนี้กับเจ้าอยู่แล้ว ในเมื่อเจ้ายังกัดไม่ปล่อย เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
เซียวเหยี่ยนสงบนิ่งมาก ไม่มีแววตระหนกตกใจแม้แต่น้อย กระทั่งน้ำเสียงก็ยังเหมือนปกติ ไม่ลนลาน ไม่ร้อนรน
พูดจบแล้วเขาก็พยักหน้าให้อู่จิ้น อู่จิ้นหยิบนกหวีดกระดูกสัตว์ขึ้นมาวางในปาก เสียงหวีดแหลมเสียดทะลุฟ้า ทำให้อีกาดำที่เกาะอยู่บนต้นไม้ตกใจบินหนี ได้ยินเพียงเสียงนกร้อง
หลิงอวี้จื้อเงยหน้ามองเซียวเหยี่ยนด้วยสีหน้ามึนงง หรือว่าเซียวเหยี่ยนยังมีไม้เด็ด
เธอไม่เคยได้ยินเซียวเหยี่ยนบอกเลยว่าแถวนี้ยังมีคนของเขาอีก หรือว่ามีองครักษ์ลับ หากมีองครักษ์ลับจริง ตอนที่นักรบไร้ชีพกับมนุษย์หมาป่าปรากฏตัว พวกเขาก็ควรจะออกมาแล้ว ทำไมต้องรอถึงตอนนี้ละ
มีคำถามเต็มไปหมด หลิงอวี้จื้อมองคนชุดดำสิบกว่าคนที่บินโฉบลงมาจากฟ้า ทุกคนสวมเสื้อผ้าสำหรับปฏิบัติการกลางคืน ปิดหน้าไว้ ทั้งตัวมีรังสีสังหารแผ่ซ่าน
สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยพลิกผันในชั่วพริบตา
เฟิงอิ๋นหน้าเปลี่ยนสี
“เซียวเหยี่ยน นึกไม่ถึงว่าเจ้ายังเหลือไพ่ใบสุดท้าย”
เซียวเหยี่ยนจับมือของหลิงอวี้จื้อ พาหลิงอวี้จื้อถอยไปดูการต่อสู้ข้างๆ กลัวว่าถ้าลงมือลงไม้หลิงอวี้จื้อจะโดนลูกหลง
เฟิงอิ๋นทำสัญญาณมือ บอกให้ทหารยามใต้บังคับบัญชาลงมือได้ สองฝ่ายต่างออกโรง หลิงอวี้จื้อยืดคอมองไปข้างหน้า มองดูแล้วถามว่า
“อาเหยี่ยน คนพวกนี้เป็นใครกัน ท่านซ่อนคนกลุ่มนี้ไว้ตอนไหน”
แววตาของเซียวเหยี่ยนเลิ่กลั่กแวบหนึ่ง พูดอย่างคลุมเครือว่า
“พวกเขาก็เพิ่งมาทันเท่านั้น พวกเราไม่เป็นอะไรแล้ว”
หลิงอวี้จื้อวางใจได้แล้ว ถอนหายใจโล่งอกแรงๆ หนึ่งที
“สุดท้ายท่านอ๋องของเราก็เตรียมกันไว้อย่างรอบคอบเหมือนเดิม มีพวกเขาอยู่ เฟิงอิ๋นแพ้แน่นอน เจียงสือคิดเช่นนี้ตามคาด ส่งคนมาลอบโจมตีจริงๆ”
เซียวเหยี่ยนมองคนชุดดำตรงหน้า ในใจกลับรู้สึกสับสน หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย เขาจะไม่ขอร้องพวกเขาเด็ดขาด เขาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณนี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์วิกฤติ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องปกป้องชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ก่อน ต้องพาหลิงอวี้จื้อกลับเมืองหลวงอย่างปลอดภัย
การต่อสู้ครั้งนี้จบลงอย่างรวดเร็ว เฟิงอิ๋นบาดเจ็บไปทั่วร่าง ทหารยามที่พามาตายก็ตาย เจ็บก็เจ็บ ทุกคนถูกจับหมด นางอุดแผลตรงไหล่ซ้าย สะกดจุดบนนั้น เลือดหยุดไหลชั่วคราว
“เฟิงอิ๋น เจ้าแพ้แล้ว ข้าจะปล่อยให้เจ้าไป ถือว่าข้าชดใช้ให้เจ้า จากนี้เป็นต้นไป ระหว่างเจ้ากับข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก หากคราวหน้าพบกัน ข้าจะไม่ยั้งมือเด็ดขาด”
เซียวเหยี่ยนไม่ได้คิดจะฆ่าเฟิงอิ๋น แต่คิดจะปล่อยนาง ถึงแม้เซียวเหยี่ยนมีเจตนาจะฆ่าเฟิงอิ๋น แต่เฟิงอิ๋นก็เป็นคนหาสมุนไพรเซียนหลินจือมา เขาไม่ชอบการเป็นหนี้บุญคุณคนที่สุด จึงถือโอกาสนี้ชดใช้บุญคุณ
เฟิงอิ๋นกำกระบี่ยาวในมือแน่น ปลายกระบี่มีเลือดแดงสดไหลหยดไม่หยุด นางหัวเราะขึ้นเสียงดัง
“เซียวเหยี่ยน ข้าไม่ต้องการให้เจ้าชดใช้บุญคุณอะไร ทำภารกิจไม่สำเร็จ ข้าก็ไม่มีหน้ากลับไปพบอาจารย์อีก ข้าแพ้แล้ว จุดจบก็ถูกกำหนดไว้แล้ว”
พูดจบก็ยกกระบี่ขึ้นแทงเข้าไปที่อกอย่างแรง
จากนั้นเฟิงอิ๋นก็ชักดาบออก เลือดสดสาดกระเซ็น นางทิ้งดาบในมือ ไม่มีแรงรองรับร่างกายของตนเอง ถอยหลังไปสองสามก้าวถึงล้มลงกับพื้น
ตอนที่ 407 ข้าไม่ดีตรงไหนกันแน่
หลิงอวี้จื้อตะลึงงัน เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าเฟิงอิ๋นจะจบชีวิตตนเอง จุดจบเช่นนี้เหนือความคาดหมายของเธอไปโดยสิ้นเชิง เมื่อก่อนเธอเกลียดแค้นเฟิงอิ๋นมาก แทบอยากจะฉีกกระชากเฟิงอิ๋นให้เละ
ตอนนี้คลุกคลีกับคนทุกระดับในสำนักอู๋จี๋มาแล้ว กลับรู้สึกว่าเฟิงอิ๋นและชุนเหนียงต่างก็ไม่ใช่คนชั่วช้าจนไม่สามารถให้อภัยได้ พวกนางต่างคนก็ต่างต้องทนทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะชุนเหนียง กลายเป็นว่ามู่หรงกวานเสวี่ยร้ายโดยแท้จริง
เฟิงอิ๋นหมอบกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่นานที่พื้นก็มีรอยเลือดสีแดงสดเป็นแอ่ง เพราะเสียเลือดเกินไป ร่างกายจึงสั่นกระตุกเบาๆ
ในเมื่อเคยเป็นเพื่อนร่วมสำนักกันมาก่อน มั่วชิงเห็นเฟิงอิ๋นฆ่าตัวตาย ก็รู้สึกสะเทือนใจอยู่บ้าง วิ่งไปตรงหน้าเฟิงอิ๋นโดยไม่รู้ตัว
“ท่านอ๋องรับปากจะปล่อยเจ้าไปแล้ว ข้ารู้ว่ากลับไปอาจารย์จะต้องจัดการเจ้าแน่ เจ้าควรถือโอกาสนี้หนีสำนักอู๋จี๋ไป เฟิงอิ๋น เหตุใดต้องหาเรื่องตายด้วย”
“อาจารย์ไม่เชื่อข้าอีกแล้ว กลับไปก็ตายเช่นกัน
มั่วชิง เพื่อจะออกไปจากสำนักอู๋จี๋เจ้าต้องยอมแลกไปมากมายเพียงใด ในใจเจ้ารู้ดี ข้าไม่โชคดีเช่นนั้น และไม่อยากได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนั้น
เห็นแก่ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมสำนัก ข้าตายแล้ว เจ้าช่วยจัดการศพข้าให้สิ้นซากด้วย อย่าให้ตกไปอยู่ในมืออาจารย์ได้”
“ได้ ข้ารับปากเจ้า”
มั่วชิงรับปาก ในใจยังคงเศร้า
เห็นมั่วชิงรับปาก เฟิงอิ๋นก็ดูเหมือนจะหายห่วงแล้ว ที่อกเลือดไหลไม่หยุด พูดจาก็ลำบากขึ้นทุกที นางพยายามเงยหน้าขึ้น มองไปทางเซียวเหยี่ยน
“เซียวเหยี่ยน ข้ากับเจ้ารู้จักกันมานานแล้ว ที่เจ้าไม่ชอบข้าไม่ใช่เพราะใจเจ้ามีคนที่หมายปองอยู่แล้ว เจ้าบอกข้าที ทั้งหมดนี้…เป็นเพราะอะไร ข้าไม่ดีตรงไหนกันแน่”
“เจ้าไม่ใช่คนที่ทำให้ใจข้าหวั่นไหว”
“แล้วนางล่ะ”
เฟิงอิ๋นชี้ไปทางหลิงอวี้จื้ออย่างยากลำบาก น้ำเสียงไม่ยินยอม
“เจ้าเจอผู้หญิงมาตั้งมากมาย แต่กลับหวั่นไหวเพราะนางหรือ เซียวเหยี่ยน นางเป็นลูกสาวเจ้าได้เลยนะ”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกหมดคำพูด เซียวเหยี่ยนแก่กว่าเธอแค่สิบเอ็ดปีเอง สิบเอ็ดปีจะเป็นพ่อได้อย่างไร มีผู้ชายที่มีลูกเร็วขนาดนั้นเสียที่ไหน แต่หน้าเธอก็ดูเหมือนเด็กน้อยเกินไป ส่วนเซียวเหยี่ยนก็เป็นผู้ชายประเภทเป็นผู้ใหญ่นิ่งสุขุมอีก แทบจะเป็นแบบฉบับของคุณลุงกับสาวโลลิได้เลย
ใจของเฟิงอิ๋นคงจะหวั่นไหวเพราะเซียวเหยี่ยนจริงๆ มิเช่นนั้นป่านนี้แล้วคงไม่มัวมาถามคำถามนี้อีก เธอรู้สึกเห็นใจเฟิงอิ๋นอยู่บ้าง แต่ไม่มีทางเห็นใจจนปล่อยคนข้างกายไปเด็ดขาด เธอไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น ไม่มีเงินก็ยืมกันได้ แต่กับคนจะปล่อยให้ไปไม่ได้
“เฟิงอิ๋น ข้าเคยบอกตั้งนานแล้ว ข้าจะชอบใคร เจ้าไม่ต้องมายุ่ง และไม่จำเป็นต้องอธิบายเจ้าด้วย”
ถึงแม้เฟิงอิ๋นใกล้จะตายแล้ว น้ำเสียงที่เซียวเหยี่ยนใช้พูดกับเฟิงอิ๋นก็ยังไม่เปลี่ยนผัน ยังเย็นชามากอย่างเห็นได้ชัด
เฟิงอิ๋นพักสักครู่ เสียงยิ่งเบาลงทุกที
“เจ้าช่างใจจืดใจดำกับข้านัก เดิมทีข้าไม่ควรพูดเรื่องนี้กับเจ้า ข้าคงจะบ้าไปแล้ว ที่ยังอยากบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้อยู่ดี…”
พูดจบก็ใช้มือที่สั่นเทาหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งจากอกเสื้อ
“เป็นนาง เจ้า…เจ้าไปตรวจดูเอง ข้าช่วยเจ้าได้…ได้…มากเท่านี้แหละ วันนี้ข้าไม่อยาก…มีชีวิตกลับไปแล้ว เซียวเหยี่ยน พบกันใหม่ชาติหน้า…”
สุดท้ายเฟิงอิ๋นหลับตาลง มั่วชิงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือเฟิงอิ๋นยื่นไปตรงหน้าเซียวเหยี่ยน ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดเฟิงอิ๋น บนนั้นปักดอกเหมยแดงสองสามดอกอย่างสวยงามประณีต ฝีมือการปักดีมาก
เฟิงอิ๋นหมายความว่าผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของหัวหน้าใหญ่ที่ติดต่อกับเจียงสืออยู่เบื้องหลัง นั่นไม่ได้หมายถึงมู่หรงกวานเย่ว์หรอกหรือ
ตอนนี้ผู้หญิงที่มีอำนาจที่สุดในแคว้นเว่ยตะวันตกก็คือมู่หรงกวานเย่ว์ นอกจากนาง ก็ไม่มีใครต้องติดต่อกับสำนักอู๋จี๋แล้ว แถมยังมีมู่หรงกวานเสวี่ยอีกคน