ตอนที่ 1587

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,587 : ผู้เฒ่าพยากรณ์!

 

“สู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่!”

 

หน้าซือถูหังเปลี่นสีทันที เมื่อเห็นถึงไอพลังที่ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่รัศมี 100 หมี่

 

ถึงแม้ว่ามันพึ่งจะอยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แต่มันก็ตระหนักดีว่านี่คือพลังของปราณแท้ก่อเขตแดน!

 

ปราณแท้ก่อเขตแดน เป็นกลพลังที่จะใช้ออกได้ก็ต่อเมื่อบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่!

 

มันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆว่าคู่ปรับเก่าของมันจะทะลวงถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แล้ว!

 

พอนึกถึงฉากก่อนหน้าซือถูหังก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็น! ที่แท้ฟ่งเหินจงใจกล่าวยั่วยุให้มันลงมือ เพื่อที่จะได้ตอบโต้กลับมาด้วยพลังของสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่!!

 

ในกาลก่อนตอนที่ฟ่งเหินยังอยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ อีกฝ่ายก็นับว่ามีพลังฝีมือพอกันกับมัน!

 

ทว่าตอนนี้ฟ่งเหินกลับทะลวงไปถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แล้ว พอมันถามตัวเองก็รู้คำตอบดีว่าไม่ใช่คู่มืออีกฝ่าย!

 

ยิ่งพอได้นึกถึงเรื่องราวก่อนหน้า มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจนัก หากไม่ได้ปรมาจารย์ต้วนขวางไว้ล่ะก็ เกรงว่ามันคงได้อับอายขายหน้าไปแล้ว!

 

“ซือถูหัง เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง!”

 

ฟ่งเหินตะโกนออกมาด้วยโทสะ มันไม่อาจอดทนต่อซือถูหังได้อีกต่อไป ความอัปยศที่ได้รับจากซือถูหังทำให้มันลืมความตั้งใจแรกเริ่มไปหมดสิ้น

 

พอได้เห็นว่าฟ่งเหินบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แล้ว แถมเตรียมพร้อมลงมือจู่โจมซือถูหัง ซือถูโฮ่วก็ชักสีหน้าเคร่งขรึม หว่างคิ้วยู่ย่นทันที

 

ทว่าในขณะที่มันจะลงมือขัดขวางไม่ให้ฟ่งเหินทำร้ายซือถูหังนั้นเอง มันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังจากชายชราที่ติดตามฟ่งเหินแผ่พุ่งออกมาสะกดมันเอาไว้

 

“ซือถูโฮ่ว ปัญหาของรุ่นเยาว์ ก็ให้รุ่นเยาว์สะสางกันเอง”

 

ชายชราคิ้วขาวกล่าวออกเสียงเบา

 

“เหอะ!”

 

ถึงแม้ว่าซือถูโฮ่วจะไม่ได้กลัวชายชราคิ้วขาว แต่มันก็ไม่อาจลงมือได้ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเพ่งเล็งมันแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมันไม่กังวลแม้แต่น้อย

 

มันเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่นิ่งดูดาย

 

อย่างที่ซือถูโฮ่วคิดไว้ไม่มีผิด ตอนที่เขตแดนของฟ่งเหินกำลังจะปลดปล่อยพลังสะกดซือถูหัง ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ลงมือออกมา!

 

ไม่มีผู้ใดเห็นว่าต้วนหลิงเทียนลงมืออย่างไร ทว่าพื้นที่ในรัศมี 100 หมี่พลันสะเทือนสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง กลิ่นอายพลังคมกล้าขุมหนึ่งปะทุออก ก่อนที่จะควบรวมเป็นกระบี่นับหมื่นเล่ม!

 

กระบี่นับหมื่นเหินลอยฉวัดเฉวียนกลางหาว ยามเคลื่อนไหวยังคล้ายจะทะลวงผ่าได้ทุกสิ่ง!

 

เขตแดนหมื่นกระบี่!

 

กระบี่พลังมีสภาพนับหมื่นเล่มที่ผุดโผล่ออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเกิดจากการที่ต้วนหลิงเทียนเปิดใช้เขตแดน และพริบตาที่มันปรากฏออกมา มันก็ทำลายเขตแดนของฟ่งเหินให้แหลกพินาศได้ทันที!

 

แน่นอนว่าที่เขตแดนฟ่งเหินถูกทำลายได้ง่ายดายแบบนี้ เพราะอีกฝ่ายพึ่งบรรลุสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้ไม่นาน จึงยังไม่อาจใช้เขตแดนได้อย่างเชี่ยวชาญ

 

“หยุดมือ!”

 

ชายชราคิ้วขาวขมวดคิ้วเป็นปม มันไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือเคลื่อนไหว ทั้งๆที่มันก็กล่าวบอกไปแล้วว่าเรื่องของรุ่นเยาว์สมควรให้รุ่นเยาว์สะสางกันเอง

 

ถึงแม้มันจะเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังเยาว์วัย แต่อีกฝ่ายก็เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถู ยังถูกเรียกขานว่าปรมาจารย์ต้วน นั่นหมายความว่าอายุที่แท้จริงของอีกฝ่ายสมควรพอๆกับมัน!

 

เช่นนั้นแล้วมันคิดว่าในฐานะผู้อาวุโส ย่อมไม่สมควรลงมือสอดเรื่องของรุ่นเยาว์

 

อย่างไรก็ตามมันไม่คิดจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะลงมือทำลายเขตแดนของฟ่งเหินอย่างไร้ปราณีถึงเพียงนี้!

 

ถึงแม้ว่าเขตแดนของต้วนหลิงเทียนจะทำให้มันตกตะลึง เพราะตั้งแต่เกิดมา มันก็ไม่เคยเห็นเขตแดนหมื่นกระบี่มาก่อน

 

แถมกระบี่ที่ผุดโผล่ออกมาแต่ละเล่มก็มีกลิ่นอายพลังคมกล้าร้ายกาจนัก!

 

แต่อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ทำให้มันมีโมโหถึงที่สุด เพราะการสอดมืออย่างหน้าไม่อายของต้วนหลิงเทียน!

 

ทว่าในขณะที่ชายชราคิ้วขาวเตรียมลงมือนั้นเอง คราวนี้มันกลับถูกซือถูโฮ่วแผ่พลังมาสะกดแทน! ทั้งถูกกล่าวเสียดสีออกมา “เฒ่าหยิน ไม่ใช่เจ้ากล่าวเองหรือว่าเรื่องของรุ่นเยาว์ก็ต้องให้รุ่นเยาว์สะสางกันเอง?”

 

กล่าวจบ ซือถูโฮ่วก็หัวเราะออกมาดังลั่น ในใจรู้สึกลิงโลดนัก! เพราะนี่เสมือนอีกฝ่ายขุดหลุมฝังศพตัวเองแท้ๆ!!

 

“ซือถูโฮ่ว หรือเจ้ายังมีหน้ากล้ามาบอกข้าว่ามันเป็น รุ่นเยาว์ งั้นเหรอ!? มันเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูของพวกเจ้า ทั้งด่านพลังฝึกปรือของมันสมควรบรรลุครึ่งก้าวเซียนแล้ว ข้ามั่นใจว่าอายุของมันคงมิน้อยไปกว่าผู้นำตระกูลซือถูกระมัง?”

 

ชายชราคิ้วขาวกล่าวเสียดสี

 

“เช่นนั้นเจ้าก็คิดผิดแล้วหยินไป๋…ถึงแม้ท่านปรมาจารย์ต้วนจะเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูเรา แต่ท่านยังเยาว์ยิ่งกว่าเสี่ยวหังเสียอีก”

 

ซือถูโฮ่วกล่าวออกด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน

 

ยังเยาว์กว่าเสี่ยวหัง?

 

ซือถูหังไม่ใช่ว่าเป็นรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยที่สุดในตระกูลซือถูแล้วหรอกเหรอ?

 

“อะไร!? ยังเยาว์กว่าซือถูหัง?”

 

แน่นอนว่าชายชราคิ้วขาวย่อมรู้ว่าเสี่ยวหังที่ซือถูโฮ่วกล่าวเป็นใคร แต่มันไม่อาจทำใจเชื่อได้จริงๆ ว่าแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูจะยังเยาว์กว่า!

 

เพื่อให้รู้ชัดชายชราคิ้วขาวพลันใช้ออกด้วยทักษะวิญญาณลี้ลับ แผ่พุ่งพลังวิญญาณไปตรวจสอบอายุของต้วนหลิงเทียนทันที

 

ไม่นานจากการตรวจสอบมันก็พบว่า อีกฝ่ายยังมีอายุแค่ 36 ปี!

 

36 ปี!

 

พอได้รับทราบอายุของต้วนหลิงเทียนจากการตรวจสอบ ชายชราคิ้วขาวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยากยอมรับ

 

36 ปีบรรลุครึ่งก้าวเซียน?

 

ศักยภาพพรสวรรค์เช่นนี้แม้จะไม่อาจเทียบได้กับ แม่นางเฟิ่ง แห่งนิกายอัคคีล่องลอย แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากนัก

 

อย่างไรก็ตามพอมันจำได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ ทั้งซือถูหังยังเรียกหาว่าปรมาจารย์ต้วนด้วยความเคารพ มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเหลวไหลอยู่บ้าง! คุณชายใหญ่ตระกูลซือถูกลับเรียกหาชายหนุ่มวัย 36 ปีว่าปรมาจารย์ด้วยเคารพ เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่ใช่ว่าเป็นที่น่าขบขันหรือไร!?

 

“หืม?”

 

ในตอนแรกที่ต้วนหลิงเทียนทำลายเขตแดนของฟ่งเหิน เขาก็ไม่คิดจะลงมือทำร้ายอะไรมัน เพราะอย่างน้อยๆอีกฝ่ายก็มีขุมพลังชั้น 7 อยู่เบื้องหลัง…

 

อีกทั้งสุดท้ายแล้วขุมพลังของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลซือถู…

 

ถึงแม้พลังฝีมือของเขาตอนนี้จะไม่เลว แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถรบซึ่งๆหน้ากับขุมพลังชั้น 7 ได้ด้วยตัวคนเดียว เช่นนั้นจึงเบามือไว้…ไม่ได้ทำร้ายอะไรอีกฝ่าย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อตระหนักได้ถึงพลังวิญญาณของชายชราที่แผ่พุ่งออกมาตรวจสอบเขาอย่างโจ่งแจ้ง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีโมโห เช่นนั้นจึงเลือกที่จะตบฟาดออกไป 1 ฝ่ามือ!

 

พลังฝ่ามือไร้สภาพแหวกฟ้าไปฉับไวสุดที่ฟ่งเหินจะตั้งตัวได้ทัน มันจึงรับประทานเข้าไปเต็มคำ!

 

แน่นอนว่าฟ่งเหินที่ถูกฝ่ามือดังกล่าวซัด ก็จำต้องร่ำร้องออกมาเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด! คนยังปลิดปลิวกระเด็นไปไม่เป็นท่า!

 

แต่พิกลนักไม่นานมันก็ไม่ส่งเสียงร้องอะไรอีก…น่ากลัวจะสิ้นสติไปแล้ว!

 

“นายน้อย”

 

เมื่อเห็นฟ่งเหินถูกซัดปลิว จนลมหายใจรวยรินทั้งยังสิ้นสติกลางอากาศจนร่างร่วงตกลงมา! ชายชราคิ้วขาวก็เร่งพุ่งร่างไปรับตัวฟ่งเหินไว้ก่อนที่จะร่วงตกฟ้าไปตาย!!

 

และเมื่อตรวจสอบอาการ มันก็พบว่ากระดูกทั่วร่างของฟ่งเหินยามนี้แหลกไปทั่วกาย! หน้าชายชราคิ้วขาวก็มืดดำลงทันใด แววตาเผยอำมหิตเย็นเยียบจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนเขม็ง “บัดซบ! เจ้าจักทำเกินไปแล้ว…ต่อให้เจ้าจะเป็นแขกกิตติมศักดิ์ นิกายคงเฉินเราก็ไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!!”

 

“นิกายคงเฉิน? ข้าล่ะอยากรู้นักว่านิกายคงเฉินจักทำอันใด! หากพวกเจ้าคิดจะทำอะไรท่านปรมาจารย์ต้วนก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

เมื่อเห็นว่าชายชราคิ้วขาวกล้าข่มขู่ต้วนหลิงเทียน ซือถูหังก็ก้าวออกมาประกาศกร้าว ใบหน้ายังถมึงทึงแววตาดุร้ายเอาเรื่องนัก!

 

“เหอะ!”

 

ชายชราคิ้วขาวคิดไม่ถึงอยู่บ้างว่าซือถูหังจะออกหน้าเพื่อต้วนหลิงเทียนขนาดนี้ หน้ามันบิดเบี้ยวทั้งดำลงปานหมึก เร่งพุ่งร่างจากไปเพื่อรักษาอาการให้นายน้อยของมันทันที

 

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้หวาดกลัวคำขู่ของอีกฝ่าย แต่การที่ซือถูหังออกหน้าปกป้องก็ทำให้เขาซึ้งใจไม่น้อย

 

“ท่านปรมาจารย์ต้วน ท่านไม่ต้องไปสนใจวาจาของหยินไป๋มันหรอก…หากนิกายคงเฉินของพวกมันคิดทำอะไรท่านจริงก็ให้มันมา แถมพวกมันยังต้องผ่านข้ากับบิดาไปก่อน!”

 

ซือถูหังที่ประกาศกร้าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ พอหันมาทางต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกด้วยรอยยิ้มทันที

 

“อ่า”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

 

“ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าฟ่งเหินจากนิกายคงเฉินนั่นมันจักทะลวงไปถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ก่อนเจ้า เสี่ยวหัง”

 

ตอนนี้เองซือถูโฮ่วพลันกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ

 

“ข้าเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้พิกลนัก…ปกติฟ่งเหินนั่นอย่างดีมันก็ทำได้แค่ทัดเทียมกับข้า ทว่าตอนนี้ข้ายังห่างจากสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่อีกไกล…ไฉนมันถึงบรรลุไปแล้วได้?”

 

ซือถูหังกล่าวออกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 

“บางทีมันคงพบพานวาสนาอันใด”

 

ซือถูโฮ่วกล่าว

 

“เช่นนั้นสุนัขบัดซบนั่นมันก็โชคดีนัก!”

 

ซือถูหังพ่นลมออกมาอย่างขัดใจ

 

การปรากฏตัวของชาย 2 คนจากนิกายคงเฉิน นับว่าเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆสำหรับพวกต้วนหลิงเทียน

 

อย่างไรก็ตามสำหรับทางนิกายเฉินคงแล้ว นี่นับเป็นความอัปยศขายหน้านัก! เพราะนายน้อยของนิกายคงเฉินกลับถูกผู้คนทุบตีจนตัวร้าว!!

 

“หากแขกกิตติมิศักดิ์บัดซบของตระกูลซือถูนั่นไม่ตาย ข้าฟ่งเหินขอสาบานว่าข้าจะไม่ขออยู่เป็นผู้คน!”

 

แม้ว่ากระดูกทั่วร่างยังไม่หายดี แต่หลังรับประทานโอสถรักษาไปฟ่งเหินก็ฟื้นขึ้นมากล่าววาจาได้ ยังดุร้ายเอาเรื่องนักทั้งๆที่ยังขยับร่างกายไม่ได้ก็ตาม…และแน่นอนว่าสภาพนี้ มันคงต้องนอนเป็นผักบนเตียงไปอีกนาน!

 

นี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของฟ่งเหินจริงๆ ที่ถูกทุบตีทำร้ายสาหัส ทั้งถูกหยามหยันให้เสียหน้าขนาดนี้!

 

 

เมื่อย่ำค่ำ ต้วนหรูเฟิงกับกู่มี่ก็เข้าใกล้เขตของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานเต็มที

 

ทว่าหลังจากที่กำลังจะถึงคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานนั้น อยู่ดีๆ ร่างต้วนหรูเฟิงก็หยุดค้างกลางอากาศ ใบหน้ายังเผยความประหลาดใจออกมา

 

กู่มี่ที่หยุดร่างลงพอเห็นสีหน้าตื่นๆของต้วนหรูเฟิงมันก็แปลกใจไม่น้อย ยังไม่เข้าใจว่าในแผ่นดินนี้ยังมีอะไรที่ทำให้จ้าวตำหนักของมันเสียอาการได้ขนาดนี้…

 

อย่างไรก็ตามแม้จะสงสัยแต่กู่มี่ก็ไม่กล้ากล่าวถามหรือรบกวนอะไรต้วนหรูเฟิง

 

หลังจากตะลึงไปพักหนึ่ง ต้วนหรูเฟิงพลันหันไปมองกล่าวกับกู่มี่ “อาวุโสกู่ช่วยไปพาลูกสะใภ้ข้าออกมาจากคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานที และหากเป็นไปได้ขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะกับคนของสกุลหานด้วย”

 

แม้จะไม่เข้าใจว่าไฉนต้วนหรูเฟิงสั่งให้ทำแบบนี้ แต่กู่มี่ก็รับคำอย่างเชื่อฟังปานประกาศิตขององค์จักรพรรดิ!

 

“ทราบแล้วท่านจ้าวตำหนัก”

 

หลังจากขานรับ กู่มี่ก็มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานเพียงลำพัง

 

หลังจากที่กู่มี่จากไปไม่ทันไร พลันมีร่างหนึ่งผุดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าตรงหน้าต้วนหรูเฟิง!

 

เป็นชายชราในชุดมอซอแลไปคล้ายขอทานเฒ่าอย่างไรชอบกล ผมสีขาวที่คล้ายไม่ได้ดูแลมานาน ถูกปล่อยยาวรุงรังอีกทั้งหนวดเคราก็ขึ้นหรอมแหรมเป็นตอ เรียกว่าไม่มีที่ใดในตัวแลดูดีแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ‘ขอทานเฒ่า’ ดังกล่าว ต้วนหรูเฟิงกลับเต็มไปด้วยความเคารพ ไม่กล้าละเลยทีท่าแม้แต่น้อย “ต้วนหรูเฟิง ขอคารวะผู้เฒ่าพยากรณ์!”