183ขอบคุณอาจารย์เย่ที่มอบยาให้(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 183ขอบคุณอาจารย์เย่ที่มอบยาให้(1)

เย่เฉินหยิบยาลูกกลอนไว้ในมือ เขาเพียงแค่ปรุงยาตามตำราเก้าเสวียนเทียนแค่นั้นเอง แต่กลับทำให้ทุกคนตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง

ทุกคนมองดูยาลูกกลอนที่แวววาว จนแทบหายใจติดขัด

ในคนพวกนี้ คนที่อายุมากที่สุดคือซือเทียนฉี เป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุด แม้แต่ท่าทีความเป็นหมอเทวดาก็รั้งไว้ไม่ไหว

ร่างกายของเขาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงมานานแล้ว รักษาไม่หายมาตลอด ตลอดครึ่งชีวิตของเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมาตลอด

ครั้งก่อน ตนเองบังเอิญได้ยาลูกกลอนที่เย่เฉินปรุง อาการดีขึ้นไม่น้อย แต่ไม่สามารถรักษาจนหายขาดได้

ตอนนี้ ได้ยินประสิทธิภาพของยาใหม่ ว่าดีกว่าครั้งก่อนเป็นสิบเท่า ซือเทียนฉีตื่นเต้นอย่างที่สุด จนคิดว่าครั้งนี้ตนเองจะต้องสามารถหายขาดจากอาการเจ็บปวด ที่ทุกข์ทรมานมากว่าครึ่งชีวิตได้แน่

หากยาวิเศษของอาจารย์เย่ มีประสิทธิภาพเช่นนั้นจริงๆ งั้นนี่ถือเป็นพรอันประเสริฐจากฟ้า

ส่วนในสายตาซ่งหวั่นถิง ก็ตื่นเต้นอย่างมาก

ถึงแม้เย่เฉินจะใช้การฝังเข็มช่วยชีวิตคุณปู แต่ร่างกายของคุณปู่ในตอนนี้ยังคงอ่อนแอ หากอยากที่จะมีร่างกายที่แข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน ก็จะต้องอาศัยยาวิเศษของเย่เฉิน

ดังนั้น ดวงตาของเธอที่รอคอยยาวิเศษนั้นค่อนข้างที่จะร้อนผ่าว และดวงตาที่มองดูเย่เฉิน ก็ยิ่งเร่าร้อน

ส่วนฉินกาง เมื่อรู้ว่าตนเองจะสามารถได้ยาวิเศษสองเม็ด ก็ตื่นเต้นดีใจจนแทบจะร้องตะโกนออกมา

ตอนนี้เย่เฉินก็พูดขึ้นว่า “โรคยากที่ยาปัจจุบันไม่สามารถรักษาได้ อย่างเช่นโรคเบาหวาน โรคไตต่างๆ ที่เป็นโรคเรื้อรัง เมื่อทานยาลูกกลอนเม็ดนี้ ก็สามารถรักษาให้หายได้เหมือนกัน”

เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็ยิ่งตกตะลึง

เย่เฉินแค่ยกตัวอย่างโรคเรื้อรังเพียงไม่กี่โรคนี้ ถึงแม้จะเห็นได้บ่อย แต่ก็เป็นโรคที่รักษาได้ยากในการแพทย์แผนปัจจุบัน อย่าว่าแต่ทานยาแล้วไม่สามารถรักษาหาย ต่อให้ไปถึงต่างประเทศก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาด

โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ยังถูกเรียกว่าเป็นโรคมะเร็งที่ไม่ต้องตาย ไม่มียาที่จะสามารถที่จะรักษาได้

แต่ว่าที่เย่เฉินนี้ แค่ยาลูกเดียวก็สามารถรักษาให้รักษาให้หายขาดได้แล้ว

นี่ถือเป็นปาฏิหาริย์ทางการแพทย์จริงๆ

ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ไม่มีใครไม่ถอนหายใจอยู่ภายในใจ อาจารย์เย่ถือเป็นหมออัจฉริยะของโลกจริงๆ มังกรเก้าสวรรค์ที่แท้จริง

ดวงตาคู่สวยของฉินเอ้าเสวี่ยนเป็นประกายแวววาว ใบหน้าแดงระเรื่อเหมือนไฟกำลังลุกไหม้ ในใจอดไม่ได้ที่จะคิดว่า คนอย่างอาจารย์เย่ จะต้องทะยานไปถึงเหนือสวรรค์ชั้นเก้า ตนเองจะต้องรักษาโอกาสไว้ให้ดี จะเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด

เฉินเสี่ยวจาวก็อดไม่ได้ที่จะส่งสายตามองเย่เฉินอย่างหลงใหล

ความสามารถของเย่เฉิน เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงในตลอดชีวิตนี้ หากสามารถได้อยู่เป็นลูกน้องอาจารย์เย่ ได้เรียนรู้ความสามารถบ้างเล็กน้อย ก็คงเพียงพอที่จะเป็นที่เลื่องลือในวงการแพทย์

เวลานี้ เย่เฉินมองเห็นถึงความต้องการของทุกคน จึงยิ้มพูดขึ้นว่า “เอาเถอะ ผมแบ่งยาให้กับทุกคนนะครับ”

ทุกคนต่างก็อดทนรอไม่ไหว สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เย่เฉินลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งล้วงหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ด ยื่นให้กับซือเทียนฉีที่อายุเยอะที่สุดก่อน พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านซือ ยาเม็ดนี้คือของคุณ”

ซือเทียนฉีสั่นเทาไปทั้งตัว คุกเข่าลงพื้นทันที ยกมือทั้งคู่อยู่เหนือหัวอย่างให้ความเคารพ พูดขึ้นอย่างถ่อมตัวว่า “ขอบคุณอาจารย์เย่ที่มอบยาให้ บุญคุณอาจารย์เย่ล้นฟ้า ผมขอรับใช้ยอมทำทุกอย่างให้อาจารย์เย่ เพื่อเป็นการตอบแทนไปตลอดชีวิต”

เย่เฉินยิ้มพูดขึ้นว่า “ท่านซือ ถือว่าเรามีวาสนาต่อกัน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้”

พูดเสร็จ ก็ยื่นยาวางลงบนมือของซือเทียนฉี

ซือเทียนฉีตื้นตันจนน้ำตาไหล เมื่อคิดถึงความเจ็บปวดทรมานที่คุกคามมากว่าครึ่งชีวิต ก็อ้าปากจะทานยาลงไป ให้ตนเองได้หายไปจากความเจ็บปวดทรมานนี้