ตอนที่ 404 ข้าไม่มีพี่มีน้อง
อวิ๋นซั่วมีน้ำเสียงโศกเศร้า จากนั้นพูดต่อ
“ข้าดูแลพ่อในชนบท แล้วกลับสำนักวิชาต่อ ที่หอพักมีเพื่อนร่วมห้องใหม่เข้ามาหนึ่งคน เขาชื่อหลิงจื่อหรง”
หลิงอวี้จื้อตกใจ เรื่องราวบนโลกนี้บังเอิญเสียจนบังเอิญไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เธอส่งหลิงจื่อหรงไปสำนักวิชาหงเต๋อด้วยมือของตนเอง นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเพื่อนร่วมห้องพักกับอวิ๋นซั่วไปได้
จากความหมายของอวิ๋นซั่ว หลิงจื่อหรงพูดว่าเธอเสียๆ หายๆ ไม่น้อย พี่สาวก็เป็นเช่นนั้นแล้ว นึกว่าน้องชายจะไม่ได้รับอิทธิพล คิดไม่ถึงว่าจะสืบทอดกันมาแบบเดียวกันเป๊ะ
“หลิงจื่อหรงพูดอะไรกับเจ้า”
“เขาบอกว่าพี่สะใภ้อาศัยเส้นสายท่านอ๋อง ทำเรื่องชั่วต่างๆ นานาในจวนท่านมหาเสนาบดี เป็นคนน่ากลัวและเลวทรามมาก
เวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนทำร้ายย่าถึงตาย บังคับให้น้องสาวตนเองต้องตาย ทำร้ายอี๋เหนียงคนหนึ่ง ซ้ำยังไม่ค่อยเคารพแม่เลี้ยง และบอกอีกว่าพี่สาวข้าก็ตายด้วยน้ำมือของพี่สะใภ้
ข้าได้รับการปลุกปั่นจากหลิงจื่อหรง เชื่อคำพูดเหล่านี้ ภายหลังคนของอู๋อ๋องหาข้าพบ บอกว่ากลุ่มโจรที่บุกจวนตระกูลอวิ๋นเป็นคนที่พี่ใหญ่ส่งมา ข้าสับสนไประยะหนึ่ง ถึงได้…”
เป็นหลิงจื่อหรงจริงๆ ไอ้เด็กงูเห่าอกตัญญู อายุยังน้อยก็เจ้าเล่ห์ขนาดนี้ รู้จักบิดเบือนข้อเท็จจริงเสียแล้ว ต่อไปโตขึ้นคงน่ากลัว
หลิงอวี้จื้อด่าหลิงจื่อหรงอยู่ในใจ ในเมื่อให้ไปเรียนไม่เรียนให้ดี เช่นนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องส่งเขาไปเรียนที่สำนักวิชาดีๆ อีก รอกลับไปแล้ว เธอต้องพูดกับหลิงจ้ายเทียนสักหน่อย ไม่เลี้ยงงูเห่าไว้อีกเด็ดขาด
“อวิ๋นซั่ว เจ้าไม่มีสมองหรืออย่างไร คนอื่นพูดอย่างไรเจ้าก็เชื่ออย่างนั้น ที่เจ้าเชื่อคำพูดหลิงจื่อหรง ข้าไม่มีอะไรจะพูด ใครใช้ให้เด็กเลวนั่นมาเป็นน้องชายข้าล่ะ เจ้าอยู่กับเขาทุกวัน จะเชื่อก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่แม้แต่คำพูดของอู๋อ๋องเจ้าก็เชื่อ หากเป็นคนที่อาเหยี่ยนส่งไปจริงๆ พ่อเจ้าจะยังให้เจ้าเอาปิ่นระย้านี้มาให้ท่านอ๋องหรือ พ่อเจ้าไม่ใช่คนโง่สักหน่อย
อาเหยี่ยนตามหาแม่มาหลายปี วันที่จากมา เขาก็ปล่อยพ่อเจ้าไปแล้ว แล้วยังมาทำร้ายพ่อเจ้าอีกเพื่ออะไร
เขาเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะกำจัดตระกูลอวิ๋นช่างง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ ไม่จำเป็นต้องรอด้วยซ้ำ เขาปล่อยวางในช่วงเวลาที่โกรธที่สุดแล้ว ไม่มีทางที่จะลงมือทำอะไรอีกในภายหลัง เจ้านี่สมองหมูจริงๆ”
หลิงอวี้จื้อนึกถึงชาวบ้านตำบลเถาหยวน ก็อดด่าไม่ได้ คนตายตั้งมากมายเช่นนี้ ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นซั่วสำนึกผิดแล้ว ก้มหน้าลงต่ำมาก เหมือนกับเด็กน้อยกระทำความผิด ครั้งนี้เขาผิดไปแล้วจริงๆ เขาคิดเรื่องต่างๆ ง่ายเกินไป
หลายวันมานี้เขาคอยดูพฤติกรรมทั้งหมดของหลิงอวี้จื้อ ถึงได้พบว่าเธอต่างจากที่หลิงจื่อหรงพูดโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่คนประเภทนั้นด้วยซ้ำ มิเช่นนั้นเธอคงไม่สนใจชาวบ้านตำบลเถาหยวน
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ขอโทษขอรับ ข้าสำนึกผิดแล้ว”
อวิ๋นซั่วคุกเข่ากับพื้นโขกหัวลงอย่างแรง
เซียวเหยี่ยนถีบอวิ๋นซั่วหนึ่งครั้ง อวิ๋นซั่วรับเท้าไปเต็มๆ ล้มลงกับพื้นทันที มุมปากมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา เซียวเหยี่ยนมองกวาดไปที่อวิ๋นซั่วอย่างเย็นชาหนึ่งครั้ง
“คนที่เจ้าต้องขอโทษไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นชาวบ้านตำบลเถาหยวน ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ต่อไปอย่าได้ปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก อวิ๋นซั่ว ข้ายังยืนยันประโยคเดิม ข้าไม่มีพี่มีน้อง”
หลิงอวี้จื้อไม่ส่งเสียงใด สำหรับสิ่งที่อวิ๋นซั่วทำไป เธอก็โมโหมาก
ถึงแม้จะเป็นประโยคเดียว แต่ก็ทำลายตำบลเถาหยวนทั้งตำบล เธอรู้ว่าเซียวเหยี่ยนฆ่าอวิ๋นซั่วไม่ได้ ในเมื่อเขาก็เป็นลูกชายของซูเสียน เห็นแก่หน้าของซูเสียน เขาจะไม่ทำอะไร แต่เขาก็ยอมรับน้องชายคนนี้ไม่ได้เช่นกัน
แม้จะไม่มีเรื่องนี้ ปมในใจของเซียวเหยี่ยนก็ไม่สามารถคลี่คลายได้ง่ายดายขนาดนั้น ตระกูลอวิ๋นเป็นเหมือนหนามยอกอกสำหรับเขาเสมอมา
อวิ๋นซั่วลุกขึ้นเงียบๆ
“พี่ชาย พี่สะใภ้ รักษาตัวด้วย ข้าจะต้องชดใช้ความผิดพลาดของตนเองให้ได้”
ตอนที่ 405 คนที่ท่านไม่ชอบเป็นคนน่าเหนื่อยหน่ายจริงๆ
พูดจบอวิ๋นซั่วก็ไป หลิงอวี้จื้อไม่ได้รั้งอวิ๋นซั่วไว้ คนที่พบช่วงนี้ทำไมถึงมีแต่คนเจตนาไม่ดี
พี่น้องตระกูลอวิ๋นนี่สมองใช้ไม่ได้เลย พี่สาวชอบก่อเรื่องไม่มีเหตุผล น้องชายคิดอะไรง่ายๆ ตื้นๆ แต่ถือว่าอวิ๋นซั่วยังมีจิตใจดี ไม่ได้ทำเรื่องอะไรเกินเลย หากเป็นคนที่เจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัด ก็ยังไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรอีก
“อวี้จื้อ ต่อไปอยู่ห่างๆ อวิ๋นซั่วไว้”
หลิงอวี้จื้อนั่งข้างเซียวเหยี่ยน แววตาเปล่งประกาย
“ตอนแรกข้าคิดจะพูดเรื่องดีๆ ของอวิ๋นซั่วให้ท่านฟัง ตอนนี้ข้าถึงเข้าใจ คนที่ท่านไม่ชอบ สุดท้ายเป็นคนที่น่าเหนื่อยหน่ายจริงๆ”
“ข้าชอบฟังเจ้าพูดเช่นนี้”
“ท่านก็ต้องเรียนรู้จากข้าให้ดีๆ”
หลิงอวี้จื้อพูดพลางรินน้ำให้เซียวเหยี่ยนหนึ่งจอก
“มา อาเหยี่ยน ดื่มน้ำสักหน่อย”
เซียวเหยี่ยนรับน้ำจากมือหลิงอวี้จื้อ เพิ่งดื่มไปหนึ่งอึก มั่วชิงก็รีบร้อนเข้ามา เพราะรีบวิ่งเกินไป จึงหายใจเข้าออกอย่างเร็ว
“ท่านอ๋อง คุณหนู เฟิงอิ๋นพาคนมาล้อมเรือนไว้แล้วเพคะ”
หลิงอวี้จื้อตกใจทันที เจอนักรบไร้ชีพกับมนุษย์หมาป่าแล้ว ตอนนี้พวกเขาสูญเสียอย่างหนัก คนตายก็ตาย คนเจ็บก็เจ็บ ตำบลเถาหยวนทั้งตำบลโกลาหลไปตามๆ กัน คนไม่น้อยยังคงค้นหามนุษย์หมาป่ากับนักรบไร้ชีพอยู่เลย
ทหารยามข้างนอกเรือนมีเหลืออยู่เพียงสิบกว่าคน เฟิงอิ๋นพาคนมาตอนนี้ พวกเขาไม่มีแรงต้านทานเลย
หลิงอวี้จื้อมองเซียวเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆ เห็นเซียวเหยี่ยนเม้มปาก จึงเอื้อมมือไปจับมือเซียวเหยี่ยนโดยอัตโนมัติ
ไม่มีทางแล้ว ตอนนี้ได้แต่รับมือไปตามสถานการณ์ก่อน ในเมื่อต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะอยู่ข้างกายเซียวเหยี่ยน ไม่หนีไปไหน
อื้ม เริ่มฮึกเหิมแล้ว
“อวี้จื้อ เจ้าไปหานี่อวิ๋น ข้าจะออกไปดูกับพวกเขา”
เซียวเหยี่ยนเป็นห่วงหลิงอวี้จื้อ ได้ยินว่าเฟิงอิ๋นมาแล้ว ก่อนอื่นต้องจัดการเรื่องหลิงอวี้จื้อก่อน กลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะได้รับอันตราย ตอนนี้ หลิงอวี้จื้อไปไม่ได้แล้วแน่นอน เธอเอื้อมมือคว้าแขนเสื้อเซียวเหยี่ยนไว้
“อาเหยี่ยน ไล่ข้าไปตอนนี้ข้าไม่ไว้ใจ ข้าไม่อยากให้ท่านไปเจอเฟิงอิ๋นโดยลำพัง ข้าอยากไปกับท่าน”
“อวี้จื้อ…”
เซียวเหยี่ยนทำหน้าเหลืออด เขาเข้าใจเจตนาของหลิงอวี้จื้อ รู้ว่าหลิงอวี้จื้อเป็นห่วงเขา อยากจะพูดต่อ แต่หลิงอวี้จื้อปิดปากเขาเสียก่อน
“ถึงแม้กระบี่จะแทงไม่เลือกหน้า แต่ข้าเชื่อในโชคของข้า เฟิงอิ๋นเป็นศัตรูหัวใจของข้า ศัตรูหัวใจมาแล้ว ข้าไม่มีเหตุผลที่จะซ่อน”
เสียงของหลิงอวี้จื้อเพิ่งเงียบไป ประตูใหญ่ก็ถูกคนถีบเปิดออก เฟิงอิ๋นพาคนบุกเข้ามา อู่จิ้นพาทหารยามในบ้านออกไปล้อมไว้ บังอยู่ข้างหน้าเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อ มองเฟิงอิ๋นด้วยสายตาของเสือเตรียมตะครุบเหยื่อ
เฟิงอิ๋นพาคนมาสิบกว่าคน ทั้งหมดเป็นยอดฝีมือสำนักอู๋จี๋ สวมชุดสีดำ เรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ยืนอยู่ข้างหลังเฟิงอิ๋นอย่างเงียบเชียบ เหมือนกลุ่มวิญญาณที่จู่ๆ ก็โผล่มา
หลิงอวี้จื้อแอบร้องในใจว่าไม่ดีแล้ว จากสภาพกำลังคนสามารถรู้สึกได้ถึงช่างว่างระหว่างทั้งสองฝ่าย คนทางด้านนี้ต่อสู้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว เหนื่อยล้าอ่อนแรงนานแล้ว คนจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนคนที่เฟิงอิ๋นพามานั้นเต็มไปด้วยพลัง
เฟิงอิ๋นสวมเสื้อเจี๋ยอ่าวสีแดงเพลิงทั้งตัว ผมดำยาวเกล้าเป็นมวยครอบด้วยรัดเกล้า ในมือถือกระบี่ยาว ยืนอยู่ท่ามกลางทหารยาม มองเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อด้วยสายตาเยือกเย็น
“เฟิงอิ๋น ข้านึกว่าชาตินี้พวกเราจะไม่ได้พบหน้ากันอีก นึกไม่ถึงว่าจะได้พบกันเร็วเช่นนี้ เจ้าคิดถึงข้าขนาดนี้เชียวหรือ เจ้าจะทำอะไร จะมาเยือนพวกเราก็ไม่ต้องเกรงใจหรอก แถมพาคนมามายเช่นนี้อีก พวกเราไม่ต้องลงไม้ลงมือกันก็ได้”
หลิงอวี้จื้อพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย มุมปากยังแฝงรอยยิ้ม มองเฟิงอิ๋นเช่นนี้ ด้วยท่าทางไม่สนใจโลกว่าเกิดอะไรขึ้น