ตอนที่ 402 ไม่ใช่มู่หรงกวานเสวี่ยตัวจริง
แววตาเซียวเหยี่ยนเข้มข้นด้วยรังสีสังหาร เขาคิดถึงประเด็นนี้ตั้งนานแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมาก เขาแค่รอเจียงสืออยู่ที่นี่ ท้ายที่สุดนางจะมาเอง
“เรื่องนี้ข้าวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว อวี้จื้อ ไม่ต้องกลัว”
“มีท่านอยู่ ข้าก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น อาเหยี่ยน พวกเราจะต้องสบายดี ข้าจะไม่มีท่านอีกไม่ได้”
ออกจากเมืองหลวงมาคราวนี้ถือว่าเป็นครั้งที่อันตรายที่สุดตั้งแต่เธอรู้จักเซียวเหยี่ยนมา ทุกย่างก้าวล้วนระทึกใจ อันตรายรอบด้าน
มิน่าคนถึงบอกว่าจะเห็นมิตรแท้ในยามยาก หากไม่มีเรื่องเหล่านี้ เธอก็จะไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเซียวเหยี่ยนสำคัญกับเธอมากแค่ไหน สำคัญกว่าชีวิตเธอแล้วด้วยซ้ำ
ตอนนี้พวกเธอกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้าย ปกติควรจะกลัวมาก แต่เพราะมีเขาอยู่ข้างกาย ก็รู้สึกใจสงบมากอย่างบอกไม่ถูก นี่คงเป็นความรู้สึกปลอดภัยสินะ!
ถึงแม้จะตายที่นี่ไปพร้อมเซียวเหยี่ยน เธอก็ไม่กลัว แน่นอน เธอเชื่อว่าพวกเธอจะต้องรอดจากภัยอันตรายครั้งนี้ไปได้ สิ่งที่ต้องการคือความเชื่อแบบนี้แหละ
เซียวเหยี่ยนจับมือหลิงอวี้จื้อแน่น ครั้งนี้อันตรายเหลือเกิน ดังนั้นจึงไม่ได้พาหลิงอวี้จื้อมาด้วย และไม่ได้บอกเธอว่าตนเองไปไหน
นึกไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อจะตามมาหา ซ้ำยังเข้าไปในสำนักอู๋จี๋ ชั่วขณะที่เห็นเธอ เขาตกใจอย่างมาก แต่ฝืนควบคุมตนเองเอาไว้อย่างหนัก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องปกป้องหลิงอวี้จื้อให้ดี จะต้องพาเธอกลับเมืองหลวงไปโดยสวัสดิภาพ เขายังไม่ได้รับเธอเข้าจวนอย่างเป็นทางการเลย
ณ สำนักอู๋จี๋
เจียงสือสั่งการให้เก็บกวาดข้าวของ สาวใช้สำนักอู๋จี๋งานยุ่งกันไปหมด
มู่หรงกวานเสวี่ยเอนตัวบนเตียง ให้สาวใช้รับผิดชอบเก็บข้าวของ เฟิงอิ๋นยืนอยู่ข้างเตียง ก้มลงมองนางจากมุมสูง ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร
สุดท้าย มู่หรงกวานเสวี่ยก็หาว
“ศิษย์พี่ พวกเราใกล้จะออกจากสำนักอู๋จี๋แล้ว เจ้าไม่ไปเก็บของหรือ มาหาข้าที่ห้องด้วยเหตุใด”
“เจ้าไม่กลัวน้องชายเจ้าตายที่ตำบลเถาหยวนหรือ”
“ตายก็สมควรแล้ว ข้าเคยช่วยเขามาแล้วครั้งหนึ่ง เขาอยากตายเอง ใครจะห้ามอยู่ ศิษย์พี่ เจ้ารู้จักเป็นห่วงน้องข้าแล้วหรือ หรือว่าเจ้าก็ชอบเขาเหมือนกัน”
ใบหน้างดงามของมู่หรงกวานเสวี่ยไม่มีสีเลือด นางบาดเจ็บหนักมาก เพียงแต่ดีกว่าเซียวเหยี่ยนอยู่สักหน่อย
เฟิงอิ๋นทำหน้าตึงเครียด
“ถึงแม้มู่หรงนี่อวิ๋นจะไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของเจ้า แต่ก็รู้จักกันมาหลายปี เรียกเจ้าว่าพี่สาวมาตั้งหลายปี ความสัมพันธ์ที่เจ้ามีกับน้องชายคนนี้ช่างห่างเหิน แต่กับมู่หรงกวานเย่ว์กลับใกล้ชิดสนิทกันมาก
เจ้าอย่าลืมเสีย มู่หรงนี่อวิ๋นเป็นน้องชายแท้ๆ ของมู่หรงกวานเย่ว์ เจ้าปกป้องพี่สาวขนาดนี้ แต่ไม่สนใจความเป็นความตายของน้องชายหัวแก้วหัวแหวนของนางเลย เจ้าไม่กลัวว่าพี่สาวของเจ้าจะเสียใจหรือ”
สีหน้าของมู่หรงกวานเสวี่ยเปลี่ยนทันที นางไม่รู้ว่าเฟิงอิ๋นพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร พูดหักล้างทันที
“ตัวตนของมู่หรงกวานเสวี่ยเป็นสิ่งที่อาจารย์ให้ข้ามา ตอนนี้มู่หรงกวานเย่ว์เป็นไทเฮา ข้าจะเอาใจนางมากหน่อยผิดตรงไหน ข้าเป็นใคร ข้าแจ่มแจ้งรู้ชัดอยู่แก่ใจ ไม่เหมือนเจ้า เพื่อผู้ชายคนเดียวขนาดตัวเองเป็นใครก็ลืมไปหมด ข้าอายแทนเจ้าเสียจริง”
“หลายปีมานี้เจ้าช่วยมู่หรงกวานเย่ว์ไปกี่เรื่องแล้วไม่ต้องให้ข้าขุด เหตุใดข้าจะดูไม่ออกว่าเจ้ากำลังเอาชนะใจนาง แต่กลายเป็นว่านางชนะใจเจ้า เจ้าอยากฆ่าเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อเช่นนี้ กล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้แก้แค้นให้มู่หรงกวานเย่ว์
อย่างน้อยข้าก็จำได้ว่าข้าคือเฟิงอิ๋น แต่เจ้าจำชื่อตนเองไม่ได้แล้ว คิดว่าตนเองเป็นมู่หรงกวานเสวี่ย แล้วยอมรับมู่หรงกวานเย่ว์เป็นพี่สาวตนเอง”
“เจ้าพูดเหลวไหล”
มู่หรงกวานเสวี่ยโมโหแล้ว เรื่องเหล่านี้จะให้เจียงสือได้ยินไม่ได้ มิเช่นนั้นนางจบสิ้นแน่
“เฟิงอิ๋น เจ้าไม่ต้องมายั่วข้า ข้ารู้ว่าเจ้าอยากช่วยเซียวเหยี่ยน ข้าไม่หลงกลเจ้าเด็ดขาด ข้าจะบอกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ความเป็นความตายของมู่หรงนี่อวิ๋นไม่เกี่ยวข้องกับข้า ข้าไม่ใช่มู่หรงกวานเสวี่ยตัวจริงด้วยซ้ำ”
ตอนที่ 403 อวิ๋นซั่วยอมรับผิด
“หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลัง”
พูดประโยคนี้ทิ้งไว้แล้ว เฟิงอิ๋นก็ออกไป
มู่หรงกวานเสวี่ยทุบกำปั้นลงบนเตียง ไม่ระวังสะเทือนไปถึงแผล นางขมวดคิ้ว นางมองมู่หรงกวานเย่ว์เป็นพี่สาวแท้ๆ ไปแล้วจริงๆ เฟิงอิ๋นยังมองออก แล้วเจียงสือจะดูออกด้วยหรือไม่ นางแอบเป็นกังวล
เฟิงอิ๋นกำลังจะกลับห้องตนเอง แม่นมกุ้ยก็เข้ามาห้ามนางทันที พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ ว่า
“เฟิงอิ๋น เจ้าสำนักมีคำสั่ง ให้เจ้าพาคนออกไปเอาหัวเซียวเหยี่ยนมา ณ บัดนี้”
“รับทราบ”
เฟิงอิ๋นรับปากด้วยความลำบากใจอย่างมาก เจียงสือส่งนางไปฆ่าเซียวเหยี่ยนตอนนี้ก็เพื่อให้ทางเลือกนางสองทางเลือก ถ้านางไม่ตาย เซียวเหยี่ยนก็ตาย
เมื่อก่อนนางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ ตอนนี้ความรู้สึกนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที นางเป็นแค่หมากรุกตัวหนึ่งในมือเจียงสือ เจียงสือจะวางนางไว้ที่ใด นางก็ต้องอยู่ที่นั่น ความภาคภูมิใจเหล่านั้น มาดูตอนนี้แล้วช่างน่าขันสิ้นดี
หลิงอวี้จื้อกับเซียวเหยี่ยนต่างก็อยู่ในห้อง เซียวเหยี่ยนพันแผลใหม่แล้ว อวิ๋นซั่วคุกเข่าตัวตรงกับพื้น หลิงอวี้จื้อทำหน้าเหนื่อยทันที เรื่องก็เยอะอยู่แล้ว อวิ๋นซั่วยังเข้ามาร่วมวงอะไรอีก
“ข่าวรั่วเพราะเจ้าใช่หรือไม่”
เซียวเหยี่ยนมองอวิ๋นซั่วแวบหนึ่ง แววตาประกายรังสีสังหารอย่างเข้มข้น
หลิงอวี้จื้อไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน อวิ๋นซั่วหน้าตาสะอาดหล่อเหลา แค่มองก็เห็นว่าเป็นเด็กดี ประกอบกับหลายวันมานี้เขาไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรผิดปกติ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เคยสงสัยอวิ๋นซั่ว
อวิ๋นซั่วก้มหน้า ในเมื่อไม่มีข้อแก้ตัวก็ไม่มีคำปฏิเสธ
หลิงอวี้จื้อเดินไปตรงหน้าอวิ๋นซั่ว ถามด้วยความตกใจ
“เป็นเจ้าจริงๆ หรือ”
“เป็น…เป็นข้าเอง วันนั้นข้าได้ยินพวกท่านพูดกันโดยบังเอิญ จึงเอาเรื่องนี้ไปบอกคนเบื้องบน
ข้านึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงเช่นนี้ เสียหายไปทั้งตำบลเถาหยวน หากรู้ว่าสำนักอู๋จี๋จะรู้เรื่องนี้ ตีข้าให้ตายข้าก็คงไม่พูดออกไป เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกท่านลงโทษข้าเถิด! เห็นตำบลเถาหยวนกลายเป็นเช่นนี้ ข้าก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง”
เซียวเหยี่ยนมองอวิ๋นซั่วที่คุกเข่ากับพื้นอย่างเย็นชา ถามต่อว่า
“เจ้านายเบื้องหลังเจ้าคือใคร”
“คนที่ติดต่อกับข้าเป็นคนของอู๋อ๋อง”
อวิ๋นซั่วลังเลสักครู่ แต่ก็พูดออกมาในที่สุด เขามาหาเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อก็เพื่อพูดเรื่องทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา ตัดสินใจจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างแก่พวกเขา
“เจ้าพูดว่าอู๋อ๋องหรือ”
หลิงอวี้จื้อมองอวิ๋นซั่วอย่างเหม่อลอย ทำไมเป็นเฉินเสี้ยวหรูอีกแล้ว หรือว่าเขากับสำนักอู๋จี๋สมรู้ร่วมคิดกัน
สุภาพบุรุษในสายตาเธอทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งทำให้เธอผิดหวัง นั่นคือคนของซ่งเฉิงนะ ทำไมถึงกลายเป็นคนชั่วที่ร้ายกาจเพียงนี้
เมื่อก่อนเธอยังคิดจะแต่งงานกับอู๋อ๋อง ตอนนี้ในหัวไม่มีความคิดเช่นนี้แล้ว ในทางตรงกันข้าม รู้สึกดีใจที่ตนเองไม่ได้เลือกเฉินเซี่ยวหรู เขาไม่เหมือนซ่งเฉิง เอาเขากับซ่งเฉิงมาเปรียบเทียบกัน เท่ากับเป็นการดูถูกซ่งเฉิง เสียทีที่มีหน้าตาแบบนี้จริงๆ
“เป็นคนของอู๋อ๋องจริงๆ พวกเขามาหาข้า บอกข้าว่าพวกท่านอยู่ที่อำเภอฉางหนิง ดังนั้นข้าจึงมาหาพวกท่านที่อำเภอฉางหนิง”
อวิ๋นซั่วหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ
“พี่สาวกับแม่ตายไปแล้ว ข้าก็ได้รับจดหมายที่พ่อเขียน จึงรีบกลับไป แต่กลับช้าไปหนึ่งก้าว
โจรบุกเข้าจวน ไม่เพียงแต่ถูกปล้นไปจนว่างเปล่า ทุกคนตายหมด พ่อก็เจ็บหนัก
ก่อนที่เขาจะสลบไปก็เอามรดกของแม่มาให้ข้า บอกว่าทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ใหญ่ ให้ข้าเอาของนี้ให้พี่ใหญ่ ข้าพาพ่อออกจากจวนตระกูลอวิ๋น ถึงตอนนี้ท่านก็ยังไม่ฟื้น ไม่รู้ว่ายังจะฟื้นมาได้อีกหรือไม่”