แดนนิรมิตเทพ บทที่ 664
ในห้องโถง เว่ยอวี้เฉิงยืนอยู่ที่บันไดพร้อมลูกน้องสองคน และดูเหมือนว่าพวกเขารอเป็นเวลานานแล้ว

“เฉินไต้ซือ นึกไม่ถึงว่าแกจะมาถึงที่นี่ มันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ!” ใบหน้าของเว่ยอวี้เฉิงยังบวมอยู่ หน้าตาที่หล่อเหลาของเขาเหมือนหัวหมู

“ออกมาเถอะ ผมรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของคุณแล้ว!” เฉินโม่ไม่สนใจเว่ยอวี้เฉิง แต่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไปทางด้านบนของบันได

สีหน้าของเว่ยอวี้เฉิงเปลี่ยนไป จากนั้นเสียงของคนชราก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง “เฉินไต้ซือแน่จริง ๆ ผมเหมือนไม้ใกล้ฝั่งแล้ว นึกไม่ถึงว่าคุณยังสามารถรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของผมได้

หลังพูดจบ เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างช้าๆ ชายชราหลังค่อมผมขาวและหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น ใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินลงมาจากบันไดทีละขั้นด้วยความยากลำบาก

เว่ยอวี้เฉิงรีบวิ่งขึ้นไป พยุงชายชราและกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “คุณปู่ ระวังด้วย!”

ชายชราเดินลงมาจากบันไดด้วยความยากลำบาก แล้วยืนบนพื้นไม้ในห้องโถง มองเฉินโม่แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “คนแก่แล้ว ขาไม่ดี ขออภัยด้วย! ไม่รู้ว่าเฉินไต้ซือมาที่ตระกูลเว่ยด้วยธุระอะไร?”

เฉินโม่จ้องเขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าฉัน แกไม่รู้หรือว่าหลานชายของแกทำเรื่องอะไรไว้?”

เซวียมู่หัวที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉินโม่ ตะโกนด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “เว่ยอวี้เฉิง รีบส่งตัวน้องสาวของผมออกมา!”

เว่ยอวี้เฉิงยิ้มด้วยความชั่วร้าย แล้วมองปู่ของตนเอง แต่ไม่พูดอะไร

ตาเฒ่าเว่ยยิ้มบาง ๆ และกล่าวว่า “แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ถึงขนาดที่เฉินไต้ซือต้องมาขอคืนด้วยตนเองเลยเหรอ? มีผู้หญิงจากครอบครัวธรรมดามากมายที่ตบตีแย่งชิงเพื่อต้องการเป็นผู้หญิงของหลานชายผม การที่หลานชายผมถูกใจเธอ มันเป็นบุญวาสนาของเธอแล้ว”

ตาเฒ่าเว่ยรู้ดีทุกอย่าง และดูเหมือนจะเห็นด้วยกับการกระทำของเว่ยอวี้เฉิง

เซวียมู่หัวโกรธจนหน้าแดงก่ำ และตะโกนด้วยความโมโหว่า “เลวทรามต่ำช้า มิน่าเว่ยอวี้เฉิงถึงกล้าทำเรื่องที่ดูหมิ่นกฎหมายของประเทศหัวเซี่ย ที่แท้รุ่นอาวุโสประพฤติตัวไม่เหมาะสม จนทำให้เด็กรุ่นหลังได้รับผลกระทบและประพฤติตัวไม่เหมาะสมตาม! มีปู่อย่างแก ถ้าสามารถอบรมสั่งสอนหลานชายเป็นคนดีได้ มันก็เป็นเรื่องที่แปลกแล้ว!”

เฉินโม่ขี้เกียจจะพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ฉันไปที่การประชุมบู๊มาแล้ว สมาชิกของตระกูลเว่ยถูกฉันฆ่าตายหมดแล้ว ตอนนี้ถึงตาพวกคุณแล้ว!”

“แกว่าอะไรน่ะ!” สีหน้าของตาเฒ่าเว่ยกับเว่ยอวี้เฉิงเปลี่ยนไปอย่างมาก ตะโกนใส่เฉินโม่ด้วยความตกใจและโมโห

เฉินโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ฉันบอกว่าตอนนี้ตระกูลเว่ยเหลือเพียงแค่พวกแกสองคนเท่านั้นแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้!” เว่ยอวี้เฉิงตะโกนด้วยความโมโห “พ่อของฉันเป็นถึงปรมาจารย์!”

เพราะปรมาจารย์สำหรับโลกฝึกบู๊แล้ว เป็นเหมือนเทพเจ้า หากต้องการฆ่าปรมาจารย์คนหนึ่ง เว้นเสียแต่พลังของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์มาก

“สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง” เสียงของตาเฒ่าเว่ยเต็มไปด้วยความโกรธ เดิมร่างกายที่ค่อมของเขา ค่อย ๆ ตรง

“คุณปู่ ผมไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถฆ่าพ่อได้!” เว่ยอวี้เฉิงยังคงไม่อยากเชื่อ อาจกล่าวได้ว่าเขาไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะมีความสามารถเช่นนั้น

“ส่งตัวเซวียจื่ออีออกมา แล้วฉันจะให้ศพของแกอยู่ในสภาพสมบูรณ์!” เฉินโม่มองตาเฒ่าเว่ย และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ขณะนี้ร่างกายของตาเฒ่าเว่ยตรงแล้ว ส่วนสูงของเขานั้นสูงกว่าเว่ยอวี้เฉิงที่อยู่ด้านข้าง ดูเหมือนว่าอายุของเขาจะอ่อนลงสิบกว่าปี

“เจ้าเด็ก เพื่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งแล้ว แกฆ่าล้างสมาชิกของตระกูลเว่ย ฉันจะทำให้แกกลายเป็นเถ้าถ่าน แล้วฆ่าสมาชิกทั้งหมดของตระกูลแก!” ตาเฒ่าเว่ยคำรามด้วยสีหน้าดุร้าย

“มันต้องดูว่าแกมีความสามารถนั้นหรือเปล่า!” เฉินโม่กล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ

“ถ้าเช่นนั้นแกก็คอยดูเถอะ!” หลังจากตาเฒ่าเว่ยกล่าวจบ เขาก็พุ่งเข้ามาหาเฉินโม่เหมือนเสือชีตาห์ แล้วปล่อยพลังหมัดออกมา

“ปรมาจารย์แดนคุ้มกาย” เฉินโม่พ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “มิน่าล่ะตระกูลเว่ยถึงได้จองหองขนาดนี้!”

“แต่น่าเสียดายที่ตระกูลเว่ยของพวกแกเจอฉัน!”