เมื่อยิ่งเดินเข้าไปข้างใน กลิ่นอากาศพิษก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะกินยากันพิษอีกคนละหนึ่งเม็ด

ตลอดระยะทางที่เดินผ่าน บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยศพจำนวนไม่น้อย

ศพเหล่านี้บางส่วนถูกสัตว์ร้ายกัดกินจนตาย บางส่วนก็ถูกพิษจนตายและบางส่วนก็ถูกพลังฝ่ามือและของมีคมทำร้ายจนบาดเจ็บตาย

เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า “ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ได้มาที่นี่แล้วสามตระกูล มีตระกูลไป๋หลี่ ตระกูลเหวินและตระกูลซั่งกวนต่างก็มากันแล้ว เราได้เข้ามาถึงยังส่วนที่ลึกของหุบเขาเจียงเจ๋อซานแล้ว เจ้าระมัดระวังตัวเองด้วยล่ะ”

กู้ชูหน่วนค้นร่างศพไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ค้นหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบเจออะไร จากนั้นจึงบ่นออกมา “ตระกูลใหญ่สามตระกูลอะไรกัน ขอทานทั้งสามล่ะสิไม่ว่า”

เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะออกมา

“เข้ามายังหุบเขาเจียงเจ๋อซานเพื่อมาหาเก็บเศษของมีค่า”

“ใครทำให้ข้าไม่มีครอบครัวที่คอยสนับสนุนล่ะ เช่นนั้นข้าจึงต้องออกมาผจญภัยเช่นนี้แหล่ะ”

กู้ชูหน่วนเดินไปข้างหน้าและหยิบกระสอบป่านที่ตัวเองเตรียมมา และเก็บพืชสมุนไพรล้ำค่าตลอดทางที่เจอใส่ลงไป

เซี่ยวอวี่เซวียนมองไปยังกระสอบป่านที่มีขนาดใหญ่กว่าเขาและรู้สึกหมดคำพูด

แต่เขากลับค้นพบว่า ถึงแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีความโลภมาก แต่พืชสมุนไพรที่เก็บมานั้นล้วนเป็นพืชสมุนไพรที่ดี พืชสมุนไพรธรรมนั้นนางไม่เก็บเลย

เขาเกิดความสงสัย “เจ้าสามารถปรุงกลั่นยาหรือ?”

“การปรุงกลั่นยานั้นถือเป็นสิ่งที่สูงส่ง ข้าจะไปมีปัญญาทำได้อย่างไร ข้าเพียงแค่รู้เรื่องการรักษาเล็กน้อยเท่านั้น”

เซี่ยวอวี่เซวียนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พืชสมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นพืชสมุนไพรชั้นเยี่ยมสำหรับการปรุงกลั่นยา

“ตึ่งๆๆ……”

พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย จากนั้นแสงหลากสีก็ส่องไปบนท้องฟ้า

ดวงตาของกู้ชูหน่วนเบิกกว้างและสว่างขึ้นทันที

“มีสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกแล้ว”

นางไม่พูดอะไรและเดินไปยังบริเวณที่มีแสงสว่างปรากฏขึ้น

เซี่ยวอวี่เซวียนหมดคำพูดโดยสมบูรณ์

มีความสามารถด้านการต่อสู้เพียงน้อยนิด แต่กลับกล้าไปแย่งชิงสมบัติล้ำค่า?

นางไม่รู้เลยหรือว่าโดยปกติแล้วสถานที่ที่มีสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์นั้น มักจะมีอสูรร้ายคอยปกป้องคุ้มครองอยู่?

นางไม่รู้เลยหรือว่าเสียงที่ดังกึกก้องจนพื้นดินสั่นสะเทือนเมื่อสักครู่นั้น เป็นเสียงการต่อสู้ของยอดฝีมือและอสูรร้าย?

เขารีบร้อนที่จะค้นหาของเหลววิญญาณไท่ยี

แต่ก็ต้องตามเข้าไป

“แม่ผู้หญิงไม่รู้จักที่ตาย”

เซี่ยวอวี่เซวียนกระทืบเท้าและไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงต้องพานางที่เป็นตัวถ่วงมาด้วย

เมื่อเซี่ยวอวี่เซวียนเดินทางไปถึง

เขารู้สึกสับสนยุ่งเหยิงมาก

เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างไรกัน

ราชสีห์สองหัวระดับสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับคนของตระกูลไป๋หลี่

กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าไปดึงดูดสิงโตระดับหนึ่งนับร้อยมาจากที่ไหนกัน จึงทำให้การต่อสู้นี้ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด

คนของตระกูลไป๋หลี่มีกันทั้งหมดสิบกว่าคน เดิมทีพวกเขาเป็นฝ่านได้เปรียบ แต่เมื่อสิงโตระดับหนึ่งนับร้อยเข้ามา พวกเขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ไป๋หลี่เจิ้นก็อยู่ข้างในด้วยเช่นกัน เขาตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้น สิงโตนับร้อยตัวนั้นถูกเราปิดล้อมแล้วไม่ใช่หรือ?”

“ข้าน้อย……ข้าน้อยก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับ”

“เร็วเข้า รีบจุดพลุส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือเร็วเข้า”

“ขอรับ”

“โฮ่ว……”

ศิษย์กว่าสิบคนถูกกัดจนตายต่อหน้าต่อตาไปเกือบครึ่ง

มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุกและใช้โอกาสนี้ปีนขึ้นต้นไม้ จากนั้นโอบอุ้มผลไม้เคลือบหลากสีล้ำค่าที่เพิ่งสุกไว้ในอ้อมแขน

นางวิ่งอย่างรวดเร็ว วิ่งพลางพร้อมกับกินผลไม้เคลือบเจ็ดประการอันล้ำค่าเข้าไป

ไป๋หลี่เจิ้นเห็นเข้า

เขาโกรธจัด

ตระกูลไป๋หลี่สละชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ไม่ง่ายเลยที่จะขังสิงโตเหล่านั้นไว้ได้

เดิมทีผลไม้เคลือบหลากสีนั้นเป็นของพวกเขา แต่ตอนนี้กลับถูกนังผู้หญิงชั่วมู่หน่วนคนนั้นแย่งชิงไป

โกรธ……

โกรธมากเหลือเกิน

ไป๋หลี่เจิ้นอยากจะฆ่านาง

อย่างไรก็ตาม สิงโตเหล่านั้นกลับไล่ล่าพวกเขาไม่หยุด กำลังความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าสิงโต แต่เพราะจำนวนที่มากกว่า จึงทำให้ไม่สามารถต่อสู้ชนะพวกมันได้

เซี่ยวอวี่เซวียนอดเสียวสันหลังแทนนางไม่ได้

กินผลไม้เคลือบเจ็ดประการอันล้ำค่าเข้าไป?

นางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?

ไม่รู้หรือว่าผลไม้เคลือบเจ็ดประการนี้ต้องผ่านการหล่อหลวมก่อน?

เซี่ยวอวี่เซวียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เร็วราวกับสายฟ้า

เขาขัดขวางกู้ชูหน่วน ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “รีบคายผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมาเดี๋ยวนี้”

“ถูกข้ากินไปหมดแล้วและได้กลืนไปหมดแล้ว”

“…”

กินไปหมดในเวลาอันรวดเร็วอย่างนั้นหรือ?

แม้แต่เม็ดก็กินเข้าไปด้วยอย่างนั้นหรือ?

“เจ้านี่ช่าง……เสียจริง” เซี่ยวอวี่เซวียนไม่รู้ว่าจะอธิบายนางอย่างไร

กู้ชูหน่วนหาที่นั่งลงเพื่อแอบซ่อน จากนั้นกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ในร่างกายของข้ามีพลังงานมหาศาลกำลังพุ่งชนข้าตลอดเวลา เจ้าช่วยรับหน้าแทนข้าสักครู่หนึ่งเถอะนะ”

“……”

เช่นนั้นยังเรียกว่ารับหน้าแทนอีกหรือ?

ผลไม้เคลือบเจ็ดประการถูกนางแย่งชิงไปแล้ว

สิงโตดุร้ายเหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งของที่มันจะไม่ไล่ตาม?

แล้วมีหรือที่คนของตระกูลไป๋หลี่จะไม่ไล่ล่าตามมา

นางเชื่อมั่นในตัวของเขาเกินไป

หรือว่าเห็นเขาเป็นคนใช้ที่คอยออกคำสั่งอย่างนั้นหรือ?

เซี่ยวอวี่เซวียนโบกมือเพื่อสร้างเกราะกำบังที่มองไม่เห็น เพื่อปกปิดลมหายใจของเขาและกู้ชูหน่วน

ผลไม้เคลือบเจ็ดประการเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ระดับขั้นที่สอง นางมีความสามารถด้านการต่อสู้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้นนั้นแต่กลับกินเข้าไป หากไม่อิ่มจนระเบิดสิแปลก

เซี่ยวอวี่เซวียนครุ่นคิดว่าจะช่วยชีวิตนางได้อย่างไร

ภายใต้เกราะกำบัง กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ร่างกายของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีขาวตลอดเวลา พลังมหาศาลปะทุอยู่ในร่างกายของนางจนนางเจ็บปวดทรมาน นางกัดฟันแน่นและไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักนิด

“หากข้าทำลายเส้นชีพจรการต่อสู้ของเจ้าไป จากนั้นดึงดูดผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมาก็จะสามารถช่วยชีวิตของเจ้าได้ เช่นนี้เจ้ายอมหรือไม่?”

“ไม่ยอมเด็ดขาด ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะกลืนผลไม้เคลือบเจ็ดประการนี้ไปได้ และข้าทำเพื่อเพิ่มระดับความสามารถ หากเจ้ากล้านำออกมา เช่นนั้นเจ้าได้เห็นดีแน่ เงียบได้แล้ว เจ้าเสียงดังเกินไปแล้ว”

เซี่ยวอวี่เซวียน “……”

เขาช่างหาเรื่องใส่ตัวเหลือเกิน

กลับไม่ไปค้นหาของเหลววิญญาณไท่ยี

แต่กลับมาเสียเวลากับผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจะตายเมื่อไร

หากไม่คายผลไม้เคลือบเจ็ดประการออกมา เช่นนั้นนางต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย

และสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ กู้ชูหน่วนกลับรู้วิธีการหายใจ เส้นชีพจรระดับการต่อสู้ต่ำต้อยเช่นนี้ แต่กลับสามารถกลืนผลไม้เคลือบเจ็ดประการเข้าไปหลอมรวมในร่างกายได้ เพื่อให้นางสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เอง

นี่……

นี่ไม่ได้มีเพียงยอดฝีมือระดับสี่ขึ้นไปถึงจะสามารถทำได้หรอกหรือ?

นางทำได้อย่างไรกัน

“ตู้ม……”

แสงหนึ่งปรากฏขึ้นและตกลงอย่างรวดเร็ว

กู้ชูหน่วนที่มีระดับการต่อสู้เพียงขั้นที่หนึ่ง เพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่สอง และเพิ่มเป็นขั้นที่สาม

ภายในระยะเวลาธูปหนึ่งดอก กู้ชูหน่วนจึงค่อยๆ หายใจเป็นปกติและเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา จากนั้นกล่าวว่า “เจ็บเหลือเกิน หมกมุ่นอยู่นาน แต่เหตุใดถึงเพิ่มขึ้นเพียงระดับขั้นที่สามเท่านั้น”

เซี่ยวอวี่เซวียน “……”

ระยะเวลาธูปหนึ่งดอก แต่เพิ่มขึ้นถึงระดับขั้นที่สาม นางยังไม่พอใจอีกหรือ?

มีหลากคนที่กว่าจะเพิ่มได้แต่ละขั้นต้องใช้เวลากว่าหลายปี

และบางคนใช้เวลากว่าสิบปีก็ไม่สามารถเพิ่มความสามารถขึ้นได้แม้แต่ขั้นเดียว

สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยก็คือร่างกายภายในของผู้หญิงคนนี้กลับสามารถหล่อหลอมผลไม้เคลือบเจ็ดประการได้ ผู้หญิงคนช่างไม่ธรรมดาจริงๆ

กู้ชูหน่วนลุกขึ้นยืนและจัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยับ นางรู้สึกว่าร่างกายของนางเบาขึ้นมาก

“คนอื่นข้าไม่รู้ ไป๋หลี่เจิ้นมีความสามารถระดับสี่ เขาต้องอดทนไม่ได้อย่างแน่นอน”

“ระดับสี่……เช่นนั้นแล้วในร่างกายของเขาจะต้องมีสมบัติล้ำค่าใช่หรือไม่?”

ตาของเซี่ยวอวี่เซวียนกระตุก ความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน

โดยเฉพาะดวงตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นของนาง

“เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“ไปขอสมบัติล้ำค่ามาสักหน่อยเป็นอย่างไร?”

เซี่ยวอวี่เซวียนอดไม่ได้ที่จะตักเตือนนางอีกครั้ง “ตอนนี้เจ้ามีความสามารถเพียงระดับขั้นที่สามเท่านั้น ความสามารถของพวกเจ้าสองคนต่างกันราวฟ้ากับดิน”

“ความสูงนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรค ความสามารถก็ไม่ใช่ปัญหา ใครบอกว่าเส้นชีพจรขั้นที่สามไม่สามารถสู้กับความสามารถระดับสี่ได้”

“บ้าไปแล้ว……”

“เสี่ยวเซวียนเซวียน เรามาร่วมมือกันเถอะเพื่อจะได้สมบัติล้ำค่ามา จากนั้นนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง”

“ข้าไม่สนใจ”

“เช่นนั้นก็ได้ ในเมื่อเจ้าไม่ยอม งั้นข้าไปจัดการเอง”

นางพูดจบก็เดินอ้อมกลับไปจริงๆ

เซี่ยวอวี่เซวียนยังคงอึ้งยืนอยู่กับที่

นี่คือ……

ลูกวัวแรกเกิดไม่เกรงกลัวเสือ?

ช่างน่าโมโหนัก

เหตุใดเขาต้องพบเจอผู้หญิงบ้าคลั่งอย่างนางด้วยนะ

แต่หากปล่อยนางไป เขาก็ทำไม่ลง

แต่การช่วยนาง ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ