บทที่ 184ขอบคุณอาจารย์เย่ที่มอบยาให้(2)
เย่เฉินกลับห้ามเขาไว้ พร้อมพูดอย่างเรียบๆว่า “ท่านซือ ประสิทธิภาพของยานี้รุนแรงมาก คุณทานเพียงครึ่งเม็ด ก็สามารถรักษาอาการเจ็บปวดเรื้อรังของคุณแล้ว เหลืออีกครึ่งหนึ่ง เก็บรักษาไว้ให้ดี ต่อไปอาจจะต้องได้ใช้”
ในใจซือเทียนฉีตกตะลึง เพียงแค่ครึ่งเดียวก็สามารถรักษาตนเองได้แล้ว? นี่ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก
คิดถึงตรงนี้แล้ว เขาล้วงเอามีดที่ใช้ขูดยาในก่อนหน้านี้ออกมา แบ่งยาออกเป็นสองชิ้น แล้วอ้าปากกลืนยาลงไป
ทุกคนมองดูเขาอย่างไม่กะพริบตา หวังอยากที่จะได้เห็นถึงความอัศจรรย์
ส่วนซือเทียนฉีหลังจากทานยาลงไปแล้วหลายนาที สีหน้าก็แดงขึ้นมาทันที ผิวหนังทั่วทั้งตัวก็แดงขึ้นมาเช่นกัน ซ้ำยังทั้งเหงื่อไหลท่วมตัวอีก
ซือเทียนฉีรู้สึกว่าภายในร่างกายของตน เหมือนมีพลังวิเศษกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในใจ
ร่างกายของตน เหมือนแห้งเหี่ยวมาเนิ่นนาน เต็มไปด้วยปานรอยแผลเป็นแตกร้าว ส่วนพลังนี้เป็นเหมือนดั่งน้ำบริสุทธิ์ เติมเต็มส่วนที่แตกร้าวอย่างรวดเร็ว หล่อเลี้ยงไปทั่วทุกส่วนในร่างกาย
เขารู้สึกได้ถึงอาการเจ็บปวดเรื้อรังที่ดื้อรั้นของตน เริ่มค่อยๆถูกซ่อมแซม ดวงตาเบิดโตอย่างไม่รู้ตัว เผยให้เห็นถึงความไม่อยากเชื่อ
“อาจารย์เย่…นี่ นี่ช่างอัศจรรย์จริงๆ อาการเจ็บปวดที่คุกคามผมมากว่าสิบปี เพียงแค่ไม่กี่นาที ก็หายจนหมดแล้ว”
น้ำตาซือเทียนฉี ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง
หลายปีมานี้ เขาถูกอาการป่วยคุกคามจนแทบเป็นบ้า ไม่เพียงไม่สามารถรักษาช่วยชีวิตคนได้ด้วยตนเอง และยังมีโอกาสสูญสิ้นชีวิตอยู่ตลอด มีชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดทรมานที่สุด
แต่ตอนนี้ ยาเพียงครึ่งเม็ดของเย่เฉิน ก็สามารถรักษาเขาให้หายขาดได้แล้ว
สามารถพูดได้ว่าอัศจรรย์อย่างที่สุด จนไม่สามารถใช้คำพูดใดๆมาอธิบาย
กึก
ซือเทียนฉีคุกเข่าลงอีกครั้ง พูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้มว่า “อาจารย์เย่ ท่านเป็นเหมือนพ่อแม่ของผมอาจารย์เย่ในชีวิตใหม่ หากท่านไม่รังเกียจ ต่อไปผมซือเทียนฉีขอเคารพท่านในฐานะลูกพี่ลูกน้อง”
ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมานาน เมื่อทุกอย่างหายเป็นปกติ ความยินดีนี้ คนปกติไม่มีทางเข้าใจความตื้นตันใจอย่างที่เขารู้สึก
ทุกคนเห็นซือเทียนฉีหายเป็นปกติ ก็ยิ่งเลื่อมใสยาวิเศษที่อาจารย์เย่ปรุงขึ้นมา
เพียงแค่ยาลูกกลอนนี้ลูกนี้ มูลค่ามากกว่าทรัพย์สินทุกอย่าง รอเมื่อตนเองได้มาแล้ว ต่อให้จ่ายมาเท่าไหร่เขาก็จะไม่ขาย
เย่เฉินมองดูซือเทียนฉี ยื่นมือข้างหนึ่งพยุงเขาขึ้นมา พร้อมพูดว่า “ท่านซือ ผมรับรู้ถึงความตั้งใจของคุณแล้ว แต่ยังไงคุณก็เป็นผู้อาวุโส ต่อไปอย่าเอาแต่ทำความเคารพผมเลย”
ซือเทียนฉีรีบพูดขึ้นว่า “แบบนั้นไม่ได้ อาจารย์เย่เป็นผู้มีพระคุณของผม…”
เย่เฉินเห็นว่าเขาค่อนข้างมุ่งมั้น จึงไม่พูดอะไรอีก หันไปมองดูซ่งหวั่นถิง หยิบยาออกมาหนึ่งเม็ด พร้อมพูดว่า “คุณซ่ง ยาเม็ดนี้มอบให้กับคุณท่านซ่ง”
ซ่งหวั่นถิงรีบร้อนเหมือนกับซือเทียนฉีก่อนหน้านี้ คุกเข่าตรงหน้าเย่เฉิน ยกมือทั้งสองข้างอยู่เหนือหัว พร้อมพูดว่า “ขอบคุณคุณเย่ ที่มอบยาให้ บุญคุณของท่าน ตระกูลซ่งจะไม่มีวันลืม”
เย่เฉินยิ้มพยักหัว หยิบยาออกมาสองเม็ดอย่างไม่พูดไม่จา เอายาเม็ดหนึ่งแอบซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ส่วนยาอีกเม็ดหนึ่ง เอาวางบนมือซ่งหวั่นถิง
ซ่งหวั่นถิงได้ยามาแล้ว ในใจตื้นตัน กำลังจะกำมือ เพื่อเก็บยาไว้อย่างดี เวลานี้ กลับรู้สึกว่ามียาอีกเม็ดหนึ่งปรากฏอยู่ในฝ่ามือ
ในใจเธอตกตะลึง เงยหน้าขึ้นมองดูเย่เฉิน เห็นเย่เฉินกำลังมองดูตนอย่างยิ้มแย้ม ยังกะพริบตาขวาเล็กน้อย แล้วเธอก็เข้าใจความหมายของเย่เฉินในทันที
เย่เฉินให้ตนเกินมาหนึ่งเม็ด แล้วให้ตนเก็บเป็นความลับ…
ในใจซ่งหวั่นถิงตื่นเต้นตื้นตันอย่างที่สุด เธอไม่กล้าแม้แต่จะฝัน ว่าเย่เฉินจะให้ยาเธอมาสองเม็ด
อีกอย่าง เม็ดที่สองยังเป็นการให้อย่างลับๆ นี่หมายความว่า ยาเม็ดที่สอง เขาไม่ได้ให้ท่านปู่ แต่เขามอบให้กับตนหรือ?
……