แดนนิรมิตเทพ บทที่ 663
ขาทั้งคู่ของพานรุ่ยหมิงสั่น เขาเห็นจุดจบของการล่วงเกินเฉินไต้ซือแล้ว แล้วยังเห็นความเด็ดขาดและความโหดเหี้ยมของเฉินไต้ซืออีกด้วย

เขาคิดว่าเด็กหนุ่มที่อยู่หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีคนนี้รังแกได้ง่าย แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตนเองได้ยั่วยุคนที่มีสถานะแบบไหน!

“พาผมไป!” เฉินโม่มองเด็กรุ่นหลังของตระกูลเว่ยที่อยู่ด้านข้าง น้ำเสียงยังคงราบเรียบ ราวกับว่าสิ่งที่เขาฆ่าเมื่อสักครู่ไม่ใช่คน แต่เป็นเหมือนการเหยียบมดตายเท่านั้น

สีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขาทั้งคู่ของเขาสั่น ถ้าเมื่อสักครู่เขาไม่ยืนออกมา ตอนนี้เขาคงจะเป็นหนึ่งในศพที่อยู่บนพื้นแล้ว

“ครับ!”

ชายหนุ่มก้มหน้าลง แต่ไม่กล้าสบตาเฉินโม่ เขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ

“น้อมส่งเฉินซือ!” พานเยว่ซานประสานมือทั้งสองข้างเป็นการคำนับด้วยความนอบน้อม

ส่วนพานรุ่ยหมิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และแอบเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก เวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที แต่หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

โชคดีที่เฉินโม่จากไปแล้ว

พานรุ่ยหมิงคำนับอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่จริงจัง “น้อมส่งเฉินไต้ซือ!”

เมื่อสมาชิกคนอื่นของตระกูลพานเห็นว่าผู้นำตระกูลและตัวแทนผู้นำตระกูลต่างคำนับเฉินไต้ซือ พวกเขาก็รีบคำนับตามทันที

เฉินโม่โบกมือโดยไม่หันกลับมา เขาพาเซวียมู่หัวและเด็กรุ่นหลังของตระกูลเว่ยเดินจากไปอย่างช้า ๆ

สมาชิกของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน ทุกคนต่างก้มหน้าและสั่นไปทั้งตัว

หลังจากรอให้เฉินโม่จากไปแล้ว ทุกคนถึงกล้าเงยหน้าขึ้น แล้วมองยังทิศทางที่เฉินโม่เดินจากไป

ตอนแรกคนเหล่านี้คิดว่าเฉินโม่จะมาคิดบัญชีกับพวกเขา เพราะเมื่อสักครู่พวกเขาร่วมมือกันโจมตีเฉินโม่ แต่ผลลัพธ์คือเฉินโม่ไม่มองพวกเขาแม้แต่แวบเดียว และละเลยพวกเขาโดยตรง

หลังจากเห็นเฉินโม่เดินจากไปแล้ว พานรุ่ยหมิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่มีรอยยิ้มขมขื่นปรากฏอยู่บนใบหน้า

“ผมคิดเสมอว่าเขาจะถือว่าผมเป็นคู่ต่อสู้ แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะละเลยผมโดยตรง เฉินไต้ซือแน่จริงๆ!”

พานเยว่ซานมองพานรุ่ยหมิงด้วยท่าทางจริงจัง “แจ้งสมาชิกทุกคนของตระกูลพานว่าต่อไปถ้าพบเฉินไต้ซือ ให้ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพในฐานะเฉินซือ ถ้าใครฝ่าฝืน จะถูกลงโทษตามกฎตระกูล!”

พานรุ่ยหมิงตกใจจนเหงื่อเย็นออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าพี่ชายของเขาจะสังเกตเห็นว่าเขาได้ล่วงเกินเฉินไต้ซือ เขาจึงรีบคำนับและตอบว่า “ครับ ผมจะไปแจ้งให้ทุกคนทราบทันที!”

ผู้กุมอำนาจของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานที่เหลือคิดไตร่ตรอง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็ออกคำสั่งให้สมาชิกของตระกูลห้ามล่วงเกินเฉินไต้ซือเด็ดขาด!

เฉินโม่มาที่วิลล่าเล็ก ๆ จากการนำทางของชายหนุ่มของตระกูลเว่ย ซึ่งเป็นวิลล่าอีกหลังหนึ่งของตระกูลเว่ย

“คุณชายเฉิงนำคนมาซ่อนอยู่ที่นี่ แต่ผมไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอน!” ชายหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้ากังวล เพราะกลัวว่าเฉินโม่จะไม่พอใจและฆ่าเขาทันที

เฉินโม่มองวิลล่าหลังเล็กที่อยู่ตรงหน้า ต้นไม้ต้นหญ้าเขียวขจี มองแล้วสบายตา แต่ดวงตาของเฉินโม่มีความประหลาดใจ

“คุณไปเถอะ!” เฉินโม่กล่าวกับหนุ่มตระกูลเว่ย

ชายหนุ่มรู้สึกดีใจมาก และมองเฉินโม่ด้วยความตื่นเต้น “คุณยอมปล่อยผมไปจริง ๆ เหรอ?”

“อืม” เฉินโม่พยักหน้าแล้วเดินตรงไปที่ประตูใหญ่

เซวียมู่หัวเดินตามเฉินโม่อย่างใกล้ชิด เมื่อเขารู้ข่าวของน้องสาวแล้ว ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

ชายหนุ่มรู้สึกราวกับตนเองได้รับการนิรโทษกรรม และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

ประตูใหญ่ของวิลล่าไม่ได้ล็อก เพียงแต่ปิดไว้เท่านั้น เฉินโม่ผลักเบา ๆ ประตูใหญ่ก็เปิดออก

เซวียมู่หัวกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เฉินไต้ซือ นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่ล็อกประตู ระวังว่าจะมีคนซุ่มโจมตีอยู่ข้างใน!”

การวิเคราะห์ของเซวียมู่หัวถูกต้อง มีคนซุ่มโจมตีจริง ๆ แต่เฉินโม่จะกลัวได้อย่างไร?

“เดินตามหลังผม อย่าห่างผมเกินระยะสามเมตร!” เฉินโม่สั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“ครับ!” เซวียมู่หัวพยักหน้าแล้วเดินตามเฉินโม่อย่างใกล้ชิด

ตลอดเส้นทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการซุ่มโจมตีใด ๆ เฉินโม่พาเซวียมู่หัวเดินเข้าไปในห้องโถงของวิลล่า