ตอนที่ 307 เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า / ตอนที่ 308 หลังจากนี้เจ้าอยู่ให้ห่างๆ เขาเสีย

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 307 เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า

 

 

 

 

หงอวี้บอกไม่ต้องแล้วและให้นางกำนัลไปรอข้างนอก ไทเฮาหลับไม่สงบนัก อีกเดี๋ยวก็กังวลอีกเดี๋ยวก็ถอนหายใจ สุดท้ายถึงกับน้ำตาไหลออกมา เหมือนดั่งเจอใครบางคนในฝันเช่นนั้น พูดอยู่ตลอดว่า “ขอโทษ” หงอวี้เห็นไทเฮาฝันร้ายจึงคุกเข่าที่พื้นแล้วพูดเบาๆ ว่า “ไทเฮา…ไทเฮา…ตื่นเถิดเพคะ…”

 

 

หน้าผากไทเฮามีเหงื่อซึมออกมา สีหน้าก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ “ขอโทษ…เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า…อิ๋งหง…”

 

 

ไฉนถึงฝันถึงอิ๋งหงอีกเล่า ไทเฮาผิดต่อเขาอย่างไร ช่วยชีวิตครอบครัวของเขายังถือว่าผิดต่อเขาอีกหรือ ในใจหงอวี้สงสัย กำลังจะให้คนไปเชิญหมอหลวงมา ไทเฮากลับตกใจตื่นขึ้นมา หอบหายใจท่าทางยังหวาดผวาอยู่

 

 

“ไทเฮา ทรงตื่นแล้วหรือเพคะ” หงอวี้ริมชาให้นาง “เมื่อครู่ทำเอาบ่าวตกใจแทบแย่ พระองค์ฝันร้ายเสียแล้ว ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น”

 

 

นางบิดผ้าหมาดๆ แล้วเช็ดเหงื่อให้ไทเฮา เช็ดเสร็จแล้วก็คุกเข่ารอฟังคำสั่ง

 

 

ไทเฮาลูบอกถามหงอวี้ว่า “ข้า…ข้าได้พูดอะไรหรือไม่”

 

 

หงอวี้ส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล พูดว่า “เหงื่อซึมออกมาเท่านั้น ก็ไม่ได้พูดอะไร พระองค์ฝันถึงสิ่งใดหรือเพคะ ให้บ่าวไปเชิญหมอหลวงมาดูให้พระองค์ดีหรือไม่”

 

 

“ไม่ต้องแล้ว แค่ฝันร้าย เจ้าให้คนมาจุดธูปสงบจิต ข้าจะนอนต่อเสียอีกหน่อย”

 

 

หงอวี้ขานรับแล้วถอยออกไปสั่งคนมาทำ

 

 

หลังจากเดือนเจ็ด อากาศร้อนยิ่งนัก ตอนแรกฮ่องเต้ตรัสว่าจะส่งทหารไปปราบซู่อ๋อง เพียงแต่ยิ่งไปทางเหนือภัยแล้งก็ยิ่งหนัก ที่นาไร้น้ำ ไม่มีผลผลิต ประชาชนทุกข์ยาก เขาเป็นถึงฮ่องเต้ จะทำศึกตอนนี้โดยไม่สนใจชีวิตประชาชนไม่ได้

 

 

ยามนี้เป็นยามดีที่จะซื้อใจประชาชน ราชสำนักได้มีคำสั่งลงมายังแต่ละเมืองที่มีภัยแล้งหนักให้ข้าราชการในเมืองนั้นๆ แจกจ่ายเสบียง และให้เงินห้าหมื่นตำลึงกับทุกเมืองเพื่อช่วยประชาชนที่เดือดร้อน ที่ไปแจกเงินให้นั้นยังมีข้าราชการที่ฮ่องเต้ตรัสสั่งด้วยตัวพระองค์เองเพื่อจะเฝ้ามอง หากเห็นว่ามีการกระทำที่โกงเงินไม่ยอมแจกเสบียง ไม่ต้องรายงาน ให้ประหารทันที!

 

 

เมืองเหมิงที่ซู่อ๋องอยู่ก็อยู่ในรายชื่อภัยแล้ง ตอนที่ฮ่องเต้แจกเงินนั้น มีคนถามว่าเมืองเหมิงควรจะทำอย่างไรดี ฮ่องเต้สะบัดมือให้ข้ามผ่านไป “เขาซื้อใจประชาชนเป็น เราก็ซื้อใจประชาชนเป็นเช่นกัน ในเมื่อประชาชนเมืองเหมิงยอมตายเพื่อเขา เช่นนั้นก็ให้พวกเขาไปตายเสีย จะได้ทำให้คนดูว่า ตกลงใครที่เป็นฮ่องเต้จริงๆ เขาทนไหว แต่ประชาชนทนไม่ไหว เราจะให้เมืองเหมิงไม่ต้องตีก็แตกพ่ายไปเอง!”

 

 

แม้ว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะแกล้งป่วยอยู่บ้าน ไม่ออกจากบ้านไม่ไปเข้าราชกิจ แต่หูนี้ก็ไม่ได้ว่างเลย สามคนที่เขาสั่งสอนที่หอนางโลมนั้น พอมีเวลาว่างก็วิ่งมาที่เขานี้ หมอหลวงที่ฮ่องเต้ส่งมารักษาเขาก็มาสองสามครั้ง ผลที่สำนักหมอหลวงสรุปออกมาก็คือสั่งยาคลายร้อนให้เขากินทุกวัน หมอไร้ฝีมือก็มีข้อดีของหมอไร้ฝีมือ อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องดื่มยาทุกวันเพื่อแกล้งป่วยแล้ว ยามที่ไม่มีใครอยู่ก็มีชีวิตชีวา หากมีคนมาก็แกล้งป่วยทันที

 

 

สามคนนั้นมาเล่าเรื่องราชกิจให้เขาฟังทุกวัน พอพูดถึงท่าทางของฮ่องเต้ที่มีต่อเมืองเหมิง เฝิงเยี่ยไป๋ก็อ้าปากหัวเราะขึ้นมา

 

 

สามคนนี้หวาดผวากับเสียงหัวเราะของเฝิงเยี่ยไป๋ ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร กำลังจะถามอยู่นั้น ก็ได้ยินเขากระแอมสองที เฉาเต๋อหลุนเข้าใจความหมาย จึงขึ้นไปโค้งคำนับว่า “ใต้เท้าทั้งสามเชิญกลับก่อนเถิด ท่านอ๋องพวกเรายังไม่หายดี ไม่ควรให้กังวลมากนัก”

 

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 308 หลังจากนี้เจ้าอยู่ให้ห่างๆ เขาเสีย

 

 

 

 

เรื่องภัยแล้งไม่ใช่เรื่องเล็ก ประชาชนล้วนมิได้อาศัยท้องฟ้าอากาศกินข้าว ฮ่องเต้แจกเงินลงโทษคนโกงก็ได้ใจประชาชนจริง เพียงแต่ที่ไม่สมควรเลย ก็คือไม่สมควรข้ามเมืองเหมิงไป

 

 

เพียงแต่ควรไม่ควรนั้น ยามนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของเขา ยามนี้ซู่อ๋องก็ต้องกังวลเรื่องนี้ เรื่องของพวกเขาพี่น้อง ก็ไม่ใช่เขาที่เป็นคนนอกจะไปยุ่งเกี่ยว อย่างไรเสียทำใจให้สบายอยู่ที่บ้าน อยู่กับภรรยาเล่นกับแมว จิบชาฟังเพลงให้สบายเสีย

 

 

แมวที่ครั้งที่แล้วจับนกพิราบนั้นได้ถูกเฉินยางเลี้ยงไว้แล้ว

 

 

แมวนิสัยดุ ตอนที่จับอยู่นั้นใช้แรงไปไม่น้อย สุดท้ายก็เป็นเฉินยางที่พุ่งเข้าไปคว้าหางแมวไว้ นางไม่กล้าออกแรง กลัวจะทำมันเจ็บ เพียงแต่แมวนั้นไม่มีความสงสาร กรงเล็บทั้งสองได้ข่วนมือของเฉินยางจนเละ

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋โกรธจนหน้าดำคร่ำเครียด จะเข้าไปบีบคอแมวตายให้ได้ เจ้าสัตว์น้อยไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนัก ตาบอดเสียแล้วหรือกระไร ไม่รู้จักดูว่าเป็นผู้หญิงของใคร เนื้อหนังดีๆ ถูกข่วนจนเละเช่นนี้ โอ๊ย ดูไม่ได้ ดูแล้วก็ทำเอาหัวใจเจ็บช้ำขึ้นมามากมาย

 

 

“ขังอยู่ในกรงเลี้ยงไว้สองวัน รอให้คุ้นชินแล้วค่อยปล่อยออกมา แมวเลี้ยงง่ายที่สุดแล้ว ขอเพียงเลี้ยงจนอิ่มก็ใช้ได้ ข้าจะทำประตูเล็กที่กำแพงให้มัน จะได้เข้าออกสะดวก แมวฉลาดนัก มันฟังภาษาคนรู้เรื่อง ใครดีกับมัน ในใจมันรู้เป็นอย่างดี”

 

 

พูดถึงเรื่องเลี้ยงแมว นางตื่นเต้นยิ่งกว่าใครๆ งานเย็บปักที่เพิ่งเรียนมา ยังไม่ได้ปักอะไรให้เขาเลยแม้แต่น้อย กลับทำที่นอนแมวขึ้นมาเสียแล้ว แม้ว่าที่นอนแมวนั้นจะไม่ได้ดูดีนัก เพียงแต่มันเป็นเพียงสัตว์จะไปรู้อะไร เมื่อก่อนเร่ร่อนไร้ที่พึ่งพิง ยามนี้ได้ชีวิตดีๆ เช่นนี้ ล้วนเป็นบรรพบุรุษของมันที่ทำบุญมาดี

 

 

“เมื่อก่อนไม่มีใครเลี้ยงก็ไม่เห็นมันอยู่ดีเช่นนี้ จะต้องให้เจ้าเสียแรงเช่นนี้หรือ โยนเสื้อผ้าเก่าๆ ให้มันก็พอแล้ว มันมีค่าพอที่จะทำที่นอนให้หรือ” เฝิงเยี่ยไป๋ยื่นมือไปจิ้มร่างขาวนวลของแมว เขาไม่ทันระวัง ก็ถูกเล็บแมวข่วนมือเข้าให้ เขาสูดปากร้องออกมาด้วยความเจ็บ ยกเท้าเตะกรง “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน ไม่รู้จักดูว่าเป็นใครเจ้ายังกล้าข่วนอีก ระวังคืนนี้ข้าจะฆ่าเจ้ามาต้มเนื้อกิน!”

 

 

ซั่งเหมยกับซั่งเซียงกลั้นหัวเราะ เป็นถึงท่านอ๋อง ถึงกับโมโหใส่แมวขึ้นมาแล้ว!

 

 

เฉินยางถลึงตาใส่เฝิงเยี่ยไป๋ด้วยท่าทางกล่าวโทษ “ท่านไม่จิ้มมัน มันจะกัดท่านได้หรือ อีกอย่าง ข้าเป็นคนเลี้ยง ไม่ใช่ท่านเลี้ยงเสียหน่อย ข้าเป็นคนออกแรง ข้ายินดี!”

 

 

ได้ นางยินดี ยินดีก็พอ เขายังจะพูดอะไรได้อีก! คนใบ้กินถูกตีฟันร่วงต้องกลืนเข้าท้อง!

 

 

“ซั่งเหมย ยาที่เจ้าให้ข้าทาวันก่อนเล่า” นางก็ไม่ใช่คนแข็งกระด้าง ถูกข่วนแล้วเจ็บเพียงใดนางรู้ดีที่สุด นิสัยของแมวเอาแน่เอานอนไม่ได้ เล่นเจ้าได้ดีก็ใช้เล็บข่วน เล่นกับเจ้าไม่ดีก็ใช้เล็บข่วน นางไม่รู้ถูกข่วนมากมายเพียงใดแล้ว ดังนั้นจึงให้ซั่งเหมยเตรียมยาไว้อยู่ตลอด จะได้ไม่ต้องไปรบกวนอิ๋งโจวทุกครั้ง และไม่ต้องให้เฝิงเยี่ยไป๋หาเรื่องอยู่ตลอด

 

 

“แมวตัวนี้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนัก หลังจากนี้เจ้าก็แตะมันให้น้อยๆ หน่อย เล็บของมันวันๆ เอาแต่เขี่ยดินจับหนู ข้างในไม่รู้มีของสกปรกเท่าใด หลังจากนี้เจ้าอยู่ให้ห่างๆ มันเข้าไว้”

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋เกลียดแมว ไม่ใช่เพียงอยู่ๆ ก็ข่วนมือเฉินยางทำเอาเขาเจ็บปวดหัวใจ ที่สำคัญคือจิตใจของเฉินยางที่มีต่อมัน ท่าทางนั้นราวกับว่ามันถึงเป็นเจ้านายตัวจริงเช่นนั้น ท่านแมววันๆ กินอิ่มแล้วก็นอน นอนอิ่มแล้วก็กิน เพิ่งมาไม่กี่วันเท่านั้น ร่างกายก็อ้วนขึ้นมาอีกเท่าตัวเสียแล้ว