บทที่ 879 ขอโทษที ยังเล่นสนุกไม่พอ / บทที่ 880 เชิญเทพเข้านั้นง่าย เชิญเทพออกนั้นยาก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 879 ขอโทษที ยังเล่นสนุกไม่พอ

เยี่ยหวันหวั่นยังคงพูดต่อ เจ้าหน้าที่ทรมานที่อยู่ห้องตรงข้ามโยนแส้ในมือทิ้ง “มา! มาๆ! เธอมาทำเองเลย! เดี๋ยวฉันจะให้เธอมาทำเองเลยดีไหม!”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มร่า “ก็ได้!”

ชายที่แสร้งทำเป็นหมดสติคนนั้นได้ยินก็สะดุ้ง พลันเบิกตาโพลง แล้วส่ายหน้าอย่างหวาดกลัว พี่ชาย! เฆี่ยนผมต่อเถอะ! อย่าเปลี่ยนคนเลย!

เวลานี้ มีเสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งดังเข้ามา เป็นคนสนิทของซือหมิงหลี่ทั้งสองคนนั่นเอง

“พี่ต้วน เปิดประตู ปล่อยตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป!” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นที่นั่งเกาะกรงขังอยู่ได้ยินก็พลันเปลี่ยนสีหน้านิดๆ ตวัดสายตาคมปลาบไปที่สองคนนั้น

ปล่อยเธอออกไป…?

เจ้าหน้าที่ทรมานทำหน้าเหมือนใกล้เสียสติเต็มที พอเห็นสองคนนั้นเข้ามาก็ราวกับเห็นดาวช่วยชีวิต “พวกนายสองคนมาแล้วเหรอ! ผู้หญิงคนนี้ไม่ไหวแล้ว…พวกนายจับเธอมาขังทรมาน หรือส่งเธอมาทรมานฉันกันแน่วะ?”

สองคนนั้นมองหน้ากัน เห็นเยี่ยหวันหวั่นดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทรมานมีสีหน้าทุกข์ทน ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

โชคดีที่เมื่อกี้พวกเขาหนีทัน…

“อย่าพูดมากอีกเลย รีบเปิดประตูเถอะ!” ทั้งสองกระแอมเบาๆ แล้วเร่งเร้า

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ พวกเขาถึงปล่อยตัวเธอ แต่พวกเขาก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ทรมานก็ไม่อยากถามให้มากความ รีบเดินไปเปิดประตูห้องขัง “แม่คุณหนูของฉัน เชิญออกไปเร็วๆ เลย! หยุดรบกวนเวลางานของฉันซะที!”

เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว ยืนอยู่ที่เดิม “ออกไป? ใครบอกว่าฉันจะออกไป”

ทั้งสามได้ยินอย่างนั้น ก็พากันตะลึงงันทันที

“คุณหนูเยี่ย คุณได้ยินไม่ชัดหรือไง พวกเราบอกว่าจะปล่อยตัวคุณออกไปนะ!”

เยี่ยหวันหวั่นหาวหวอดๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิ “ใครอยากออกไปกันล่ะ พวกนายไปปล่อยคนอื่นแล้วกัน ฉันยังเล่นสนุกไม่พอ”

ทั้งสามพูดอะไรไม่ออก

อะไรนะ?

สายลับชายที่ถูกเฆี่ยนจนหนังเปิดตกใจ ฉัน…ฉันอยากออกไปนะ…

ขณะที่สามคนนั้นกำลังงง ซือหมิงหลี่สาวเท้าเร็วๆ เข้ามาที่นี่ด้วยตนเอง

“คนล่ะ ปล่อยตัวออกไปแล้วหรือยัง?” ซือหมิงหลี่ถามด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน

บอดี้การ์ดมองหน้าเยี่ยหวันหวั่นก่อน ก่อนพูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “เอ่อ ผู้อาวุโสสี่ครับ เธอ…เธอไม่ยอมออกไป…”

“ไร้สาระ! เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ! ไสหัวไปเลยไป!”

ตอนนี้ พอเห็นท่าทางโกรธจัดของซือหมิงหลี่ เยี่ยหวันหวั่นก็มั่นใจได้แล้ว…ซือเยี่ยหานฟื้นแล้ว…แถมเขายังปลอดภัยดีด้วย…

ไม่อย่างนั้นซือหมิงหลี่ไม่มีทางรีบมา ‘ไล่’ เธอออกไปอย่างนี้แน่นอน

เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจโล่งอกเบาๆ ในที่สุดก็นับว่ายกภูเขาออกจากอกได้เสียที

……….

ขณะเดียวกัน ที่ห้องผู้ป่วย

คุณหญิงย่ากอดซือเยี่ยหานพลางร้องไห้ด้วยความดีใจอยู่นาน

ขณะที่ซือเยี่ยหานปลอบขวัญคุณหญิงย่า แสงสายัณห์สาดส่องฟ้าด้านนอกหน้าต่าง สะท้อนท่าทางใจลอยจนแทบไม่สังเกตเห็นของเขา

สวี่อวี้ยืนอยู่ด้านหนึ่ง ท่าทางร้อนใจมาก ในที่สุดก็หาโอกาสเปิดปากได้ “คุณชายเก้า…”

เฝิงอี้ผิงที่อยู่อีกด้านรีบตัดบทสวี่อี้ “พ่อบ้านสวี่ หัวหน้าตระกูลเพิ่งจะพ้นขีดอันตราย ต้องมีหลายเรื่องอยากคุยกับคุณนายใหญ่แน่ พวกเราอย่าอยู่ต่อรบกวนพวกท่านเลย!”

คุณหญิงย่ากุมมือหลานชายไม่ยอมปล่อย “พวกเธอออกไปก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องจะพูดกับเจ้าเก้า!”

สีหน้าสวี่อวี้เย็นชาเล็กน้อย ไม่สนใจการขัดขวางของเฝิงอี้ผิง เปิดปากทันใด “คุณชายเก้า คุณนายใหญ่ ตอนนี้คุณหนูหวันหวั่นยังอยู่ในห้องขังครับ!”

คุณหญิงย่าได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที “เธอว่าอะไรนะ หวันหวั่นอยู่ในห้องขัง?”

…………………………………..

บทที่ 880 เชิญเทพเข้านั้นง่าย เชิญเทพออกนั้นยาก

แม้แต่ซือเยี่ยหานเองก็เปลี่ยนสีหน้าเช่นกัน “ห้องขัง…”

เขาส่งคนอารักขาให้เธอไปจากที่นี่แล้วแท้ๆ…

เมื่อครู่ตอนที่ตื่นมาแล้วไม่เห็นเธอ เขานึกว่าเธอจะต้องออกจากประเทศไปแล้วแน่ๆ…

ห้องขังงั้นเหรอ!

ที่นั่นคือคุกใต้ดินของตระกูลซือ!

ถึงแม้จะมีชีวิตรอดออกมาได้ แต่ก็ต้องพิการ…

ในห้องผู้ป่วยขนาดใหญ่มีรังสีอำมหิตแผ่กระจายไปทั่วในพริบตา…

……

ในห้องขัง

โทรศัพท์ของซือหมิงหลี่ส่งเสียงดัง เป็นเฝิงอี้ผิงที่โทรมา

ซือหมิงหลี่รับสายด้วยความหงุดหงิด “ฮัลโหล? มีอะไร!”

จากปลายสาย เฝิงอี้ผิงกระซิบส่งข่าว “แย่แล้ว ผู้อาวุโสสี่ คุณชายเก้ารู้เรื่องแล้ว ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องขัง…”

“นาย…นายว่าอะไรนะ…”

ซือหมิงหลี่ลนลานทันที

หลังจากวางสายอย่างเร่งรีบ ซือหมิงหลี่ปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ บนใบหน้าเผยยิ้มประจบ ค้อมกายลงเก้าสิบองศา “คุณ…คุณหนูเยี่ย…”

เยี่ยหวันหวั่นมองหน้าซือหมิงหลี่อย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “อยู่ดีๆ ปู่สี่มาก้มหัวให้ฉันทำไมกันคะ”

ได้ยินอีกฝ่ายพูดเหมือนซือเยี่ยหาน ซือหมิงหลี่ก็โกรธจนใบหน้าเกือบบูดเบี้ยว ข่มกลั้นโทสะแล้วบอกว่า “คุณหนูเยี่ย ก่อนหน้านี้ถ้าเสียมารยาทไปตรงไหนก็ต้องขอโทษด้วย ฉันเป็นห่วงสุขภาพของหัวหน้าตระกูลเกินไป เมื่อกี้ตอนอยู่โรงพยาบาลก็แค่กำชับทุกคนเท่านั้น น้ำเสียงถึงได้รุนแรงไปบ้าง…คุณหนูเป็นผู้หญิงร่างกายบอบบาง ที่นี่อากาศหนาว รีบออกไปก่อนเถอะ!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่ยี่หระ “ปู่สี่พูดเกินไปแล้ว ฉันแข็งแรงดีมาก อีกอย่างที่นี่กว้างขวาง และก็สนุกมาก มีการแสดงให้ชมฟรีๆ ด้วยแหละ!”

ผิวหน้าของซือหมิงหลี่กระตุก ในที่สุดก็ทนไม่ค่อยไหว “เยี่ยหวันหวั่น เหล้าอวยพรไม่กินจะกินเหล้าลงทัณฑ์ใช่ไหม!”

เยี่ยหวันหวั่นกลับบอก “ขอบคุณปู่สี่มากค่ะ แต่ฉันไม่ดื่มเหล้า”

ตอนนี้เวลากำลังล่วงเลยไปทีละน้อย ซือเยี่ยหานก็กำลังมาที่นี่แล้ว ในที่สุดซือหมิงหลี่ก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา

“มัวยืนทำอะไรกันอยู่! พวกแก ยังไม่พาคุณหนูเยี่ยออกไปจากที่นี่อีก!” ซือหมิงหลี่ออกคำสั่งเสียงเย็น

“ครับ!” บอดี้การ์ดสองคนนั้นรับคำ แล้วเดินเข้ามาจับเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางดุดันน่ากลัว

แต่วินาทีถัดมา พวกเขายังไม่ทันได้แตะต้องตัวเยี่ยหวันหวั่น หนึ่งในนั้นก็ถูกเตะกระเด็นออกไปทันที

“อ๊าก!” ส่วนอีกคนก็เข่าพับทรุดลงด้วยความเจ็บปวด

ถึงแม้จะเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา แต่พอเห็นคนสนิทสองคนเข้าใกล้เธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ซือหมิงหลี่ถึงขั้นตะลึงงันไปทันที

เยี่ยหวันหวั่นนวดคลึงนิ้วมือ มองซือหมิงหลี่แล้วยิ้มอย่างไม่แยแส “ไม่ทราบว่าปู่สี่เคยได้ยินประโยคนี้ไหม”

ซือหมิงหลี่ขมวดคิ้วแน่น

เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อว่า “เชิญเทพเข้านั้นง่าย แต่เชิญเทพออกนั้นยาก”

ซือหมิงหลี่โกรธจนแทบกระอักเลือด “เธอ…”

เวลานี้เอง เสียงฝีเท้าวุ่นวายพลันใกล้เข้ามาจากประตูทางเข้า

ซือหมิงหลีหันไป ก็เห็นร่างที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต ทั้งตัวแข็งทื่อไป…

“หะ…หัวหน้าตระกูล…”

นอกจากซือเยี่ยหานแล้ว คุณนายใหญ่ก็มาด้วย ด้านหลังยังมีสวี่อี้ สวี่ฉางคุน ซือหมิงหรง และเฝิงอี้ผิงกับเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ พวกเขายกโขยงกันมาหมด

“คุณชายเก้า…” เจ้าหน้าที่ทรมานอึ้งงัน จากนั้นก็รีบค้อมกายทำความเคารพ

“คะ…คุณชายเก้า!” บอดี้การ์ดสองคนนั้นราวกับเห็นผี รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา แล้วคุกเข่าตัวสั่นเทิ้มอยู่ด้านหนึ่ง

ไม่คาดคิดเลยว่าคุณชายเก้าจะมาที่ห้องขังด้วยตัวเองอย่างนี้!

……………………..